"อาซาร์" กับรางวัลที่คุณคู่ควร

28 เม.ย. 58 (13:08 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

จากที่เคยติดตามฟอร์มการเล่นของ เอเดน อาซาร์ มาตั้งแต่ครั้งเล่นอยู่กับลีลล์ ในลีก เอิง เมื่อหลายปีก่อน ผมพอจะทำนายได้ว่าอนาคตของเด็กคนนี้น่าจะก้าวขึ้นมาเป็น “ซูเปอร์สตาร์” ได้ไม่ยาก

เหตุผลนั้นเพราะอาซาร์ มีพรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอลที่สูงมาก โดยเฉพาะความฉลาดในการเล่นที่ใช้จุดแข็งของตัวเองให้เป็นข้อได้เปรียบเหนือผู้เล่นคนอื่นในสนาม ด้วยความเร็ว ความคล่องตัว และการครองบอลที่ชาญฉลาด เพราะมิดฟิลด์ฉบับกระเป๋าชาวเบลเยี่ยมจะไม่เลี้ยงบอลอย่างพร่ำเพรื่อ ครองบอลหลายจังหวะจนนานเกินไป หรือเล่นแบบเสี่ยงโดยไม่จำเป็น

ในทางตรงกันข้ามอาซาร์ จะเลี้ยงเมื่อเห็นว่าได้เปรียบ หรือมั่นใจว่าเขาเร็วกว่าและจะไม่เสียบอล ซึ่งเมื่อรวมกับทักษะการครองบอลที่เหนียวแน่นทำให้การจะแย่งบอลจากเด็กคนนี้เป็นเรื่องที่ยากมาแต่ไหนแต่ไร

อย่างไรก็ดีการที่นักฟุตบอลดาวรุ่งพรสวรรค์คนหนึ่งจะก้าวขึ้นมาเป็น “ตัวจริง” ของวงการนั้นต้องการมากกว่าสิ่งที่พระเจ้าประทานให้

สิ่งนั้นคือ “ความมุ่งมั่น” และ “ความรับผิดชอบ” ที่จะทำให้แตกต่างจากคนอื่น

ลิโอเนล เมสซี่ และคริสติอาโน่ โรนัลโด้ มีในสิ่งเหล่านี้และพิสูจน์ให้เห็นมาแล้ว ซึ่งโชคดีสำหรับเบลเยี่ยมและเชลซี ที่อาซาร์เองก็มีสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน และเมื่อถึงวันเวลาที่เหมาะสม “เพชรแท้” เช่นเขาก็เปล่งประกายที่สวยงามออกมา

ในฤดูกาลนี้ อาซาร์ ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ โดยยิงไป 13 ประตู และผ่านบอลให้เพื่อนทำประตู (แอสซิสต์) อีก 8 ครั้ง หรือคิดเป็นการมีส่วนร่วมกับการได้ประตูของเชลซี ในเกมลีกฤดูกาลนี้มากถึง 32 เปอร์เซ็นต์ (จาก 65 ประตู) ซึ่งนี่เป็นตัวเลขสถิติที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน

อย่างไรก็ดี “คุณค่า” ของเด็กคนนี้ไม่ได้อยู่แค่นี้เท่านั้น มันมีมากกว่านั้นมากมายนัก

ดาวเตะวัย 24 ปีที่ย้ายมาอยู่กับเชลซีตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2012 มีสถิติที่ยอดเยี่ยมโดยสร้างโอกาสให้เพื่อน 88 ครั้ง, เลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ถึง 155 ครั้ง และเรียกฟาวล์ได้ 100 ครั้ง ซึ่งมากกว่านักฟุตบอลคนไหนในลีก

อาซาร์ ยังผ่านบอลในพื้นที่สุดท้าย (final third) มากถึง 958 ครั้ง มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก มากกว่าจอมทัพคลาสสิคอย่างดาวิด ซิลบาถึง 162 ครั้ง

มากกว่านั้นคือการเป็น “ที่พึ่งทางใจ” ของเพื่อนร่วมทีม ที่หากคิดอะไรไม่ออก ขอเพียงฝากบอลไว้ที่เขา อาซาร์ ก็พร้อมที่จะสร้างสรรค์เกมได้เสมอ และพร้อมจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ทีมได้ต่อให้เริ่มต้นจากศูนย์ก็ตาม

และมากกว่านั้นคือความสามารถในการเป็น “พระเอก” ในเกมใหญ่ เหมือนในเกมกับควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส, เกมกับอาร์เซนอล ที่เดอะ บริดจ์ หรือก่อนหน้านี้ไม่นานนักในเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีเพียงนักฟุตบอลระดับโลกเท่านั้นที่มี

ด้วยผลงานที่มีพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัดในฤดูกาลนี้ รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) ซึ่งมาจากการเลือกของนักฟุตบอลอาชีพด้วยกัน สำหรับอาซาร์ จึงถือเป็นรางวัลที่ “คู่ควร” เป็นอย่างยิ่ง และน่าจับตาว่าในปีถัดไปอาซาร์ จะพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้ ไปจนถึงระดับใกล้เคียงกับเมสซี่ และโรนัลโด้ได้หรือไม่

สำหรับแฮร์รี่ เคน กับ รางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยม ก็ไร้ข้อกังขาเช่นกัน สำหรับผลงานในระดับ “ปรากฏการณ์” และเชื่อว่าหากรักษามาตรฐานงานได้ในระดับนี้ ก็มีโอกาสที่เคน จะมีลุ้นชิงรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีในฤดูกาลหน้าแบบเต็มตัว เหมือนอาซาร์ ที่ได้รางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมเมื่อปีกลายมาก่อน

และเหนืออื่นใดสำหรับงานประกาศรางวัลของ PFA ในครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณว่าฟุตบอลเมืองผู้ดีกำลังถึงคราว “ผลัดใบ” นับจากนี้จะเป็นยุคทองของสตาร์สายเลือดใหม่

กับความหวังว่าวงการฟุตบอลอังกฤษจะกลับมายิ่งใหญ่ในยุโรปอีกครั้ง