Get Gerrard to Wembley : พากัปตันเจิดไปเวมบลีย์กัน!!

Get Gerrard to Wembley : พากัปตันเจิดไปเวมบลีย์กัน!!

Get Gerrard to Wembley : พากัปตันเจิดไปเวมบลีย์กัน!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นับจากวันนี้ไปก็เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือนแล้วที่ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด จะได้สวมเสื้อสีแดงเพลิงลงรับใช้ลิเวอร์พูล

ในหมู่มวลเดอะ ค็อปชน เท่าที่ทราบและจับสังเกตบนโซเชียลมีเดีย อารมณ์อาวรณ์นั้นยังมีอยู่ แม้อาจจะไม่มากและพรั่งพรูเท่าเมื่อครั้งที่รู้ว่าตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทีมจะไม่มีโอกาสได้ขึ้นทะเบียนเป็น One-club-man

แต่ความรู้สึกนั้นยังคงอยู่ และทุกคนยังปรารถนาจะเห็นการปิดฉากที่สมบูรณ์แบบของเจอร์ราร์ด ด้วยการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เป็นรายการสุดท้ายในวันคล้ายวันเกิด (30 พฤษภาคม) ของยอดกัปตัน

ดังนั้นนอกเหนือจากการพยายามทำอันดับในลีกให้ดีที่สุด ภารกิจ Get Gerrard to Wembley หรือ “ช่วยพาเจอร์ราร์ดไปเวมบลีย์” เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะนักเตะหรือแฟนบอลต่างให้ความสำคัญมาก

และแม้ในเกมคืนนี้ทุกคนสามารถพาเจอร์ราร์ด มาถึงเวมบลีย์แล้วก็ตาม เพียงแต่มันไม่ใช่การมาเวมบลีย์ที่แท้จริง

เพราะความหมายที่แท้จริงของ Get Gerrard to Wembley ซึ่งมีที่มาจากป้ายผ้าที่แฟนบอลเดอะ ค็อปคนหนึ่งทำให้และนำมาชูในสนามหลังจากเจอร์ราร์ดประกาศการตัดสินใจอำลาทีม คือการเข้าให้ถึงรอบชิงชนะเลิศที่เมกกะลูกหนังแห่งวงการฟุตบอลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อย่างไรก็ดีการจะไปให้ถึงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

แอสตัน วิลล่า ภายใต้การนำของ ทิม เชอร์วูด กำลังเครื่องร้อน โดยเฉพาะหัวหอกทมิฬอย่าง คริสเตียน เบนเตเก้ นั้น ถ้าวัดกันเฉพาะฟอร์มอย่างเดียวนาทีนี้ไม่แพ้ศูนย์หน้าคนไหนในพรีเมียร์ลีก

การกลับมาเข้าฝักของเบนเตเก้ ที่ทำไป 8 ประตูจาก 6 นัด เป็นการปลดล็อกที่สำคัญที่สุดสำหรับวิลล่า ที่ตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมาประสบปัญหาการขาดแคลนสกอร์มาโดยตลอด ซึ่งไม่ว่าทีมจะเล่นได้ดีหรือไม่ก็ตามก็ไม่มีประโยชน์

เพราะสิ่งสุดท้ายที่ตัดสินเกมฟุตบอลคือตัวเลขบนสกอร์บอร์ด ไม่ใช่ตัวเลขคะแนนความสามารถ

ดังนั้นเป็นเรื่องที่น่าจับตามองว่า แนวรับลิเวอร์พูล ซึ่งสั่นคลอนในช่วงที่ผ่านมาจนมีการปรับระบบการเล่นใหม่อีกครั้งกลับมาใช้กองหลัง 4 ตัว จะหยุดเบนเตเก้ และกาเบรียล อักบอนลาฮอร์ (ที่รอเช็คสภาพความฟิตก่อน) ที่ทั้งร้อนแรงและน่ากลัวได้หรือไม่

ข่าวร้ายสำหรับเบรนแดน ร็อดเจอร์ส คือการที่มามาดู ซาโก้ บาดเจ็บต้องพักยาวจนเกือบจบฤดูกาล แต่ข่าวดีกว่าคือการได้มาร์ติน สเคอร์เทล พ้นโทษแบนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับเจอร์ราร์ด

การกลับมาของรถถังสโลวักจะทำให้ทีมกลับมามี “นายใหญ่” ในแนวรับอีกครั้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับร็อดเจอร์สว่าจะใช้ระบบกองหลัง 3 ตัว หรือ 4 ตัว โดยมีตัวเลือกที่หลากหลายอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้หลัง 3 คน ลอฟเรน, สเคอร์เทล, ชาน หรือใช้คู่กองหลัง สเคอร์เทล ประกบกับชาน หรือจับคู่ลอฟเรน และโยกใช้ชานยืนประจำการทางขวา

เช่นกันกับในแนวรุก เมื่อไม่มีดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และอดัม ลัลลานา ร็อดเจอร์ส จะเลือกใช้สูตรใดระหว่างการให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ยืนเป็น False No9 เหมือนก่อนหน้า หรือจะใช้สูตรใหม่ที่ได้ผลในเกมกับนิวคาสเซิล ในการให้คูตินโญ่ ขยับขื้นไปยืนแทน

รวมถึงคำถามสำคัญที่สุดคือ ร็อดเจอร์ส จะให้เจอร์ราร์ดลงสนามหรือไม่ในเกมนี้

คำถามมากมายเหล่านี้ทำให้ความกดดันทั้งมวลนั้นตกอยู่กับลิเวอร์พูล และกุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งโดยส่วนตัวก็ต้องการคว้าแชมป์สักรายการเพื่อลดความกดดันให้ตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะตามประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ฟิล เทย์เลอร์ คุมทีมในปี 1950 ไม่เคยมีผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล คนไหนที่ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้เลยภายใน 3 ฤดูกาลแรก

เช่นกันกับเจอร์ราร์ด ที่แม้จะยืนยันว่าพร้อมจะลงสนามที่เวมบลีย์ในเกมนี้ ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าจะได้โอกาสนั้นหรือไม่

จะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน หรือจะกำขี้ดีกว่ากำตดนั้น - ยังยากที่จะบอก

ลูกแม่กิ่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook