เราเข้าใจวอลเลย์บอลไทย หรือ แค่เชียร์เอามันส์?

เราเข้าใจวอลเลย์บอลไทย หรือ แค่เชียร์เอามันส์?

เราเข้าใจวอลเลย์บอลไทย หรือ แค่เชียร์เอามันส์?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มีช่วงนึงที่เครียดตามไปกับคอมเม้นในเฟสบุค ถึงเรื่องราวที่ดราม่ากันมาอย่างยาวนาน จากประโยคเดียวของนายกวอลเลย์บอล " เราจะเอาชุดใหญ่ไปเอเชี่ยนเกมส์" ข้อความสั้นๆจากปากท่านผู้นำลูกยางไทย หลายคนถึงกับอุทานว่า "เฮ้ย! ทำไมถึงเป็นแบบนี้"

แต่...เราเคยถามตัวเราเองกันไหมว่า เราเข้าใจ "วอลเลย์บอลไทย" จริงๆมากแค่ไหน หรือเราขอแค่เชียร์เอามันส์เท่านั้น

เรื่องราวต่อจากนี้ไป จะเป็นการ "แชร์" สิ่งที่ได้รับมา เพื่อให้ได้เห็นอะไรอีกมุมจากที่เรามองมาโดยตลอด

 
ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย ตอนนี้หลายคนยังใสปิ๊ง
 
กว่าที่จะมีทีมวอลเลย์บอล 1 ทีมของไทย ใช้เวลามานานกี่ปี ...( 555 ) เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้เช่นกันครับ เพราะฉะนั้นจึงต้องขอข้อมูลจากผู้รู้ ซึ่ง"ผู้รู้"ที่จะตอบได้ดีที่สุดคือ "โค้ชอ๊อต" ผู้ฝึกสอนของทีมไทย
ผมเก็บเรื่องนี้มานาน จนคิดว่ามันคงถึงเวลาจริงๆที่จะนำมา สื่อต่อให้หลายๆคนได้ทราบกัน
 
ที่เวียดนาม ผมได้มีโอกาสนั่งคุยกับโค้ช พร้อมกับเก็บคำถาม ที่เชื่อว่าหลายๆคนอยากทราบว่า "ทำไมเอาชุดใหญ่ไปเอเชียเกมส์ และ ชุดเล็กไปชิงแชมป์โลก" ไว้ในใจและรอโอกาสที่จะยิงตรง
แต่ ตลอดระยะเวลา 15 วันที่เวียดนาม ผมไม่กล้าเอ่ยถามสักครั้ง กลับกลายเป็นว่าผมได้รับคำตอบที่เกิดจากการเข้าใจ
 
โค้ชอ๊อต ดูแลนักกีฬาชุดวีทีวีคัพ(กลุ่มฮอบบิท)เป็นอย่างดี พยายามสอนและให้ความรู้ ถ่ายทอดในแบบที่ให้นักกีฬาได้สัมผัสด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการดูเกมคู่ต่อสู้ แล้วมาวิเคราะห์ การให้นักกีฬาได้ลงสนามไปเจอกับความกดดัน คือมีโอกาสอะไรที่โค้ชจะจัดหาให้ได้ โค้ชพร้อมจัด....เพื่อให้นักกีฬาได้เรียนรู้
 
แชมป์เอเชียปี 2009 ที่ได้มาเพราะความพยายาม
 
ในขณะเดียวกัน โค้ชได้เล่าว่าสมัยก่อน กว่าจะมีทีมวอลเลย์บอลที่เราได้เห็นกันมาทุกวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องยาก ทุกคนเจอเรื่องลำบากกันมาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นโค้ชเองหรือนักกีฬา
ด้วยความทุ่มเทพยายามของทุกคนเราถึงมีวันนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทีมนี้จะอยู่กับเราได้ตลอดไป เพราะฉะนั้นเราจึงต้องสร้าง
อีกอย่างเราต้องเข้าใจว่าประเทศไทย ไม่ใช่ประเทศที่มีทรัพยากรในเรื่องนักกีฬาให้เลือกเหมือนจีนเยอะ หรือ มีเงินสนับสนุนแบบญี่ปุ่น "ทีมเราใช้ความพ่ายแพ้เป็นทุนในการสร้าง"
จากนั้นทุกครั้งที่ผมนั่งดูน้องๆลงแข่ง ได้เห็นข้อผิดพลาดของเขา ผมจะนึกถึงคำของโค้ชขึ้นมาทันทีคือ "ให้โอกาสเขาได้เรียนรู้"
 
จากการที่ได้อยู่กับทีม และ ได้เห็นอะไรที่โค้ชทำ มันเริ่มทำให้ความเข้าใจอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น ผมพยายามเก็บ จด และ จำ ทุกอย่างให้ได้เยอะที่สุดจากประสบการณ์ที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับทีม แต่บางครั้งต้องบอกว่าเราเพลินไปกับมัน เพลินไปกับการเดินเรื่องที่โค้ชได้วางเอาไว้ 
 
กว่าจะมาเดินมาได้ขนาดนี้ ไม่รู้แพ้มากี่ครั้ง (ภาพ IG ปลื้มจิตร์) 
 
สำหรับตัวผมคิดว่าปีนี้เป็นปีทองของวงการวอลเลย์บอลไทยจริงๆ ที่จะได้โอกาสในการพัฒนาอย่างเต็มตัว ด้วยสาเหตุหลักคือมีการแข่งขันรายการ เอเชี่ยนเกมส์ กับ ชิงแชมป์โลก ที่ทับกัน
อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่โชคดีเมื่อรายการเอวีซีทีมไทยเราไม่ต้องเหนื่อยที่จะไปคัดเอาโควต้าเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2015 จึงเป็นเหตุให้สายเลือดใหม่ได้ไปลุย ได้ไปลอง ได้ไปแพ้ และ ที่สำคัญได้ไปให้โดนด่า เพื่อเป็นเกราะป้องกันทางความรู้สึกในอนาคต
 
บางคนอาจจะยังค้านเมื่อมองถึงความสำคัญว่า "ชิงแชมป์โลก" คือรายการที่เราควรไป เพราะเป็นรายการใหญ่ แต่อย่าลืมว่าวงการวอลเลย์บอลไทยยังไม่เคยมีเหรียญในรายการเอเชี่ยนเกมส์ และ เราเคยรู้ไหมว่านักกีฬาตัวหลักๆหลายๆคนอยากไปรายการไหน
ซึ่งบางคนอาจจะได้เล่นเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย และ โอกาสที่จะคว้าเหรียญมาเป็นเกียรติต่อตนเอง และ พี่น้องชาวไทยมันก็มีอยู่พอสมควร เพราะเหรียญที่ได้มามันไม่ได้อยู่ที่ว่า ญี่ปุ่นชุดไหน จีนชุดไหน หรือ ทีมอะไรชุดไหน เมื่อมีธงชาติอยู่ที่อกลงสนามก็ไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว
 
จนมาถึงวันนี้ เอเชี่ยนเกมส์ เริ่มขึ้น ชิงแชมป์โลกกำลังเดินทาง ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามเรื่องราว ที่ชวนให้เราได้ติดตาม และ ทำความเข้าใจไปกับมัน
มาถึงตรงนี้แล้ว คำถามที่ยังคาใจว่า "ทำไมเอาชุดใหญ่ไปเอเชียเกมส์ และ ชุดเล็กไปชิงแชมป์โลก" ผมพับเก็บมันใส่ลิ้นชักที่ล็อคด้วยความรู้สึกที่"เข้าใจ"เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ....
 
 
เรื่องโดย : เอก ประวิตร
 
 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook