เจ๊บุษยืดอกยอมรับทีมใหญ่ผลงานไม่ดี

ขาดโค้ชดูแลต่อเนื่องชี้ปีหน้าต้องดีกว่าเดิมแต่ดาวรุ่งกลับพุ่งแรง

บุษบา ยอมรับผลงานจอมพลังยกเหล็กชุดใหญ่ ตลอดปี 52 ต่ำกว่ามาตรฐาน ต่างจากดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มสุดยอดในศึกยกเหล็กเยาวชนเอเชียที่ดูไบ เผยเป็นเพราะขาดโค้ชมาดูแลนักกีฬา นับตั้งแต่โอลิมปิกเกมส์ 2008 กว่าจะได้ หัน จาง เหม่ย กลับมาทำงานอีกทีก็เดือนมีนาคม ทำให้ขาดความต่อเนื่อง

นางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ เมื่อ 28 ธ.ค. ที่ห้อง 217 ราชมังคลากีฬาสถาน โดยมี เสธ.ยอด พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานที่ปรึกษาสมาคม และนายบรรพต แสงเขียว รองผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะอุปนายกสมาคมฯ พร้อมทั้งคณะกรรมการบริหาร ร่วมประชุมอย่าพร้อมเพรียง

หลังการประชุม นางบุษบา กล่าวว่า ในปี 2552 ยอมรับว่าผลงานของนักกีฬายกน้ำหนักรุ่นใหญ่ของไทย ทำกันได้ไม่ค่อยดีนัก ทั้งในรายการชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย และรายการชิงแชมป์โลก สาเหตุเพราะหลังจบการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ทีมยกน้ำหนักไทยขาดผู้ฝึกสอนมาดูแล เนื่องจากโค้ชจีน 2 คน จาง เปา ซุน และ หลิ่ว หนิง ได้หมดสัญญาลง จึงต้องหาผู้ฝึกสอนคนใหม่มาทำหน้าที่แทน ซึ่งก็ได้ หัน จาง เหม่ย เข้ามารับงานเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็ยังติดปัญหาเกี่ยวกับวีซ่า และใบอนุญาตทำงาน (เวิร์กเพอร์มิต) กว่าจะดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ เรียบร้อย รวมทั้งการปรับตัวเข้ากับนักกีฬาไทยต้องใช้เวลานานหลายเดือน ทำให้ขาดความต่อเนื่องในการฝึกซ้อม แต่ในตอนนี้ทุกอย่างเริ่มลงตัวดีขึ้น คาดว่าในปี 2553 ทีมนักกีฬาหญิงชุดใหญ่จะมีผลงานดีขึ้นอย่างแน่นอน

เจ๊บุษ กล่าวอีกว่า สำหรับผลงานของนักยกน้ำหนักรุ่นเล็กของไทยถือว่าทำได้ดี ซึ่งในการแข่งขันยกน้ำหนักเยาวชน และยุวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย เมื่อกลางเดือน ธ.ค. ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คว้าไป 18 เหรียญทอง 20 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการยกน้ำหนักรุ่นเล็กให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก เชื่อว่าเยาวชน และยุวชนเหล่านี้จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมไทยได้ในอนาคต.