สกู๊ป : "คล็อปป์" กับเดิมพัน 18 พ.ค. (โดย ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)

สกู๊ป : "คล็อปป์" กับเดิมพัน 18 พ.ค. (โดย ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)

สกู๊ป : "คล็อปป์" กับเดิมพัน 18 พ.ค. (โดย ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การพา ลิเวอร์พูล ก้าวสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโรป้า ลีก ที่บาเซิลถือเป็นผลงานน่าตื่นเต้นของเจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเยอรมัน ผู้อาสามาคุมทีมในถิ่นแอนฟิลด์เพียง 6 เดือนก็พาทีมเข้าชิงไปแล้วสองถ้วย

น่าชมเชยก็คือการเปลี่ยนแปลงทีมที่ย่ำแย่อันเป็นมรดกตกทอดมาจากยุคของ แบรนดอน ร็อดเจอร์ส ให้กลายเป็นทีมเปี่ยมสปิริต ทั้งๆที่ยังไม่ได้เสริมทัพอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเลย แถมยังต้องเจอกับมรสุมนักเตะเจ็บกว่าครึ่งทีม

เขาแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของการเป็นกุนซือที่ครบเครื่องทั้งเรื่องการวางแทคติคแก้เกม (Tactician) การบริหารคน (Man Management) การกระตุ้นนักเตะ (Motivator)

เห็นชัดเจนก็คือการทำให้คนที่ฟอร์มตกไปแล้วอย่าง เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้ และ อัลเบอร์โต้ โมเรโน่ กลับมาเล่นได้ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา

อีกคุณสมบัติแถมมาด้วยคือการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ประจำทีม 555 คอยกระตุ้นเหล่าเดอะ ค็อป ยามเหงาหงอย

เรื่องของระบบการเล่น หลังจากทดลองสูตรอยู่หลายแบบ คล็อปป์ ดูจะมาลงตัวกับ 4-2-3-1 ใช้มิดฟิลด์ตัวรับคือ เอ็มเร่ ชาน กับตัวเชื่อมเกมอย่าง เจมส์ มิลเนอร์ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน) ตัวรุก เฟลิปเป้ คูตินโญ่, โรเบอร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ อดัม ลัลลาน่า หน้าเป้า ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ (ดิว็อค โอริกี้)

ระบบนี้ทำให้ คล็อปป์ เจอรหัสผ่านไขฟอร์มเกมรุกของทีมจากยิงไม่ออกในครึ่งฤดูกาลแรก กลายเป็นยิงกระจายปลายฤดู

โรเบอร์โต้ ฟีร์มีโน่ ดูจะมีความสุขที่สุดกับแผนนี้ เพราะทำให้เขาได้เล่นตำแหน่งถนัดคือหน้าต่ำ ขณะเดียวกันก็ยังเปิดพื้นที่เหลือไว้ให้เลือกศูนย์หน้าอีกหนึ่งคน ซึ่งทำให้ ดิว็อค โอริกี้ แจ้งเกิด น่าเสียดายที่เจ็บไปเสียก่อน แต่ทีมก็ยังได้ สเตอร์ริดจ์ หายกลับมาส่องเป้าแทน

ถึงตรงนี้คงไม่ต้องให้ใครบอก คล็อปป์ คือคนที่ใช่สำหรับ “หงส์แดง” แต่งานของเขายังไม่จบในฤดูกาลนี้ เพราะมีด่านสำคัญด่านสุดท้ายอย่าง เซบีย่า รออยู่ในวันที่ 18 พ.ค.

การเป็นแชมป์ยูโรป้า จะทำให้ทีมคว้าสิทธิ์ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ทั้งเงินรางวัลและสิ่งล่อใจแข้งดังๆเข้าสู่ทีม คล็อปป์จะกลายเป็นกุนซือที่คุมทีมปีแรกก็คว้าถ้วยใหญ่สำเร็จ เป็นการปลดเปลื้องความกดดันให้มลายสิ้น

ตรงกันข้าม ความพ่ายแพ้จะทำให้ทีมมือเปล่า บรรยากาศภายในจะหงอย ลิเวอร์พูลอาจไม่ได้ไปเล่นถ้วยยุโรปเลย การดึงนักเตะดีๆทำได้ยาก และความกดดันจะยังอยู่บนบ่าทั้งสองข้างของ คล็อปป์ต่อไป

ผลลัพธ์ดูต่างกันราวฟ้ากับเหว! สุดท้ายจะหมู่หรือจ่า พิสูจน์กันคืนวันพุธที่ 18 พ.ค.นี้ หรือ คืนนี้นั่นเอง!

แหม...มันช่างบีบหัวใจชาวหงส์ซะจริง!!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook