"แบล๊ตเตอร์" ยังหนังเหนียวครองประธานฟีฟ่าต่อสมัย 5

เซ็ปป์ แบล๊ตเตอร์ ดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เป็นสมัยที่ 5 แม้ผลการโหวตเลือกตั้งประธาน "ฟีฟ่า" ที่นครซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงเย็นตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม จะไม่สามารถหาผู้ชนะได้ในการลงคะแนนรอบแรกก็ตาม

หลังผลการโหวตจากชาติสมาชิก 209 ประเทศเทคะแนนให้แบล๊ตเตอร์ 133 เสียง ส่วนเจ้าชายอาลี บิน อัล-ฮุสเซน แห่งจอร์แดน ผู้ท้าชิงเพียงหนึ่งเดียวได้คะแนนแค่ 73 เสียง โดยมีบัตรเสีย 3 ใบ แต่ต้องมีการลงคะแนนโหวตรอบ 2 เนื่องจากกติกาการเลือกตั้งระบุว่า หากผู้ที่ได้คะแนนเสียงมากกว่าในรอบนี้ได้รับการโหวตไม่ถึง 2 ใน 3 จากเสียงทั้งหมด หรือ 139 จาก 209 เสียง จะต้องมีการลงคะแนนใหม่อีกรอบ

แต่หลังผลการเลือกตั้งรอบแรกออกมาได้ไม่นาน เจ้าชายอาลีก็ประกาศขอถอนตัว

ส่งผลให้แบล๊ตเตอร์ในวัย 79 ปี ซึ่งมากกว่าผู้ท้าชิงถึง 40 ปี ครองตำแหน่งหัวเรือใหญ่ฟีฟ่าเป็นครั้งที่ 5 ต่อไป แม้องค์กรของเจ้าตัวเพิ่งจะตกเป็นข่าวสุดฉาว จากการโดนเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จากประเทศสหรัฐอเมริกา และตำรวจประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บุกเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ของฟีฟ่าถึง 9 คนในช่วงเช้าวันที่ 27 พฤษภาคม หรือแค่ 2 วันก่อนการลงคะแนนเลือกตั้ง

ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฟีฟ่าทั้ง 9 คน รวมทั้งผู้บริหารการตลาดขององค์กรเอกชน 5 ราย โดนจับกุมในข้อหาพัวพันคดีทุจริตรับสินบนลิขสิทธิ์ฟุตบอลหลายรายการในทวีปอเมริกาใต้ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 ก่อนมีการขยายผลสอบสวนอีกหนึ่งเรื่องฉาวอย่างการล็อกผลโหวตเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 ที่รัสเซียกับกาตาร์ อยู่ในขณะนี้