ธนาหวังติดโผ1ใน5ที่กวางโจว

ชี้ไม่เคยหวั่นญวนกีฬาสากลด้อยกว่า

บิ๊กต้อม นายธนา ไชยประสิทธิ์ กรรมการและเหรัญญิกคณะกรรมการโอลิม ปิคแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า จากการที่ในปี 2553 นักกีฬาทีมชาติไทย จะมีโปรแกรมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา 3 รายการใหญ่ คือ ยูธ โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 14-26 ส.ค. ที่ประเทศสิงคโปร์, เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 กวางโจวเกมส์ ระหว่างวันที่ 12-27 พ.ย. ที่ประเทศจีน และเอเชี่ยน บีชเกมส์ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 8-16 ธ.ค. ที่ประเทศโอมาน นั้น มุมมองส่วนตัวเห็นว่านักกีฬาไทยจะต้องเจอศึกหนักแน่นอนเพราะจากการประเมินผลงานจากซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ สปป.ลาว ถือว่าผลงานของเราสอบผ่านแบบหวุดหวิด แต่กับในปีนี้จะเจองานที่ยากยิ่งกว่า ซึ่งทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), คณะกรรมการโอลิมปิคฯ, สมาคมกีฬา และองค์กรกีฬาที่เกี่ยวข้องจะต้องมาร่วมกันวางแผน เพื่อกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์ ตลอดจนวิเคราะห์คู่แขขันให้ดีกว่านี้ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดความผิดพลาดอันจะนำมาซึ่งความล้มเหลวของทีมไทย

หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ยังได้วิเคราะห์ถึงการแข่งขันทั้ง 3 มหกรรมกีฬา ว่า ยูธ โอลิมปิกเกมส์ นั้น จะเป็นความยากของนักกีฬาไทยแน่นอน เพราะทุกคนจะต้องแข่งขันรอบคัดเลือกเพื่อลุ้นโควตาเหมือนกับกีฬาโอลิมปิกเกมส์ก่อน ที่สำคัญเกมนี้ถือว่ายังใหม่มากและเราเองก็แทบไม่รู้จักคู่แข่งที่จะมาจากทั่วโลกเลย แม้ว่าจะเคยผ่านสังเวียนใหญ่อย่าง เอเชี่ยน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 1 ที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อปีที่แล้วมาก็ตาม ขณะที่เอเชี่ยนเกมส์ ซึ่งเราตั้งเป้าหมายติดท็อป 5 ของเอเชีย ให้ได้นั้น ส่วนตัวเชื่อว่านักกีฬาไทยน่าจะทำได้แน่นอน โดยจะเป็นรองแค่ จีน, ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ขณะที่กลุ่มประเทศจากสหภาพโซเวียตเก่า อย่าง คาซัคสถาน กับ อุซเบกิสถาน ก็มีศักยภาพที่สูสีกับไทย อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่าทัพไทยจะยังเป็นเบอร์ 1 ของย่านอาียนแน่นอน แม้ว่าจะมีเวียดนามเป็นคู่แข่งสำคัญ แต่เรายังได้เปรียบในกีฬาสากลหลายชนิดทั้งมวยสากลสมัครเล่น, ยกน้ำหนัก, เทควันโด และ กรีฑา เป็นต้น ส่วน เอเชี่ยน บีชเกมส์ นั้น ยังเชื่อว่านักกีฬาไทยจะทำผลงานได้ดีต่อเนื่องจากการแข่งขันครั้งที่ผ่านมา

แม้ว่าปีนี้จะมีแค่ 3 มหกรรม แต่ก็จะเป็นศึกหนักของนักกีฬาไทย ไม่ต่างจากปีที่แล้วที่มี 4 มหกรรมกีฬา โดยเฉพาะ เอเชี่ยนเกมส์ ซึ่งเป็นเกมที่ทุกชาติจะส่งนักกีฬาชุดใหญ่มาร่วมชิงชัยกันอย่างคับคั่ง ดังนั้นทุกสมาคมกีฬาจะต้องเร่งยกระดับตัวเองให้ดีกว่าในซีเกมส์ที่ผ่านมา ซึ่งผมยังมั่นใจว่าเราจะยังติดอันดับท็อป 5 ของเอเชีย เหมือนหลาย ๆ ครั้งได้อย่างแน่นอน บิ๊กต้อม ย้ำ.