จิ้งจอก 10 ตัวสุดต้านหงส์เชือด3-1จมก้นตารางตามเดิม

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2014-2015

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม 2557

เลสเตอร์ ซิตี้ 1-3 ลิเวอร์พูล

สนาม : คิงส์ พาวเวอร์ สเตเดี้ยม

ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน

เกมผ่านมากว่า 10 นาที ลิเวอร์พูล โถมเกมรุกบุกหนัก แต่ก็ยังทำอะไรเจ้าบ้านไม่ได้ ส่วนเลสเตอร์ นั้นมี วาร์ดี้ ยืนหน้าเป้าคอยโอกาศในการโต้กลับเร็ว ซึ่งก็น่ากลัวและน่าลุ้นประตูมากในหลายๆจังหวะ

นาทีที่ 15 ลิเวอร์พูลทำเกมขึ้นสวย จากจังหวะ เจอร์ราร์ด จ่ายออกขวาให้ แลมเบิร์ต  แทงทะลุให้ สเตอร์ลิง แตะหลบ ชไมเคิ่ล ไปได้แล้ว แต่แรงเกินไป บอลออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 19 มินโญเล่ต์ เปิดบอลพลาดไปเขาทาง กัมบีอัสโซ่ โล่งๆบริเวณหัวกระโหลก จัดการแปเน้นๆ บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 21 เกมโต้กลับเร็วของเลสเตอร์สัมฤทธิ์ผล ริยาด มาห์เรซ พาบอลขึ้นหน้า ค่อยๆหุบเข้ากลาง ก่อนจ่ายฉีกขวาให้  เจมี่ วาร์ดี้ ยิงจ่อๆ แต่มุมแคบ มินโญเล่ต์ ปัดได้ แต่บอลยังไม่ออก ลีโอนาโด้ อูญัว ตามเก็บ ก่อนยิงยัดไปอีกที บอลชนเสา เด้งชนมินโญเล่ต์ ก่อนเข้าประตูไปในที่สุด [1-0]

นาทีที่ 27 ลิเวอร์พูลตีเสมอได้อย่างรวดเร็ว เริ่มจากฟรีคิกของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด โยนไปหน้าประตู บอลถูกสกัด ลูคัส เลว่า  เก็บบอลได้ ตั้งใจโยนให้ แลมเบิร์ต แต่ มอร์แกน โหม่งสกัดไม่ดีกลายเป็นตั้งให้ อดัม ลัลลาน่า แปสวนกลับทันที บอลผ่านมือ ชไมเคิ่ล เข้าประตูไปอย่างสวยงาม [1-1]

นาทีที่ 40 เกมหยุดไปกว่า 2 นาที หลัง อดัม ลัลลาน่า ได้รับบาดเจ็บจากการโดนเข้าปะทะหนัก แต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก สามารถกลับมาเล่นได้

จบครึ่งแรก เสมอ 1-1

ครึ่งหลัง…

นาทีที่ 53 ลิเวอร์พูล พลิกขึ้นแซง จากจังหวะ เจอร์ราร์ด จ่ายออกซ้ายให้ สเตอร์ลิง ตั้งใจปาดเข้ากลาง เวส มอร์แกน สกัดบอลไม่ดีอีกแล้ว กลายเป็นจับบอลให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด วิ่งเข้ามายิงสวนกลับโล่งๆ อลเข้าประตูไปในที่สุด  ชไมเคิ่ล หมดสิทธิ์รับทันที [1-2]

นาทีที่ 63 ฝันร้ายของ เวส มอร์แกน สุดๆวันนี้ ทำอะไรก็ดูแย่ไปหมด ก่อนหน้านี้ส่งให้คู่ต่อสู้ยิงไป 2 ลูก แะคราวนี้เจ้าตัวก็โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ในจังหวะไปดึง ริคกี้ แลมเบิร์ต ที่กำลังจะหลุดเดี่ยว กรรมไม่รีรอชักใบเหลืองให้ทันที เลสเตอร์ ซิตี้ เหลือผู้เล่น 10 คน

นาทีที่ 73 สตีเว่น เจอร์ราร์ด หลุดเดี่ยว ปะทะกับแคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ล้มลงในกรอบเขตโทษ หวังได้จุดโทษ แต่กรรมการไม่เป่าให้ เล่นเอาเจ้าตัวอึ้งมึนงงไปเลย

นาทีที่ 83 ลิเวอร์ปิดเกม หลังได้ประตูนำออกห่าง จากจังหวะ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ดีดให้ สเตอร์ลิง บอลโดนสกัด แต่เจ้าตัวตามไปเก็บได้ ชไมเคิ่ล ออกมาหวังคว้าบอล สเตอร์ลิง ฉลาดมากตอกส้นคืนเข้ากลางให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แปโล่งๆเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

นาทีที่ 88 มาร์ติน สเคอร์เทล นอนตาลอย หลังโดนบอลอัดเข้าเต็มหัว ในจังหวะที่ แม็ทธิว เจมส์ ยิง

จบเกม ลิเวอร์พูลบุกมาเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 โดยเจ้าบ้านนั้นได้ประตูออกนำไปก่อน จากการยิงประตูของ ลีโอนาโด้ อูญัว แต่เครดิตเป็นของ ซิมง มินโญเล่ต์ เพราะบอลเด้งโดนตัวมินโญเล่ต์ก่อน จากนั้น ลิเวอร์พูลก็ทำ 3 ประตู พลิกแซงและเอาชนะไปในที่สุด

เลสเตอร์ ซิตี้ ยังคงจมก้นตารางอยู่เหมือนเดิม ด้วยคะแนนทั้งสิ้นเพียง 10 คะแนน ส่วนลิเวอร์พูล เก็บแต้มเพิ่มเป็น 20 แต้ม รั้งอันดับ 8 ของตาราง

ผู้เล่นที่ลงสนาม
เลสเตอร์ ซิตี้ เอฟซีเลสเตอร์ ซิตี้ :(4-4-2)
ผู้รักษาประตู : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล
กองหลัง : ริตชี่ เดอ เลียต, มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้, เวส มอร์แกน, พอล คอนเชสกี้
กองกลาง : แม็ทธิว เจมส์, ริยาด มาห์เรซ, เอสเตบัน กัมบีอัสโซ่, เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์
กองหน้า : ลีโอนาโด้ อูญัว , เจมี่ วาร์ดี้
กุนซือ : ไนเจล เพียร์สัน

ลิเวอร์พูล เอฟซีลิเวอร์พูล :(4-4-2)
ผู้รักษาประตู : ซิมง มินโญเล่ต์
กองหลัง : ฆาบี มานกีโญ่(อัลเบร์โต้ โมเรโน่ น.45) , มาร์ติน สเคอร์เทล, โคโล ตูเร่, เกล็น จอห์นสัน
กองกลาง : สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูคัส เลว่า , อดัม ลัลลาน่า(โจ อัลเลน น.70)
กองหน้า : ราฮีม สเตอร์ลิง(เดยัน ลอฟเรน น.90+4), ริคกี้ แลมเบิร์ต
กุนซือ : เบรนแดน ร็อดเจอร์