ไม่ใช่ว่า "ซื้อ ซื้อ ซื้อ และซื้อ!"

ไม่ใช่ว่า "ซื้อ ซื้อ ซื้อ และซื้อ!"

ไม่ใช่ว่า "ซื้อ ซื้อ ซื้อ และซื้อ!"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คล้ายๆ กับ “ลิเวอร์พูล” นะครับที่ได้ใช้ตัวผู้เล่น “ชุดเดิม” ติดต่อกัน 2 นัด และยังเหมือนกันตรงที่สลับตำแหน่งใน 3 แนวรุกหลังหัวหอกอีกด้วย!

ครับ หงส์แดง ใช้ตัวนักเตะ 11 คนแรกนัดปราบบอร์นมัธ 1-0 เหมือนที่บุกเฉือน สโต๊ค ด้วยสกอร์เดียวกัน แต่ปรับ จอร์ดอน ไอบ์ ไปยืนฝั่งซ้าย, อดัม ลัลลาน่า ยืนกลาง และฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ประจำฝั่งขวา

หลังเกมแรก ลัลลาน่า-คูตินโญ่-ไอบ์ จากซ้ายไปขวา สนับสนุน คริสติย็อง เบนเทเก้

และที่ผมบอกว่า “คล้าย” ในประโยคเริ่มต้น คือ แมนฯ ยูไนเต็ด ของหลุยส์ ฟาน ฮัล ก็มาในรูปแบบเดียวกัน ด้วยการจัดผู้เช่นชุดเดิมเหมือนเกมเฉือน แอสตัน วิลล่า ที่ผ่านมา 1-0

ทว่า “สลับดอก” ในส่วน 3 ประสาน เกมรุกโดยโยก เมมฟิส เดปาย จากตรงกลางไปยืนซ้าย สลับที่กับ อัดนาน ยานาไซ และให้ ฆวน มาต้า ยืนฝั่งขวาเหมือนเดิมในเกมถล่ม คลับ บรูกก์ 3-1 ในรอบเพลย์ออฟ เลกแรก UCL


ด้วยฟอร์เมชั่นนี้ทำให้ เดปาย ได้เล่นในบทบาทที่ถนัดที่สุด โดยเฉพาะลูกเลี้ยงตัดเข้ากลางแล้วยิงอันเป็นที่มาของ 2 ประตูแรกสุดสวย และประตูที่ 3 ที่ assist ให้ มารูยาน เฟลไลนี่ โหม่งประตู 3-1

ณ ตอนนี้ หลังผ่านฤดูกาลใหม่ไป 3 นัดกับระบบ 4-2-3-1, ฟาน ฮัล จึงดูจะได้ 11 คนแรกที่ดีที่สุดแล้วเช่นกัน โดยมี “กุญแจ” เพิ่มเข้าที่ ยานาไซ คัมแบ็ก แต่มาเล่นตรงกลางด้านหลัง เวย์น รูนี่ย์

ขณะที่ เดปาย ดูมีอนาคตเทียบเคียงนักเตะตำนาน “หมายเลข 7” ของทีมปิศาจแดงทางด้านซ้าย

ที่น่าสนใจที่ควรพูดถึงอีกอย่างน้อย 3 ตำแหน่ง คือ มอร์กาน ชไนเดอร์ลิน สามารถเป็นอีก 1 การซื้อแห่งปีได้เลย

มัตเตโอ ดาร์เมียน ปรับตัวได้เร็วเกินคาดในตำแหน่งแบ็กขวา ขณะที่ ลุค ชอว์ กลับมาเป็นเหมือนดาวรุ่งคนเดิมทางฝั่งซ้าย และ ดาลี่ย์ บลินด์ ยึดเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ คู่กับ คริส สมอลลิ่ง


ส่วนนายทวาร เซร์คิโอ โรเมโร่ ทำให้ทุกคนแทบไม่นึกถึง ดาวิด เด เกอา อีกแล้ว...

ดังนั้น 11 ตัวแรก ในระบบ 4-2-3-1 จึงประกอบด้วย: โรเมโร่ ; ดาร์เมียน, สมอลลิ่ง, บลินด์, ชอว์ ; คาร์ริค, ชไนเดอร์ลิน ; มาต้า, ยานาไซ, เดปาย ; รูนี่ย์

ระบบนี้กำลังเป็น “แพทเทิร์น” ยอดนิยมในซีซั่นนี้ เพราะทีมใหญ่ : เชลซี, แมนฯซิตี้, อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล และอีกหลายทีมต่างใช้รูปแบบการเล่นนี้ที่มี “หน้าเป้า” คนเดียว, ตัวมิดฟิลด์ holding ball 2 คน และแนวรุกหลังหัวหอก 3 คน เหมือนกันหมด

ทั้งนี้ ยังมีกระแสจากผู้สันทัดกรณีอยู่พอควร อาทิ คริส วอดเดิ้ล ต้องการให้ ฟาน ฮัล สอยกองหน้าหมายเลข 9 แท้ๆ มาร่วมทีม

แล้วส่ง รูนี่ย์ ไปยืน “หน้าต่ำ” ในตำแหน่งของยานาไซ ตอนนี้

อย่างไรก็ดีครับ จากผลงานช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้วในปีที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เจ็บ หรือ ราดาเมล ฟัลเกา แจ้งเกิดไม่ได้

รูนี่ย์ ก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม และแม้จะไม่ใช่หัวหอกตัวใหญ่เหมือน ดิเอโก้ คอสต้า, คริสติย็อง เบนเทเก้ แต่ กุน อเกวโร่ หรือ ธีโอ วัลค็อตต์ และ อเล็กซิส ซานเชซ ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า “มูฟเมนต์” ที่ดีนั้น ช่วยให้เอาตัวรอดได้สง่างาม

จุดนี้ อาจจะเป็น “เหตุผล” ที่ทำให้ ฟาน ฮัล และแมนฯ ยูไนเต็ด “ยึกยัก” และดำเนินการคว้าตัว เปโดร โรดริเกซ หรือแม้แต่ นิโคลัส โอตาเมนดี้ อย่างล่าช้า

จนน่าจะเป็น เชลซี และแมนฯ ซิตี้ ที่ได้ตัวไปแทน...

ทั้งนี้ในกรณีของ โอตาเมนดี้ ที่ดันไปอีกทีมของเมืองแมนเชสเตอร์ เราได้เห็นเหมือนกันว่า บลินด์ และสมอลลิ่ง เข้าคู่กันได้ดีโดยยังมี มาร์กอส โรโฮ หรือ ฟิล โจนส์ เป็นนักเตะซีเนียร์คอยสำรอง

ดังนั้น ณ เวลาที่คู่แข่ง “ขโมย” เป้าหมายสำคัญของทีมไป

ผมมองว่า “ดีแล้ว” ที่แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่ได้ใคร เพราะทีมชุดนี้ “ดีพอ” หากออร์แกไนซ์ดีๆ ดังที่เห็นจาก 2 นัดล่าสุด

สำคัญที่สุด คือ ผมอยากเห็น “ฝีมือ” แก้ปัญหาของ หลุยส์ ฟาน ฮัล บ้าง และต้องไม่ใช่แก้โดยการซื้อ ซื้อ ซื้อ และซื้อครับ

ไข่มุกดำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook