ว่าด้วยเรื่อง "มืออาชีพ" ของยู19, เจ้าอาเซียนทุกถ้วย และมาตรฐานช้างศึกชุดใหญ่?
ผมขออนุญาต "แซงคิว" ทุกเรื่องเกี่ยวกับบอล “ยูโร 2016” รอบคัดเลือก โดยเฉพาะทีมขวัญใจมหาชน อังกฤษ ที่มีคิวบุกเยือน ซาน มาริโน ในวันนี้ (5 ก.ย.) และรับมือ สวิส ในวันอังคารที่ 8 ก.ย. ซึ่งไม่มีประเด็นอะไรนอกจากลุ้นทีมผู้ดีให้ "ชนะทุกนัด"
เพราะเมื่อวาน วันศุกร์ที่ผ่านมา ทัพนักเตะทีมชาติไทยชุด ยู-19 ปี ได้สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ยู-19" สมัยที่ 4 ณ ประเทศลาว ได้สำเร็จ
และเป็นการได้แชมป์อย่างยิ่งใหญ่!
เพราะเราถล่มคู่ชิง เวียดนาม ไปแบบสู้ไม่ได้ 6-0 ลบคำสบประมาทของกุนซือเหงียนที่บอกว่า เรายังไม่เจอ "ของจริง" ใน 2 รอบที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง เฉพาะอย่างยิ่ง เวียดนามยังไม่เสียประตูเลยในทัวร์นาเมนต์นี้
แต่มาโดนเรานัดเดียวถึง 6 เม็ด ด้วยกัน...
"ไฮไลต์" แมตช์นี้ของผม ไม่ได้อยู่ที่ประตูใดประตูหนึ่งที่ทำได้ หรือ "เกมรับ" ที่ถูกกดดันพอควรช่วงต้นครึ่งแรก หรือเกมรุกที่ทะลุทะลวงคู่แข่งที่ดีที่สุดในอาเซียนของเราจนยับ
ทว่า มันอยู่ที่จังหวะความเป็น "มืออาชีพ" นาทีที่ 87 ตอนเกมขาดไปแล้ว และเรานำอยู่ 4-0 ที่เราได้ "จุดโทษ" ซึ่งสามารถให้กัปตันทีม วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ยิงเพื่อ "แฮตทริก" ได้
แต่ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ คือคนที่เดินมาสังหาร และคาดการณ์ได้ไม่ยากว่า "น้องนนท์" คือ มือยิงจุดโทษประจำทีม
และไม่ว่าจะเสมอ 0-0 หรือนำแค่กี่ลูก หรือตามหลังกี่ประตู นี่คือ "ข้อตกลง" ก่อนเกมครับ และน้องๆ ยู-19 ปี ทำได้ถูกต้องที่เล่นตามแผนที่วางไว้ก่อนเกม "ทุกเม็ด"
ครับ เอาเป็นว่า แชมป์นี้ได้ตามหลังแชมป์อาเซียน ยู-16 ปี ของ อ.พยงค์ ขุนเณร และกล่าวได้ว่า เป็นแชมป์อาเซียน "ใบที่ 6" ใบสุดท้ายครบเซตในภูมิภาคนี้
เรียกได้ว่า แชมป์ฟุตซอล อาเซียน 2014, เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 (ชุดใหญ่), ซีเกมส์ 2015 (ยู-23 ปี), แชมป์บอลหญิง อาเซียน 2015 (ก่อนไปบอลโลก), แชมป์อาเซียน ยู-16 และ ยู-19 ปี
เรา "เหมาเรียบ" กวาดหมดครบโทรฟี่หลักๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เหนือสิ่งอื่นใด หลังๆเราเริ่ม "ชนะขาด" คู่ชิงชนะเลิศ เช่น ปราบเมียนมา 3-0 ในซีเกมส์, ชนะออสเตรเลีย และถล่มเมียนมา 3-0 ในรายการ ยู-16 ปี ก่อนที่ล่าสุดจะขยี้เวียดนาม 6 เม็ด ในรายการ ยู-19 ปี
ส่วนชุดใหญ่ของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ก็ต่อยอดชนะรวด 2 เกมแรก ในการคัดเลือกบอลโลก 2018 ด้วยการอุ่นเกือกชนะอัฟกานิสถาน ซึ่งอันดับใน "ฟีฟ่า แรงกิ้ง" ดีกว่าเรา 2-0
ดังนั้น เกมกับอิรัก ซึ่งปราบไต้หวัน 5-1 ในวันที่ 8 ก.ย. จึงเป็นเกมที่น่าสนใจมากๆ สำหรับการ "วิเคราะห์" พัฒนาที่แท้จริงของทีมชาติไทย
ผมเขียนเช่นนี้เพราะ เมื่อวันก่อนนี้ เพื่อนร่วมอาเซียนของเรา และเป็นบรรดาชาติที่เราเอาชนะได้ในรายการหลักๆ ข้างบนต่าง "แพ้ยับ" กันถ้วนหน้า
เกาหลีใต้ ถล่มลาว 8-0, ยูเออี โขยก มาเลเซีย (ซึ่งชุดใหญ่เราปราบมาแบบหืดๆ ใน “ซูซูกิ คัพ 2014”) 10-0, คูเวต ชนะเมียนมา 9-0
โดยอีก 2 คู่แข่ง เวียดนาม และอินโดนีเซีย ยกเลิก และสิงคโปร์ บุกแพ้ซีเรีย ฉิว 0-1
การพ่ายแพ้แบบหมอไม่รับเย็บของชาติอาเซียน โดยเฉพาะมาเลเซีย และเมียนมา ที่เป็นถึงระดับคู่ชิงของเราใน 2 รายการหลักอาเซียน ทำให้อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่า เราเก่งจริงหรือเปล่า?
เพราะ "เพื่อนๆ" ที่เราชนะไปโดนซะยับแบบนั้น นั่นจึงเป็นที่มาว่า เกมกับอิรักจะเป็น "ดัชนี" ที่สำคัญชี้วัดมาตรฐานที่แท้จริงของเราครับ