"บิ๊กอ็อด" เปิดใจ ก่อนถึงวันเลือกตั้งนายกส.บอลไทย ครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์

"บิ๊กอ็อด" เปิดใจ ก่อนถึงวันเลือกตั้งนายกส.บอลไทย ครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์

"บิ๊กอ็อด" เปิดใจ ก่อนถึงวันเลือกตั้งนายกส.บอลไทย ครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หนึ่งในผู้สมัครชิงเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เปิดใจผ่านเฟซบุ๊คเพจ "FAIR"

โดยมีข้อความดังต่อไปนี้

-------------------------------------------------

เรียน แฟนฟุตบอลชาวไทยที่เคารพรัก ทุกท่าน

ผม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ในฐานะผู้สมัครนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ มาพูดคุยทำความเข้าใจกับทุกๆ ท่าน ว่า ผมตั้งใจจะเข้ามาทำอะไรบ้าง?

เพื่อฟุตบอลไทย ที่แฟนฟุตบอลทุกท่านมีส่วนร่วมสร้างขึ้นมาด้วยความรัก

เพื่อทีมชาติไทยของเรา ที่พวกเราทุกคนส่งเสียงเชียร์ ด้วยความรักและความศรัทธา

เพื่อแฟนบอลทุกคน ที่ให้การสนับสนุน และเชียร์ฟุตบอลไทย ทั้งระดับสโมสรและทีมชาติไทย

3 เดือนเศษที่ผ่านมา ที่ผมเพิ่มบทบาทตัวเองจาก แฟนบอลชาวไทยคนหนึ่ง มาเป็นผู้เสนอตัวทำหน้าที่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ผมได้พบเห็นสิ่งต่างๆ มากมาย ที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น ได้รับน้ำใจ กำลังใจ การสนับสนุนจากพี่น้องเพื่อนฝูง จำนวนมาก

ผม ได้เห็นความรัก ความศรัทธาของคนทำทีมฟุตบอล ที่มีต่อฟุตบอลไทย อย่างน่าประทับใจ หลายคนทำด้วยความรักฟุตบอล มีหนี้มีสินเยอะแยะ รู้ว่ายิ่งทำก็ยิ่งมีหนี้ แต่ก็ยังทำ ยังสู้ต่อ เพราะอยากเห็นฟุตบอลไทยเติบโต อยากเห็นแฟนคลับมีความสุข

ทีมใหญ่ทีมเล็ก ดิวิชั่นไหน ก็มีหัวใจยิ่งใหญ่ ไม่แพ้กันจริงๆ

เช่นเดียวกับ แฟนบอลทุกคน ทุกทีม ก็มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน รัก ทุ่มเท เชียร์ เสียสละเพื่อทีมของตัวเอง สุดจิตสุดใจ

ในขณะเดียวกัน ผมก็ได้เห็นการกระทำ พฤติกรรม และแนวคิดของคนบางคนบางกลุ่มที่อยู่ในวงการฟุตบอลมายาวนาน แล้วรู้สึกประหลาดใจ

ในขณะที่ปากบอกว่า รักฟุตบอลไทย แต่ทำไมจึงสร้างเงื่อนไข หาเหตุให้ฟุตบอลไทยโดนแบน ไม่เว้นแต่ละวัน

เท่านั้นไม่พอ ยังส่งเรื่องเท็จไปฟ้องฟีฟ่า เพื่อจะให้ฟุตบอลไทยโดนแบน ให้ได้

ทั้งๆ ที่บอกว่าเป็นครอบครัวฟุตบอล แต่สิ่งที่กระทำต่อคนในครอบครัว ทำไมจึงเลือกที่รักมักที่ชัง ไม่เป็นธรรม ไม่เท่าเทียม ทำไมจึงรังแกกันเอง ทำไมจึงไม่ฟังคนในครอบครัว ทำไมต้องใช้อำนาจข่มขู่ บังคับ

ทุกคนมาทำฟุตบอล ด้วยความรัก อยู่แล้ว แม้ว่าจะมีจุดยืนแตกต่างกันอย่างไรก็ตามแต่ผมเชื่อว่าทุกคนรักฟุตบอลเหมือนกัน

จึงควรจะใช้การพูดจา รับฟัง แลกเปลี่ยน และร่วมกันหาทางออกอย่างมีเหตุมีผล ยอมรับกันได้ ให้เกียรติกัน เคารพกัน

ดีกว่าที่จะมาข่มขู่ ไม่เชื่อฟัง ไม่ทำตาม จะถูกลงโทษ ถูกปรับ ถูกขับออกจากลีก ไม่ให้เล่น จะยิ่งทำให้ปัญหาแก้ยากมากขึ้นไปอีก

นี่คือสิ่งที่ผมประหลาดใจ กับวงการฟุตบอลไทยยุคนี้

ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฟุตบอลไทย ชื่อเสียง ภาพพจน์ของสมาคมฯ ที่เสียหายจากการที่ฟีฟ่า แบนอดีตนายกสมาคมฯ และถอดถอนสภากรรมการทั้งชุด ไม่ให้ทำหน้าที่รักษาการ แม้แต่คนเดียว ถือว่าประเทศไทยเสียหายมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา

แต่ ทำไม คนกลุ่มเดียวกันนี้ จึงยังไม่หยุด ? นี่คือคำถาม

ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ถ้าวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นี้ ผมได้รับความไว้วางใจจากสโมสรสมาชิก ลงคะแนนให้เป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

สิ่งที่ไม่ดีในวงการฟุตบอล ทั้งแนวคิด ทัศนคติ การกระทำ และพฤติรรมที่แย่ๆ ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นที่ยอมรับของสโมสรส่วนใหญ่ และแฟนฟุตบอล ผมจะกำจัดให้หมดสิ้นไป

สิ่งดีๆ ที่มีอยู่ ผมจะสนับสนุน ส่งเสริมให้เพิ่มมากขึ้น

ผมบอกกับสโมสรสมาชิก ที่สนับสนุนผม ว่า ถ้าผมเป็นนายกสมาคมฯ ผมมีหน้าที่ที่จะต้องทำให้วงการฟุตบอล มีความแฟร์ เหมือนป้าย fair play ที่อยู่ในสนามฟุตบอล

ผมจะสนับสนุนให้สโมสร มีความแข็งแรง มีส่วนร่วมกับการบริหารจัดการสมาคมฯ และการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกให้มากที่สุด

ผมจะจัดหางบประมาณมาสนับสนุนสโมสร ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้สโมสรแข็งแรง ผมเชื่อว่าถ้าสโมสรแข็งแรง ลีกมีมาตรฐานสูงขึ้น ทีมชาติไทย จะก้าวหน้าไปได้ไกลกว่านี้

ผมจะสนับสนุนการบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคม และ การแข่งขันฟุตบอลลีก ให้มีมาตรฐานสากล และมีความเป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ผมมั่นใจว่า จะมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท

เงินทุกบาทที่ได้มาจากการบริหารสิทธิประโยชน์ จะเป็นทุนมาพัฒนาฟุตบอลไทย ตั้งแต่เยาวชนทุกรุ่นอายุ ถึงทีมชาติชุดใหญ่ ทั้ง ระดับสโมสร และ ทีมชาติไทยทุกรุ่นอายุ

นอกจากการหารายได้มาพัฒนาฟุตบอลไทย ทั้งระบบแล้ว สิ่งที่ต้องทำควบคู่กัน ก็คือการลดรายจ่ายที่ฟุ่ม เฟือย และ ไม่จำเป็น ออกทั้งหมด ซึ่งผมจะเข้าไปดูด้วยตัวเองทุกรายการ เพื่อเอาเงินที่มี มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

สุดท้ายคือ การขยายโอกาส สร้างโอกาส ใหม่ๆ ให้กับนักฟุตบอลไทย ทุกรุ่นอายุ

ผมจะสร้างฟุตบอลไทย ด้วยการวางรากฐาน Academy ของสมาคมฯ และเปิดโอกาสให้เด็กจากทุกสโม สร เข้ามาพัฒนาตัวเอง คาดว่าแต่ละปี จะมีเด็กๆ เข้าสู่โครงการนี้ 400-500 คน

โดยสมาคมฯ รับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผมเชื่อว่าภายใน 5 ปี เด็กๆ ในโครงการนี้ จะนำธงชาติไทยไปถึงการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ได้

แน่นอน ผมมีผู้สนับสนุนโครงการนี้คือ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เจ้าของทีม เลสเตอร์ ซิติ้ ทีมอันดับ 1 ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่จะมาต่อยอดให้กับนักฟุตบอลในโครงการนี้

เรื่องที่สำคัญที่สุด ที่ผมตั้งใจไว้ ในการทำงานของผม ในฐานะนายกสมาคมฯ ก็คือ การสร้างความรัก ความศัทธาฟุตบอลไทย ให้เกิดขึ้นกับแฟนฟุตบอลชาวไทย อย่างยั่งยืน

ถ้าไม่มีแฟนฟุตบอลให้การสนับสนุน ไม่เชียร์ ไม่ให้กำลังใจทั้งในสนาม และหน้าจอโทรทัศน์ ทีมชาติไทย ไปไม่ได้ไกลแน่ๆ

สำหรับผม แฟนฟุตบอลคือ ผู้ที่จะชี้ชะตาฟุตบอลไทย ดังนั้น อะไรที่ทำให้แฟนบอลไทยสะดวก สบาย ปลอดภัยในการมาดูฟุตบอล ทุกสนาม ทั่วประเทศไทย

รวมทั้งในต่างประเทศ ผมจะให้การสนับสนุน และทุกครั้งที่มีโอกาส ผมจะเข้าไปชมเกมการแข่งขันในสนาม ไปพบกับท่าน ด้วยตัวเอง

ผมขอประกาศไว้ตรงนี้ เลยว่า ถ้าผมเป็นนายกสมาคมฯ ทุกสนาม จะต้องไม่มี "ตั๋วผี"

ผมจะคืนความเป็นธรรม จะสร้างความ FAIR ให้กับแฟนฟุตบอลชาวไทยทุกคน

เพราะฉนั้น แก๊งตั๋วผี ที่หากินหาประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรม กับแฟนฟุตบอล ขอให้เลิก ขอให้ไปทำอาชีพอื่น ถ้าไม่รู้จะทำอะไร มาบอกผม จะหางานสุจริตให้ทำ

ใครที่คิดจะลองกับผม จะท้าทาย ก็คงจะได้เจอกับผม

เรื่องนี้ ผมเอาจริง!!

หยุดเสียที กับการฉวยโอกาสทำมาหากิน หาประโยชน์บนความรัก ความศรัทธาฟุตบอลไทย ทีมชาติไทย ของคนไทยด้วยกันเอง

ทำความรู้จัก ทำความเข้าใจกันแค่นี้ก่อน หลังวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ผมกับทุกๆ ท่าน จะได้พบเจอกันมากกว่านี้ และผมจะต้องมาขอความร่วมมือ ขอคำแนะนำจากทุกๆ ท่านมากกว่านี้ เพื่อที่เราจะได้พัฒนาฟุตบอลไทย ไปด้วยกัน

ขอบคุณครับ
พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
8 กุมภาพันธ์ 2559

- ทั้งนี้การเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ นี้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook