สกู๊ป : แอบลุ้น "แข้งช้างศึก" ไปด้วยกัน!

ผมเชื่อว่าคืนวันพุธต่อถึงเช้าตรู่ วันพฤหัสบดี จะต้องมี “คอบอล” ขนานแท้ อดตาหลับขับตานอนดูทั้งทีมชาติไทยชุด ยู-23 ปี สู้ศึก AFC ชิงแชมป์เอเชียเพื่อคัดโควต้าไป “โอลิมปิก เกมส์ 2016”

ต่อด้วย “พรีเมียร์ลีก” อังกฤษ คู่มิดวีกจะเกมอะไรก็แล้วแต่ ทว่าสุดท้ายคู่เอกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับอาร์เซนอล น่าจะเป็นเกมที่คนส่วนใหญ่เลือก

รวมความแล้วกว่าจะจบ และได้นอนก็ปาเข้าไปประมาณ “ตี 5” ตอบโจทย์ค่ำคืนยาวนานของคอกีฬาอย่างแท้จริง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเป็นแฟนทีมช้างศึก และหงส์แดง ผลเสมอ 1-1 และ 3-3 น่าจะทำให้เกิดความรู้สึกมี “ความสุข” เสมือนได้ 3 แต้มนะครับ

ฟุตบอลบางครั้งก็แบบนี้ ทีมชาติไทยแม้จะมีโอกาสครองบอลน้อยกว่า, คอร์เนอร์น้อยกว่า แต่โอกาสการทำประตูไม่เป็นรอง

ในวันที่อะไรๆ เป็นใจ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และลูกทีมสามารถชนะรองแชมป์เก่าอย่าง ซาอุดีอารเบีย ได้สบาย 2-3 ประตู

ตรงกันข้าม ในวันที่อะไรไม่เป็นใจ พวกเราก็สามารถแพ้ได้ง่ายๆ 2-3 เม็ดเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น เสียจุดโทษแล้ว สมพร ยศ เซฟไว้ได้ หรือจังหวะหลุดเดี่ยว แต่ซาอุฯ ดันล้ำหน้าซะเอง

ดังนั้นผลการแข่งขัน 1-1 แล้วแบ่งแต้มกันไปหลังเกมในกลุ่มเดียวกันที่ ญี่ปุ่น ปราบเกาหลีเหนือได้ก่อน 1-0 จึงเป็นอะไรที่เหมาะสม และทำให้เราเดินหน้าสู่เกมแมตช์ 2 กับญี่ปุ่นได้อย่างมีความหมายในวันนี้ เสาร์ที่ 15 ม.ค. เวลา 20.30 น. ตามเวลาบ้านเรา

โดยหากทีมชาติไทยเก็บสกอร์ที่ต้องการ หรืออย่างน้อย “ยันเสมอ” ได้ เกมวัดใจกับเกาหลีเหนือ วันที่ 19 ม.ค. จะเต็มไปด้วยความหมายทันที

ทั้งนี้หากพิจารณาจากฟอร์ม “เกมแรก” ของทุกทีมในกลุ่ม บี กลุ่มเดียวกับเรา ผมมั่นใจได้เลยว่า เราไม่ “เป็นรอง” และหากปรับเกมรับให้ลงตัวอีกเล็กน้อย

ไม่ว่าจะเป็น “ฟูลแบ็ก” ทั้ง 2 ฝรั่ง คริสตอง สมชาย โด และ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ที่ดันสูงแล้วลงไม่ทันในหลายครั้ง หรือขาดมิดฟิลด์ตัวรุกแท้ๆ จนต้องไปใช้ “เจ้าบี” ชญาวัต ศรีนาวงศ์ ดาวเตะสตั๊ดขาด

จน ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ อดิศร พรหมรักษ์ ต้องทำงานหนัก เฉพาะอย่างยิ่งอดิศร ที่มีปัญหาในการยืนตำแหน่งอยู่แล้วยิ่งต้องรับภาระเยอะ

อีกประเด็น คือ นอกจาก เจนรบ สำเภาดี ที่ “เด่นมาก” แต่เจ็บ เราจะมีใครทดแทนได้หรือไม่ใกล้ๆ กัน

เอาเป็นว่า หากไม่โชคร้ายไปนัก เราได้ลุ้นแน่นอนครับ!!

ภาพจาก : The Asian Football Confederation