สกู๊ป : 4-4-2 ฉบับผี! เซฟเก้าอี้ "เนวิลล์"

สกู๊ป : 4-4-2 ฉบับผี! เซฟเก้าอี้ "เนวิลล์"

สกู๊ป : 4-4-2 ฉบับผี! เซฟเก้าอี้ "เนวิลล์"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับสาวกแมนฯ ยูไนเต็ด ที่อยากให้อดีตนักเตะขวัญใจได้ดิบได้ดีในวงการโค้ชแล้ว ฟุตบอลลาลีกาเมือคืนวันเสาร์ คู่ระหว่างบาเลนเซีย กับ เอสปันญ่อล ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนัดสุดคลาสสิคในความทรงจำได้เลย

บาเลนเซียภายใต้การทำทีมของแกรี่ เนวิลล์ ไม่ชนะใครในลีกมา 12 เกมติด เกือบจะเท่ากับสถิติแย่ที่สุดที่เคยมีมาของทีม ที่ไม่ชนะใครติดต่อกัน 13 นัด

ทางด้านทีมเยือนเองก่อนหน้านี้ ในลีก 7 นัดล่าสุดเก็บได้สองคะแนนเท่านั้น หนักไปทางแพ้ซะเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าจะเพิ่งเปลี่ยนตัวกุนซือมาก่อนตาม

แต่ยังดีที่ คอนสแตนติน กัลก้า กุนซือคนใหม่เคยทำทีมชนะในการประเดิมงานมาแล้ว แม้จะแค่เกมเดียวตาม

“ไอ้ค้างคาว” ก่อนลงสนาม ขาดทั้ง อันเดร โกเมส, สโกดราน มุสตาฟี่ และ โฆเซ่ กาย่า สามแข้งหลัก ที่ติดโทษแบนกันทั้งหมด

แถมลงสนามไปยังไม่ถึง 10 นาที ก็ต้องมาเสียอายเมน อับเดนนูร์ ที่บาดเจ็บต้องออกจากสนามไปก่อนใครเพื่อน

เกมครึ่งแรกนั้น บาเลนเซียครองเกมได้ก็จริง แต่ตัวสร้างสรรค์โอกาส ทั้ง เชริเชฟ, โรดริโก้ รวมทั้ง เฟกูลี่ ไม่มีพิษสงพอจะเล่นงานเอสปันญ่อลได้ แบ็กสองข้างของทีมก็เหมือนได้รับคำสั่งจาก แกรี่ โดยตรงว่าอย่าดันสูง เพราะไม่กล้าเติมเกมเลย คงจะกลัวลูกสวนของทีมเยือนเช่นกัน

ครึ่งหลังนี่เอง ที่ต้องเรียกได้ว่า เป็นเกมฟุตบอลที่น่าดู และเป็นฝ่ายทีมเยือนที่ฉวยโอกาสชึ้นนำไปก่อน จากลูกเตะมุม ที่ผู้เล่นบาเลนเซียประกับตัวกันไม่ดี ออสการ์ ดูอาร์เต้ กองหลังตัวใหม่ วิ่งสอดไปโหม่งกลางประตู

มันเริ่มสนุกตรงที่เจ้าบ้าน ต้องเปิดเกมรุก และต้องยิงคืนให้ได้ด้วย เพื่อรักษาเก้าอี้ของเจ้านาย

การแก้เกมหนแรกของโค้ชชาวอิงลิช คือ เปลี่ยนจาก 4-2-3-1 ที่ถนัดเป็น 4-4-2 ที่เขาคุ้นเคยมากกว่า โดยถอดตัวรุกออกคนหนึ่งนั่นกึคิอ โรดริโก้ ที่แทบไม่มีบทบาทอะไรในการสร้างสรรค์เกมเลย แล้วใส่เนเกรโด้ ลงไปเป็นหน้าสองตัว ใช้ริมเส้นเติมเกม แล้วดันแบ็กขึ้นสูงไปช่วย

แผนนี้คุ้นๆ หรือไม่ครับ ???

นี่มัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วง ปลาย 90 ชัดๆ ที่มี กิ๊ก และ เบ็คแฮม เล่นเป็นปีก โดยมี แบ็กอย่าง แกรี่ เนวิลล์ คนนี้ เป็นแบ็กขวา คอยเติมไปกดดันให้ริมเส้น มีพื้นที่เล่นมากขึ้น

โซฟิยาน เฟกูลี่ เป็นเบ็คส์ และ เจา คันเซโล่ เป็นแกรี่ ใช้เกมด้านขวาทำลายคู่แข่ง

และมันก็ได้ผลจริงๆ  ลูกตีเสมอ มาจาก การให้เฟกูลี่ ถ่างออกข้างมากขึ้น ก็ดึงตัวประกบออกไป ทำให้ คันเซโล่ ที่ดันขึ้นมา หลอกจ่าย ก่อนจะเลี้ยงเข้ากลางเสียเอง แล้วตบเข้ากลางให้กับ เนเกรโด้ ยิงไม่เหลือ

ลูกตีเสมอ ก็ยังคงเป็นแบ็กขวา และ ปีกขวา ที่เล่นงานเอสปันญ่อลได้อีก จากคันเซโล่ ที่ทีมเยือนเริ่มพะวง ไม่มีใครกล้าพรวดพลาด จนทำให้ มีเวลา จ่ายทะลุให้กับ เฟกูลี่ หลุดไปถึงสุดเส้นด้านขวา

ก่อนจะเปิดมาราวกับตัวเองเป็นเบ็คแฮม อดีตกัปตันสุดหล่อทีมชาติอังกฤษ บอลลอยมาลงหัว เชริเชฟ ปีกซ้ายที่นึกว่าตัวเอง เป็นไรอัน กิ๊กส์ เช่นกัน สอดมาโหม่งจ่อๆ ไม่เหลือ

เพราะกองหลังไอ้นกแก้ว ไปพะวง ยอร์ค และ โคล ...เอ้ย ปาโก้ อัลกาเซร์ และ เนเกรโด้ กันหมด ทำให้เด็กปั้นของเรอัล มาดริด วางพอจะทำประตูได้

เป็นอันว่า แกรี่ เนวิลล์ โยนความกดดันทั้งหมดในหน้าที่การงาน ไปให้ กับคอนสแตนติน กัลก้า ที่เสี่ยงกับการตกงาน เนื่องจากนี่จะเป็น นัด 8 แล้ว ที่ยังคงเก็บได้เพียง 2 คะแนน หากนับเฉพาะเกมเยือนในลีก ก็แพ้มา 10 นัดติดต่อกันรวดพอดิบพอดี

แม้จะพยายามแก้เกมโดยเปิดเกมรุกมากขึ้น แต่ทว่าเวลาที่เหลืออีก 10 กว่านาทีมันน้อยไปเสียแล้ว แถมยังต้องพะวงเกมริมเส้นของเจ้าบ้านอีก

จบเกม สรุปว่า แกรี่ เนวิลล์ ยังต่ออายุงานของตัวเองได้สำเร็จ โดยการอาศัยประสบการณ์ภายใต้การเป็นลูกน้องท่านเซอร์ บวกกับตำแหน่งประจำของตัวเอง ทำให้ทีมชนะได้ ในรอบ 13 นัด


แมนออฟเดอะแมตช์  : เจา คันเซโล่

ด้วยความที่เป็นแบ็กขวาเหมือนกับโค้ช บวกกับวัยเพียง 21 ที่กำลังห้าวหาญ ทำให้รับคำสั่งแล้วเอาไปปฏิบัติได้ตรงตามที่ทีมต้องการ คือ เติมไปบ้านบอล และสร้างสรรค์ โอกาส ในยามที่ปีกเข้าประชิด

สองลูกที่ทีมได้ตีเสมอและไล่แซง ดาวรุ่งชาวโปรตุกีส มีส่วนทั้งหมด เชื่อว่าเขาจะได้เรียนรู้อะไรดีๆ จากผู้จัดการทีมคนนี้อีกเยอะและมันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเขาในชีวิตการเล่นฟุตบอลแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook