รอเรือกางใบ

วันที่ 1 กรกฎาคมจะเป็นวันเปิดตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์อย่างเป็นทางการ และน่าจะมีการยืนยันการโยกย้ายของนักเตะหลายคนในวันนี้ และคงจะมีไปเรื่อย ๆ จนกว่าตลาดจะปิดลงในวันที่ 31 สิงหาคม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะเปิดตัว "มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน" เข้ามาเสริมทัพเป็นรายที่สอง หลังได้ตัว "เมมฟิส เดปาย" มากอนแล้ว

"ปีเตอร์ เช็ก" ก็เปิดตัวกับอาร์เซนอลอย่างเป็นทางการไปแล้ว โดยมี "อาร์ตูโร่ วิดัล" ที่มีข่าวหนาหูวาจะตามมาในอนาคตอันใกล้

ส่วน เชลซี ก็รอ "ราดาเมล ฟัลเกา" มาเซ็นสัญญาเช่นกัน หลังได้ "เนธาน" มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวบราซิล มาเป็นรายแรก

ขณะที่ ลิเวอร์พูล มาเร็วเคลมเร็วกว่าใคร ๆ และคงเปิดตัว "เนธาเนี่ยล ไคลน์" เป็นรายล่าสุด หลังล่าลายเซ็นดาวเตะแซมบาอย่าง "โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน่" มาได้แล้ว ต่อจากการกว้านทั้ง อดัม บ๊อกดาน, แดนนี่ อิงส์, เจมส์ มิลเนอร์ และ โจ โกเมซ ไปก่อนหน้านั้น

หันซ้ายหันขวาก็คงเหลือแต่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเดียวในกลุ่มบิ๊กเนม ที่ยังไม่ได้ขยับตัวอะไรเป็นเรื่องเป็นราวในการหานักเตะใหม่มาเสริมทัพ

แต่แมนฯ ซิตี้ ยังคงสถานภาพทีมมหาเศรษฐีอยู่เช่นเดิม แม้จะถูกกฎการเงินแฟร์แพลย์ครอบอยู่ เพราะนักเตะแต่ละคนที่พวกขามีข่าวว่าอยากได้นั้น จัดว่าค่าตัวแพงระยับทุกคน

ไล่ตั้งแต่ "ราฮีม สเตอร์ลิ่ง" ที่รอชิ่งลิเวอร์พูลแทบไม่ไหว แต่หงส์แดงก็ยังใจแข็งไม่ตอบบรับข้อเสนอมูลค่า 40 ล้านปอนด์ที่เรือใบยื่นให้

"พอล ป๊อกบา" เป็นอีกคนที่มีข่าวว่า แมนฯ ซิตี้ พยายามชิงตัวกับ บาร์เซโลน่า อยู่

แต่ค่าตัวที่ต้องจ่ายให้ยูเวนตุสก็น่าจะมหาศาลราว ๆ 70 ล้านปอนด์ตามข่าว

ล่าสุดเรือใบก็มีชื่อพัวพันกับ "เซร์คิโอ รามอส" ที่คู่ปรับร่วมเมืองอย่าง "ผีแดง" กำลังตามจีบอยู่ โดยพร้อมทุ่มเงิน 40 ล้านปอนด์เพื่อปาดหน้าเค้ก

แต่เอาเข้าจริงแล้ว คงเป็น "สเตอร์ลิ่ง" นี่แหละ ที่มีโอกาสจะย้ายเข้ามาล่มหัวจมท้ายกับเรือใบสีฟ้ามากที่สุด

และคงจะเป็นดีลที่ทำให้ แมนฯ ซิตี้ กลับมาชิงพื้นที่สื่อได้บ้างหลังเงียบไปนาน