สกู๊ป : เช็กเกรดผลสอบทีมจากอังกฤษในแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่สี่

จบลงไปเรียบร้อยสำหรับฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 4 ซึ่งขุนพลเรือใบสีฟ้า “แมนฯ ซิตี้” ก็สามารถผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้แล้ว ขณะที่ปีศาจแดง “แมนฯ ยูไนเต็ด” กับ สิงห์บลูส์ “เชลซี” ก็อยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบถ้าไม่พลาดเองก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการเข้ารอบ เหลือเพียงปืนใหญ่ “อาร์เซน่อล” ที่ร่อแร่นอนอยู่ในห้องโคม่าเพียงทีมเดียว

แมนฯ ซิตี้ (ชนะ เซบีญ่า 3-1)

ลูกทีมของ “มานูเอล เปเยกรีนี่” แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมและประสบการณ์ที่มากขึ้นในเกมยุโรป เพราะการเจอกับคู่แข่งจากสเปนไม่ใช่เรื่องง่าย ในสถานการณ์ที่ขาดกองหน้าตัวสำคัญ “เซร์คิโอ อเกวโร่” แต่บรรดาแนวรุกของทีมก็เล่นด้วยความมั่นใจ ถึงแม้จะเป็นทีมเยือนก็ไม่มีกลัว

แน่นอนว่าคงต้องชม “ยาย่า ตูเร่” ที่เป็นหัวใจของทีมเหมือนเดิม โดยเฉพาะความแข็งแกร่งที่ไม่มีใครต้านไหว ขณะที่ “ราฮีม สเตอร์ริ่ง” “แฟร์นันดินโญ่” และ “เฆซุส นาบาส” ที่เป็นส่วนสำคัญในเกมรุก เวลาเล่นได้ตามฟอร์มของตัวเองอะไรก็หยุดไม่อยู่

แม้ว่าเปอร์เซนต์การครองบอลจะน้อยกว่าคู่แข่ง แต่ในเมื่อบุกแล้วทำประตูได้ก็ไม่มีปัญหา กลับบ้านฉลองการเข้ารอบแน่นอนแล้ว จะอันดับหนึ่งหรือสองเท่านั้น

ผลคะแนน เกรด A

แมนฯ ยูไนเต็ด (ชนะ ซีเอสเคเอ มอสโก 1-0)

นัดที่แล้วเสมอมา เกมนี้ “หลุยส์ ฟาน ฮัล” ก็ยังให้ลูกทีมเล่นด้วยปรัชญาเดิมๆ พยายามครองบอลให้มากและค่อยๆเข้าทำประตูและถ้าไม่มีช่องค่อยโยนยาว

สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ตราบใดที่บรรดานักเตะภายในทีมความสามารถเหนือกว่านักเตะคู่แข่ง เพราะประตูที่ได้ก็เป็นเพียงจังหวะที่คู่แข่งพลาดจากรูปแบบการบุกที่รู้กันอยู่

คนที่ต้องชมเลยคงหนีไม่พ้น “ดาวิด เด เกอา” ที่ขึ้นชั้นเป็นผู้รักษาประตูระดับท็อปของยุโรป ช่วยเซฟประตูหลายหน “คริส สมอลลิ่ง” ที่พรรษาแก่กล้ามากขึ้น สามารถไว้วางใจได้ บวกกับหน่วยก้านที่สูงใหญ่แต่ไม่เชื่องช้า

รวมทั้งเฮียหมู “เวย์น รูนี่ย์” ถึงจะต้องเล่นในแบบที่ตัวเองไม่มีอิสระมากนัก แต่ความเก๋าก็ช่วยให้ทำประตูได้ แต่ก็ยังไว้วางใจสถานการณ์ไม่ได้ ถึงจะเป็นจ่าฝูง เพราะทีมที่ตามมาห่างแค่คะแนนเดียวถึง 2 ทีม

ผลคะแนน เกรด B

เชลซี (ชนะ ดินาโม เคียฟ 2-1)

เศรษฐีใหญ่จากกรุงลอนดอนต้องลงเล่นในสถานการณ์ที่กดดันจากฟอร์มในฤดูกาลนี้ที่แย่เหลือเกิน ทำให้ “โจเซ่ มูรินโญ่” ต้องพาลูกทีมชนะให้ได้สถานเดียว ซึ่งก็ทำได้ ช่วยเซฟเก้าอี้กุนซือได้อีก บวกกับสถานการณ์ในฟุตบอลรายการนี้ดีขึ้นมา รั้งอันดับ 2 ของตารางแต่ก็ยังประมาทไม่ได้ในอีก 2 นัดที่เหลือ

สิ่งที่ได้เห็นจากเกมนี้คือ บรรดามิดฟิลด์ที่เล่นเพื่อกุนซืออย่าง “วิลเลี่ยน” กับ “ออสการ์” ขณะที่คนอื่นๆก็เล่นตามมาตรฐานของตัวเองที่ยังไงก็เหนือกว่านักเตะทีมคู่แข่ง

ในส่วนของเกมรับเอง การเสียประตูบ่งบอกว่าตัวน้ามูเองก็ยังไว้วางใจอะไรไม่ได้ เพราะถ้าเกิดทีมไม่ได้ประตูชัยจากฟรีคิกของ “วิลเลี่ยน” ขึ้นมา ก็มีสิทธิ์ที่ทีมจะไม่ชนะสูง ดังนั้นสรุปได้ว่าวิกฤติของทีมยังไม่จบง่ายๆ แค่นัดนี้ “เอาตัวรอด” ได้เท่านั้น

ผลคะแนน เกรด C

อาร์เซน่อล (แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-5)

ตายสนิทชนิดที่ว่าต้องเรียกมูลนิธิร่วมกตัญญูมาเก็บซาก เกมนี้บรรดาแนวรุกอาจจะมีโอกาสบ้าง แต่ต้องยอมรับว่าคู่แข่งจากเมืองเบียร์แข็งแกร่งจริงๆ จนต้องบอกว่าเป็นรองหมด

ไม่บ่อยนักที่จะเห็นทีมอย่างอาร์เซน่อลถูกพับสนามบุก แต่ที่เป็นจุดตายเลยคือเกมรับ เพราะไม่ว่าจะโดนบุกแบบไหนของคู่แข่ง พร้อมจะเสียประตูตลอดเวลา ทั้งการขึ้นเกม ถูกกระชากลากเลื้อย เล่นสั้น โยนยาว หรือแม้กระทั่งโดนยิงไกล งานนี้ได้เพียงแต่รับสภาพครับ

ส่วนบรรดาแนวรับไม่ว่าจะ “มาติเยอ เดบูชี่” ที่โชคร้ายเพิ่งหายเจ็บ เหมือนเอารถซิตี้คาร์มาแข่งกับแนวรุกรถสปอร์ตแรงม้าสูงของคู่แข่ง หรือคู่เซนเตอร์ ”แพร์ แมร์เตซัคเคอร์” กับ “กาเบรียล” ที่รายแรกแสดงให้เห็นความโรยราอย่างชัดเจน หรือรายที่สองที่ยังดูอ่อนชั้น

ในเมื่อเกมรับที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของฟุตบอลไม่พร้อม ก็ไม่ต้องไปทำอะไรกินแล้ว เหลือแค่ลุ้นทีมตัวเองให้ชนะ 2 นัดที่เหลือแล้วค่อยไปลุ้นปาฏิหาริย์จากทีมอื่น

ผลคะแนน เกรด F

Bank