เอฟเอ คัพ "ถ้วยไม้กันหมา"

เอฟเอ คัพ "ถ้วยไม้กันหมา"

เอฟเอ คัพ "ถ้วยไม้กันหมา"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในที่สุดก็ได้แปดทีมในรอบก่อนรองชนะเลิศครบแล้ว หลังเสร็จสิ้นเสียงนกหวีดที่สนามดีพเดลของ “เปรสตัน นอร์ทเอนด์” ที่เปิดบ้านพ่ายให้แก่ทัพอสูรแดง “แมนฯ ยูไนเต็ด” ที่เล่นเป็นปลาร้าปลาเจ่าในครึ่งแรก แถมโดนยิงนำอีก แต่ก็พลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะเข้ารอบ 3-1

อย่างที่เคยเขียนกันไปว่า ฟุตบอลรายการนี้กลับมามีความสำคัญมากขึ้นกว่าช่วงยุค 10 ปีที่ผ่านมา เพราะการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกในช่วงหลังเหมือนจะเป็นการผูกขาดของสองมหาเศรษฐีโรคจิตอย่าง “แมนฯ ซิตี้” และ “เชลซี” ที่มีปัจจัยสำคัญซึ่งทีมอื่นไม่มี หรือมีน้อยกว่าคือ “เงิน”


ที่สำคัญสองทีมนี้ตกรอบไปแล้ว จึงเหลือแค่ “แมนฯ ยูฯ” “อาร์เซน่อล” และ “ลิเวอร์พูล” ที่แชมป์คงไม่หนีจาก 3 ทีมนี้ แม้ว่าจะมีทีมจากพรีเมียร์ลีกอีกทีมคือสิงห์หงอย “แอสตัน วิลล่า” แต่ช่วงนี้ระส่ำเหลือเกิน

อีกอย่างที่ไม่อยากเชื่อคือ มีทีมที่ไม่ใช่จากลีกสูงสุดหรือ “พรีเมียร์ลีก” เข้ามาถึง 4 ทีม นั่นก็คือ “แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส” “แบร๊ดฟอร์ด” ที่ล้มยักษ์มา 2 นัดติด “เรดดิ้ง” และ “เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน” ถึงบางทีมอย่าง แบล็กเบิร์น หรือ เวสต์บรอมวิช จะคุ้นชื่อคุ้นหน้าสำหรับคอบอล แต่ยังไงศักยภาพก็เทียบกับสมัยที่เล่นในลีกสูงสุดไม่ได้

ที่สำคัญเงินรางวัลของฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดของอังกฤษใบนี้ ก็แสนน้อยนิด เป็นแชมป์ได้ไม่ถึง 2 ล้านปอนด์ (แชมป์ได้ 1.8 ล้านปอนด์) รองแชมป์ได้ไม่ถึงล้าน (รองแชมป์ได้ 9 แสนปอนด์)

ทำให้การเข้ารอบลึกๆ หรือประสบความสำเร็จในฟุตบอลรายการนี้สำหรับทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีก ไม่ได้ช่วยหรือทำกำไรทางด้านการเงินให้กับสโมสรมากมายเหมือนฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

แต่มนต์ขลังของถ้วยอายุแก่กว่าคุณปู่ใบนี้ คงเป็นคำว่า “ฟุตบอลถ้วยสูงสุดในอังกฤษและเก่าแก่ที่สุดในโลก” กระมั้ง หรืออย่างน้อยๆก็เป็น “ไม้กันหมา” ได้เป็นอย่างดีให้กับบรรดาผู้จัดการทีมใหญ่ที่อาจจะล้มเหลวในการลุ้นแชมป์หรือหรือฟุตบอลยุโรป เพื่อไม่ให้ถูกไล่ออกในช่วงท้ายฤดูกาล

อย่างปีที่แล้วเป็น “อาร์เซน่อล” ที่ได้แชมป์รายการนี้ไป หลังจากที่ตู้โชว์ของสโมสรว่างเปล่ามาถึง 9 ปีเต็ม และช่วยให้ “อาร์แซน เวงเกอร์” ผู้จัดการทีมที่ทำงานยาวนานที่สุดในพรีเมียร์ลีกและยังอยู่ในตำแหน่ง ไม่ถูกอัปเปหิออกจาก “เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม”

แม้ว่าหลายคนอาจจะมีมุมมองว่า ฟุตบอลรายการนี้มักมีการล้มยักษ์เกิดขึ้นเป็นประจำทุกรอบ อย่างปีนี้ทัพสิงห์บลูส์กับเรือใบก็ตายเพราะทีมจากลีกที่ต่ำกว่า แต่ท้ายที่สุดต้องยอมรับว่า ฟุตบอลรายการนี้ยังเป็นถ้วยเป้าหมายอันดับ 1 ของทีมใหญ่ที่อกหักจากฟุตบอลลีกและฟุตบอลยุโรป

ถ้าดูสถิติแชมป์รายการนี้ย้อนหลัง 20 ปี มีเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ที่ทีมเล็กประเภทหนีตายได้แชมป์คือ ปอร์ทสมัธ ฤดูกาล 2007-2008 และ วีแกน เมื่อ 2 ปีก่อน ฤดูกาล 2012-2013 ที่ดันพลิกล็อกชนะ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งหวังรายการนี้เป็นไม้กันหมาเหมือนกันในปีนั้น

ขณะที่ 18 ครั้งที่เหลือเป็นทีมใหญ่หมดเลย แมนฯ ยูฯ 4 ครั้ง เชลซี 6 ครั้ง อาร์เซน่อล 5 ครั้ง ลิเวอร์พูล 2 ครั้ง และ แมนฯ ซิตี้ 1 ครั้ง

ดังนั้นสรุปง่ายๆว่า ฟุตบอลรายการนี้ตำแหน่งแชมป์ยังเป็นทีมใหญ่ที่ศักยภาพสูงกว่า ดีกว่า เก่งกว่าทีมอื่น แม้ว่าอาจจะมีพลิกล็อกมากมายเกิดขึ้นแต่พอมาถึงรอบลึกๆยังไงก็ยากที่จะพลิกล็อก ด้วยเหตุผลง่ายๆว่า “ต้องการความสำเร็จ” บวก “ไม้กันหมา” ยิ่งปีนี้ หงส์ ปีน และ ผี ต้องการถ้วยใบนี้อย่างยิ่งด้วย

สุดท้ายปีนี้แชมป์ก็คงหนีไม่พ้น ลิเวอร์พูล แมนฯ ยูฯ หรือ อาร์เซน่อล ที่ดันเจอกันเองซะแล้ว ซึ่งใครชนะก็คงลุ้นกับหงส์แดง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

Bank

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook