สกู๊ป “ซลาตัน” คนแบกทีม
มาถึงตอนนี้ฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายที่ฝรั่งเศสในกลางปีหน้าก็ได้ 24 ทีมครบเรียบร้อยแล้วหลังได้ 4 ทีมสุดท้ายจากรอบเพลย์ออฟ
ประกอบไปด้วย “ทีมชาติฮังการี” “ทีมชาติไอร์แลนด์” “ทีมชาติยูเครน” และ “ทีมชาติสวีเดน” ซึ่งล้วนเป็นทีมประเภท “สร้างสีสัน” มากกว่าที่จะเป็นพวกตัวเต็ง “ลุ้นแชมป์”
แต่ที่น่าสนใจคือขุนพลไวกิ้ง “ทีมชาติสวีเดน” ที่ผ่านคู่ปรับร่วมภูมิภาคอย่างทัพโคนม “ทีมชาติเดนมาร์ก” ด้วยสกอร์รวม 4-3
โดยเกมเหย้าชนะ 2-1 และเกมเยือนเสมอ 2-2 คงต้องให้ความดีความชอบกับ “ซลาตัน อิบราฮิโมวิช” ที่ยิง 2 นัด 3 ประตู เป็น “ฮีโร่” อย่างแท้จริง หรือจะเรียก “คนแบกทีม” ก็ได้
โดยเฉพาะเกมล่าสุดทั้งลูกแรกที่เล่นลูกสูตรกับเพื่อนร่วมทีมหรือลูกที่สองที่ยิงฟรีคิกสุดสวยนอกกรอบเขตโทษเสียบเสาเข้าไป คือสิ่งที่ปลิดวิญญาณ “มอร์เท่น โอลเซ่น” และลูกทีมซึ่งไม่ได้แพ้ “ทีมชาติสวีเดน” แต่แพ้ “ซลาตัน”
เพราะถ้าเกิดสมมุตินักเตะไวกิ้งไม่มีกองหน้าวัย 34 ปีคนนี้ ดูแล้วคงต้องตกรอบอย่างแน่นอนซึ่งสถิติทั้งนัดเหย้าเยือนของคู่นี้ “ทีมชาติสวีเดน” เป็นรองแทบทุกอย่าง ยกเว้นแค่ “ซลาตัน” เพียงอย่างเดียว
ตอนนี้ดาวยิงจาก “ปารีส แซง แชร์แมง” ยิงในรอบคัดเลือกรวม 11 ประตู (รวมรอบเพลย์ออฟด้วย) เป็นรองแค่ “โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้” ของ “ทีมชาติโปแลนด์” คนเดียวที่ยิงไป 13 ประตู
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าไปดูประตูที่ทีมได้ตอนรอบแบ่งกลุ่มเพียงอย่างเดียว 15 ประตู กองหน้าดีกรียูโดสายดำคนนี้ยิงไป 9 ประตูและลูกที่ไม่ได้ยิงก็มีส่วนกับการได้ประตู เอาแค่สถิติเพียงอย่างเดียวก็ถือว่าเป็น “ทุกสิ่งทุกอย่าง” ของทีมไปแล้ว
เรียกว่าเป็นโชคดีของ “เอริก แฮมเรน” โค้ชของทีมและเพื่อนร่วมทีมที่มี “ซลาตัน” อยู่ในทีม ถึงแม้ว่าจะต้องคอยอวยและยกให้เจ้าตัวเป็นผู้นำภายในห้องแต่งตัว
แต่ก็เป็นสิ่งที่สมควรทำเนื่องจากสิ่งที่ “ซลาตัน” ทำในสิ่งที่คนอื่นทำให้ไม่ได้คือ “แบกทีมเข้ารอบ”
ความคลาสิกอีกอย่างนึงของ “ซลาตัน” คือการทำให้ “ทีมชาติสวีเดน” กลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จจากนักเตะเพียงคนเดียวจริงๆ
ซึ่งในปัจจุบันหรือยูโรที่จะถึงมีเพียงแค่ “ทีมชาติโปรตุเกส” ทีมเดียวมั้งที่คล้ายกันโดยมี “คริสเตียนโน่ โรนัลโด้” คอยแบกทีมไว้
แต่ต้องอย่าลืมว่าเพื่อนร่วมทีมของเจ้าโด้ “เก่งกว่า” เพื่อร่วมทีมของซลาตันเป็นไหนๆ ดังนั้นถ้าจะยกให้ใครเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมตต์รอบคัดเลือกคงตัดสินไม่ยากอย่างแน่นอน
สำหรับเจ้าตัวด้วยดีกรีนักเตะยอดเยี่ยมของชาติ 10 สมัย ตอนนี้อาจจะเทียบเท่าหรือเหนือกว่า “เฮนริค ลาร์สสัน” เลยด้วยซ้ำ และเป็น “ตำนาน” อีกคนที่ยังเล่นฟุตบอลอยู่ในระดับท็อปของยุโรป
นอกจากฝีเท้าที่เก่งกว่าคนอื่นแล้วยังมีเรื่องของ “ความเป็นผู้นำ” ที่สูงมาก มิเช่นนั้นในระดับสโมสรเองอย่าง “ปารีส แซง แชร์แมง” ที่มีซุปตาร์จากทั่วโลกเดินชนกันเต็มทีม เจ้าตัวคงเป็นผู้นำท่ามกลางสปอต์ไลท์ไม่ได้หรอก
ไม่นับ “กึ๋น” ในการเล่นฟุตบอลของเจ้าตัวที่ไม่ธรรมดาและยังคงเป็นกองหน้าในฝันของโค้ชฟุตบอลเสมอ เพราะรูปร่างสูงใหญ่ แข็งแกร่ง มีความเร็ว ยิงประตูเฉียบคมแล้วยังออกลูก “ตุกติก” สั่นประสาทคู่แข่งฝ่ายตรงข้ามได้อีก
สุดท้ายขอชาบูกองหน้าคนนี้จากใจที่สามารถลบความผิดหวังที่ไม่สามารถแบกทีมไปเล่นฟุตบอลโลกที่บราซิลเมื่อ 2 ปีก่อน กลับมาพาทีมเข้าสู่รอบสุดท้ายยูโรได้ในที่สุด
งานนี้ขุนพลไวกิ้งแม้ชื่อเป็นทางการคือ “ทีมชาติสวีเดน” แต่ความจริงแล้วมันคือ “ทีมซลาตัน” ต่างหากล่ะ!!!!