ตัวแทนอังกฤษกับความหวังที่(ไม่)มีอยู่จริง

ตัวแทนอังกฤษกับความหวังที่(ไม่)มีอยู่จริง

ตัวแทนอังกฤษกับความหวังที่(ไม่)มีอยู่จริง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรียบร้อยโรงเรียนลอนดอนสำหรับสองยักษ์ใหญ่จากเมืองหลวง "เชลซี" และ "อาร์เซน่อล" ที่โบกมือลาฟุตบอลถ้วยใหญ่สุดของยุโรป "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก" เรียบร้อยแล้ว

โดยสิงห์บลูของ “โจเซ่ มูรินโญ่” ตกรอบไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วแบบทุกคน “สมน้ำหน้า” เพราะทั้งได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นมากกว่าขณะที่นำอยู่ เล่นผิดศีลธรรมของโลกฟุตบอล น้ำใจนักกีฬาไม่ต้องพูดถึง ก็ยังแพ้ภัยตัวเองตกรอบด้วยกฎอเวย์โกล์ต่อเศรษฐีแดนน้ำหอม “ปารีส แซงต์ แชร์กแมง”

ขณะที่เมื่อวันก่อนขุนพลปืนใหญ่ของ “อาร์แซน เวงเกอร์” ก็ตกรอบด้วยน้ำมือของเศรษฐีเมืองน้ำหอมเหมือนกัน แต่รวยน้อยกว่าอย่าง “โมนาโก” ด้วยกฎอเวย์โกล์เหมือนกันเด๊ะเลย

จริงๆต้องบอกว่าอาร์เซน่อลพลาดเองที่ปล่อยให้ไปถูกยิงแพ้คาบ้านนัดแรก 3-1 ซึ่งบอลยุโรประดับสูง โดนแบบนี้ก็คงไม่ต้องไปทำอะไรต่อแล้ว แค่เล่นในบ้านยังโดนแบบนี้ขืนเข้ารอบไปยังไงก็เป็นแค่ทางผ่านให้ทีมอื่นเดินข้ามไปเป็นแชมป์

แฟนปืนใหญ่หลายคนอาจจะคิดว่า ผลการแข่งขันที่สต๊าด เด หลุยส์ที่สามารถบุกไปชนะ 2-0 ได้ เป็นอะไรที่ไม่ต้องเสียใจเพราะเป็นการตกรอบแบบ “สมศักดิ์ศรี” แต่เหตุการณ์แบบนี้มัน “เดจาวู” เกิดซ้ำไปซ้ำมาหลายฤดูกาลแล้ว และครั้งนี้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกันที่ทีมมาถึงแค่รอบนี้เท่านั้น

บางทีคำว่า “ตกรอบแบบสมศักด์ศรี” เป็นอะไรที่ดูแย่กว่า “เข้ารอบแบบโชคช่วยหรือดูน่าเกลียด” ด้วยซ้ำ เหมือนกับคำว่า “เกือบชนะ” กับ “เกือบแพ้” ถ้าให้เลือกคงต้องเป็นอย่างที่ 2 แน่นอน เพราะ “เกือบชนะ” หมายถึงแพ้หรือเสมอ แต่ “เกือบแพ้” มีแค่ชนะกับเสมอเท่านั้น

นอกจากนั้นต้องให้เครดิต “เลโอนาร์โด ยาร์ดิม” และลูกทีมที่มาเล่นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ อย่างนัดแรกถ้าจำกันได้มาแบบอุดแล้วสวน และนัดที่สองถึงจะเล่นในบ้านตัวเองก็มาเล่นด้วยแท็กติค “อุด อุด อุด” ตั้งแต่นาทีที่ 1 จนถึงนาทีสุดท้าย แม้จะพลาดท่าโดนยิง 2 ลูก แต่ก็เพียงพอต่อการเข้ารอบ

ในเมื่อทางฝ่ายจัดการแข่งขันหรือยูฟ่าที่เป้นคนออกกฎ ควบคุมกฎให้ใช้เรื่องอเวย์โกล์ ถึงอาร์เซน่อลจะครองเกม ครองบอล โอกาสยิงมากกว่าทั้งสองนัด (นัดแรก อาร์เซน่อลโอกาสยิง 15 ครั้ง โมนาโก 7 ครั้ง และนัดที่สอง อาร์เซน่อลโอกาสยิง 10 ครั้ง โมนาโก 2 ครั้ง) แต่ในเมื่อเกมฟุตบอลนับกันที่ประตู + กฎอเวย์โกล์ (รายการนี้)

ยังไงก็ต้องตกรอบอยู่ดี เพราะกฎอเวย์โกลของรายการนี้ที่มีไว้อยู่แล้ว แน่นอนว่า “มันไม่มีความยุติธรรมแน่นอน” จึงได้แค่ปลอบใจตัวเองว่า ตกรอบแบบสมศักดิ์ศรี อาจจะไม่ถูกด่าเหมือน น้ามูและลูกทีม แต่ผลลัพธ์ที่ได้เหมือนกัน ไม่ได้ไปต่อ

จะว่าไปไม่รู้ว่าทีมจากเมืองผู้ดีจะสูญพันธ์จากฟุตบอลรายการยุโรปแต่โอกาสสูงมาก เพราะเมื่อคืนเกมระหว่าง “บาร์เซโลน่า” กับเรือรั่ว “แมนฯซิตี้” ที่เป็นความหวังเดียวในรายการนี้ ก็เป็นรองทุกอย่างแถมเล่นในบ้านตัวเองเมื่อสองสัปดาห์ก่อนก็ดันแพ้อีกต่างหาก (แมนฯ ซิตี้ แพ้ไปอีก 0-1 รวมสองนัด บาร์เซโลน่าเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 3-1)

หรือถ้าไม่หวังกับ “มานูเอล เปเยกรีนี่” และลูกทีมในฟุตบอลยุโรป ก็ยังมีอีกทีมในยูโรป้าลีกคือ “เอฟเวอร์ตัน” (ทีมอื่นตกรอบหมดแล้ว) ที่จะลงเล่นคืนนี้ ซึ่งนัดแรกในบ้านเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ถึงชนะในบ้าน 2-1 ก็เสียอเวย์โกล์มา ดูยังไงก็ลำบากอยู่ดี

กับความหวังที่ (ไม่) มีอยู่จริง สำหรับตัวแทนจากอังกฤษในฟุตบอลยุโรปครับ

Bank

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook