สกู๊ป ESPN ถึงช้างศึก U23 : เรียนรู้จากความล้มเหลว เพื่อไปป้องกันแชมป์ซูซูกิคัพ!

สกู๊ป ESPN ถึงช้างศึก U23 : เรียนรู้จากความล้มเหลว เพื่อไปป้องกันแชมป์ซูซูกิคัพ!

สกู๊ป ESPN ถึงช้างศึก U23 : เรียนรู้จากความล้มเหลว เพื่อไปป้องกันแชมป์ซูซูกิคัพ!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เว็บไซต์ espnfcasia วิเคราะห์ถึงทีมชาติไทย ชุดยู-23 หลังจากเดินทางไปกาตาร์เพื่อแข่งขัน AFC U-23 พร้อมแบกความคาดหวังสำหรับความสำเร็จไว้มาก แต่ต้องล้มเหลวและตกรอบแรก แต่ก็ไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า เก็บได้ 2 แต้ม จากการลงเล่น 3 นัด

ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่ความพ่ายแพ้กับเรื่องราวมากมายในปีนี้สำหรับฟุตบอลไทย ทีมไทยไม่เคยจบในอันดับท็อป 3 ในทัวร์นาเม้นท์ ทีมอย่างเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น กาตาร์ และอิรัก แชมป์เก่า ทำให้เห็นว่าทีมไทยยังไม่พร้อมกับความท้าทายในระดับเอเชีย มันอาจจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับไทยที่ต้องตกรอบ ทั้งในเรื่องของประสบการณ์การแข่งขันสำหรับนักเตะรุ่นใหม่ และความมั่นใจในภาพรวม แต่ยังมีประเด็นอื่นๆที่ต้องโฟกัสอีก โค้ชเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้เรียนรู้อย่างมากมายกับทั้งทีมชาติไทยชุด U23 และชุดใหญ่

สิ่งที่ต้องทำก่อนในลำดับแรกสำหรับประเทศไทยคือ เกมที่ต้องพบกับอิรักในสนามกลางที่กรุงเตหะราน ในวันที่ 24 มีนาคม ถ้าหากเสมอก็จะได้เข้ารอบ 3 ของรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกโซนเอเชียปี 2018 อย่างแน่นอน แต่ถ้าหากแพ้ ก็ต้องมาลุ้นกันว่าจะเป็นที่อันดับสองที่ดีที่สุด 4 ทีม ที่จะได้เข้าไปแข่งกับทีมแชมป์กลุ่มอีก 8 ทีมหรือไม่ การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งใน 12 ทีมนี้เป็นสิ่งที่ทีมชาติไทยต้องการอย่างมาก

การเข้าไปอยู่ในกลุ่ม 12 ทีมถือเป็นเป้าหมายหลัก แต่การได้เป็นแชมป์กลุ่มถือเป็นสิ่งที่พิเศษและเป็นการส่งสัญญาณไปยังทีมที่เหลือของเอเชียที่จะต้องคำนึงถึงทีมไทยด้วย จากนั้นก็จะมาเป็น 10 ทีมใหญ่ในรอบคัดเลือกที่จะต้องต่อกรกับทีมชั้นนำ มันถือเป็นเรื่องในอุดมคติสำหรับประเทศกำลังพัฒนา ในแมทช์ที่มีความกดดันสูงเมื่อพบกับทีมอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อิหร่านหรือทีมอื่นๆ อาจจะเป็นเกมที่ช้างศึกไม่ได้คาดฝันไว้

ชนาธิป ได้โชว์ลีลาและชั้นเชิงของเขาในกาตาร์แต่ก็ไม่สามารถพาทีมเข้าสู่รอบต่อไปได้ ถือว่าเป็นปีที่สำเร็จแล้วหรือไม่? ก็เกือบจะ มันเป็นสิ่งจำเป็นที่ทีมไทยต้องชนะในทัวร์นาเม้นท์นี้ด้วย ซูซูกิ คัพ 2016

 

บางคนอาจจะยังกังขาว่า ทีมไทยอาจจะยังไม่ใช่ทีมที่ดีที่สุดในอาเซียน จึงจำเป็นต้องพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้ง การได้เข้ารอบสุดท้ายในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 และการได้แชมป์ในระดับภูมิภาคในเดือนธันวาคม จะทำให้กลายเป็นปีที่น่าจดจำมากเลยทีเดียว

และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่กาตาร์ควรจะช่วยให้มันเกิดขึ้นได้ ถ้าทัวร์นาเม้นท์นี้ใช้เป็นทัวร์นาเม้นท์สำหรับการพัฒนา ถ้าบทเรียนที่ได้จากกาตาร์ช่วยให้ทีมไทยได้ผลที่ต้องการกับเกมที่จะพบกับอิรัก และต่อจากนั้นชนะทุกทีมในอาเซียน แล้วจะทำให้การแข่งขัน AFC U23 ไม่ใช่ความล้มเหลวแต่เป็นอีกบันไดขั้นที่จำเป็นต้องก้าวต่อไป

สำหรับโค้ชซิโก้ บทเรียนที่ได้รับอย่างแน่นอนคือจำเป็นจะต้องทำเกมรับให้แน่นขึ้น เพื่อทำให้ทีมชาติไทยชนะได้ง่ายขึ้น ก้าวไปข้างหน้า ช้างศึกยังมีนักเตะที่เล่นได้อย่างพลิ้วไหวหลายคน ไม่ใช่แค่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ (เมสซี่เจ) เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายคนที่แสดงผลงานได้อย่างชัดเจนเมื่อพบกับทีมอย่างซาอุฯ เกาหลีเหนือ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งญี่ปุ่น ต้องยอมรับเลยว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ยากมาก กับสามทีมที่มีเป้าหมายในการเข้ารอบสุดท้ายเหมือนกัน และทีมไทยก็คู่ควรกับพวกเขา

ทีมสามารถเปลี่ยนจากเกมรุกมาเป็นเกมรับ โดยผู้เล่นไม่อยู่ในตำแหน่ง ซึ่งเอื้อประโยชน์ทีมให้ญี่ปุ่นหลายครั้ง มีบางครั้งที่นักเตะขาดระเบียบวินัยในการเล่น ส่วนการสร้างสรรค์เกมรุก และการโต้กลับเร็วซึ่งโดยปกติแล้วไม่เป็นปัญหาสำหรับทีมไทย แต่การเล่นเพื่อผลการแข่งขันเป็นสิ่งที่ต้องเพิ่มเข้าไป แม้จะชนะแบบไม่สวยงาม หรือการที่ไม่แพ้เป็นเรื่องที่ดีสำหรับทีมก็จำเป็นต้องทำให้ได้ ในตอนนี้มันคือทักษะที่โค้ชซิโก้ต้องพยายามและปลูกฝังให้กับนักเตะของเขา

ในกาตาร์ เหมือนจะขาดผู้นำในทีม นั่นคือเหตุผลว่าทำไมทีมไทยจะดูดีขึ้นถ้ามีชาริล ชัปปุยส์ บัญชาเกมในแดนกลาง ลูกครึ่งไทย-สวิสซึ่งได้รับบาดเจ็บถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแดนกลาง เขาเก็บบอลได้ดี และสร้างความกดดันให้กับแผงหลังได้ เขาเป็นตัวขับเคลื่อนทีมและถ้ามีเขาอยู่ก็จะทำให้เพื่อนร่วมทีมมีความมั่นใจมากขึ้น

แต่อายุเขาก็มากเกินไปสำหรับทัวร์นาเม้นท์ล่าสุด ตอนนี้เขาอายุ 24 ปีและเคยช่วยให้ทีมสวิตเซอร์แลนด์ได้แชมป์โลกอายุไม่เกิน 17 ปี ในปี 2009 เขาจะนำพาช้างศึกไปสู่ปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับปี 2016 แม้ว่าจะไม่ทันในเดือนมกราคม แต่ก็มีโอกาสมากมายในช่วงที่เหลือของปี 2016 สำหรับประเทศไทยที่จะแสดงให้เห็นว่า ที่กาตาร์ไม่ใช่ความล้มเหลว

แชมป์เอเชียอย่างออสเตรเลียก็ได้สร้างประสบการณ์จากความพ่ายแพ้ 3 นัดในฟุตบอลโลก 2014 มาใช้และได้แชมป์ในระดับภูมิภาคในบ้านตัวเองเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ทีมไทยสามารถเดินตามรอยของพวกเขาได้ แต่พวกเขาก็ต้องรู้บทเรียนที่ได้จากโดฮาอย่างเหมาะสม

ที่มาข่าว : espnfcasia.com
เครดิตโดย แอดมินอีเจ้ เพจคอมเม้นท์แฟนกีฬาต่างชาติ
เครดิตเว็บ HTTP://WWW.THAIWINDS.COM
หากแปลผิดพลาด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook