สกู๊ป : สิงห์ผงาดในร่างมังกร!

ช่างเนิ่นนานเหลือเกินกว่าท้องฟ้าที่ วิลล่า พาร์ค จะกลับมาสดใส แล้วหลังจากที่เผชิญมรสุมอันสุดแสนทุกข์ระทมมาเนิ่นนาน  ในที่สุดบ่ายแก่ๆวันพุธบ้านเรา

มวลหมอกมหึมาแถวเนิ่นฟ้าแถบมิดแลนด์ก็กลับมาสดใสเสียที!

“หลังจากที่สิ้นหวังมาตลอดนี่คงเป็นข่าวดีแรกในรอบปีของพวกเรา  ผมไม่รู้ว่าเจ้าของชาวจีนนั่นจะดีหรือเปล่า

แต่อย่างน้อยคงไม่มีใครแย่กว่าไอ้ตระกูลเลอร์เนอร์แน่นอน” สุ่มเสียงของสาวก “เดอะ วิลเลี่ยนส์” รายหนึ่งที่เต็มไปด้วยอารมณ์อันสุดปลดปล่อยผ่านทางสกายสปอร์ต ทีวี หลังจากที่ถูกความห่อเหี่ยวบีบคั้นจิตใจให้ทุกข์ระทมมาเนิ่นนาน และแล้วสาวกวิลล่าก็ได้รับข่าวดีที่แฟนบอลทุกคนจะไม่มีวันลืมเลือน

“สโมสรแอสตัน วิลล่า ยินดีอย่างยิ่งที่จะประกาศว่า เราได้เซ็นสัญญาขายกรรมสิทธิ์จาก แรนดี้ เลอร์เนอร์ ให้กับกลุ่มทุน Recon Group เป็นที่เรียบร้อย นับจากนี้ ด็อคเตอร์ โทนี่ เจี่ยนตง เซียะ จะเป็นเจ้าของทีมเราอย่างเป็นทางการ”

โดยส่วนตัวก็อย่างที่สาวกวิลล่ารายนั้นพูด ผมเชื่อครับว่า ไม่ว่า โทนี่ เซียะ จะเป็นใคร หรือมีนัยยะแอบแฝงอะไรรึเปล่าโซ่ตรวนแห่งความวิบัติที่ทีมต้องเผชิญชะตากรรมมาเนิ่นนานได้สิ้นสุดลงแล้ว

นับตั้งแต่ที่กลุ่มทุนมะกันเข้าฮุบสโมสรเมื่อปี 2006 จากวันนั้นถึงวันนี้กว่า “10ปีเต็มๆ” ที่แฟนบอลของทีมต้องพบกับความขมขื่น  กุนซือแล้วกุนซือเล่าไล่จาก มาร์ติน โอนีล ถูกแปรเปลี่ยนกระทั่งสิ้นสุดที่ เรมี่ การ์ด

ในตอนนี้ภายหลังความเน่าเฟะอันเป็นมรดกทอดจาก เลอร์เนอร์ ได้เวลาที่ฟ้าหลังฝน ณ วิลล่า พาร์ค จะก้าวสู่ยุคใหม่

บริษัท Recon Group ของเจ้าสัวชาวจีนอาจไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูอีกทั้งด้วยความโนเนมบวกกับยี่ห้อจีนแดงที่เป็นเครื่องหมายการค้าอาจทำให้แฟนบอลหลายคนต้องร้องยี้

อย่างไรก็ดีผมเชื่อครับว่า หากการลงทุนครั้งนี้เป็นเพียงแค่ธุรกิจเพียวๆโดยไม่มีใจรักมาเจือปน

ย่อม ‘ไม่มีทาง’ เลยที่ โทนี่ เซียะ จะตอบรับความท้าทายในครั้งนี้

มูลค่าทีมราว 62 ล้านปอนด์อาจเป็นจำนวนเศษผงอันน้อยนิดที่ไม่น่าเชื่อว่า ทีมเก่าทีมแก่ที่มีประวัติศาสตร์เคียงคู่แดนผู้ดีมาอย่างยาวนานจะมีราคาเท่ามดตะนอยกระทั่งค่าตัวของ หลุยส์ ซัวเรซ เพียงคนเดียวยังมากกว่า

และก็มิใช่แค่ โทนี่ เซียะ จะเหมือนสามล้อถูกหวยที่ได้ครอบครองทีมแบบถูกๆ  มีรายงานว่า เจ้าของจากแดนไกลนอกจากกว้านเงินซื้อสโมสรแล้วยังต้องแบบรับภาระหนี้สินอันหนักอึ้งกว่า 120 ล้านปอนด์


ดังนั้นจึงไม่มีทางเลยครับที่ดีลนี้จะสุดคุ้มหาก ‘ปราศจากการไต่ตรอง’ กับทีมที่เพิ่งจะตกชั้น บอร์ดบริหารลาออกยกชุดเช่นเดียวกับสภาพภายในที่สุดเละเทะ

ผมเชื่อว่า โทนี่ เซียะ ย่อมคิดดีแล้วครับกับผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิด  หากต้องการเข้ามาทำธุรกิจจริงๆ มีทีมอีกมากมายในชปช. ครับที่ราคาถูกกว่าพร้อมไม่ต้องไปนั่งเสี่ยงตั้งต้นนับหนึ่งใหม่

ดังนั้นหากเจ้าตัวไม่เชื่อน้ำยา และ ศักยภาพของทีมชุดนึ้คงไม่มีทางเลยที่จะเลือกเข้ามา ‘ลงทุน’ การเข้าเทคโอเวอร์สโมสรในครั้งนี้ โทนี่ เซียะย่อมเชื่อสุดใจครับว่า ด้วยพื้นฐานแฟนบอลที่หนาแน่นบวกกับพลังแฝงของทีมเป็นทุนเดิม

ยักษ์หลับอย่าง ‘แอสตัน วิลล่า’ ย่อมปั้นได้

นอกจากนี้ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่ฟังดูแล้วอาจเข้าขั้นไม่น่าเชื่อ แต่กับแฟนบอล “สิงห์ผงาด” หากได้ยินคงใจชื้น

มีรายงานจาก ‘บีบีซี’ สื่อชื่อดังอังกฤษครับว่า  นอกจากจะเป็นนักธุรกิจไฟแรงแล้ว  

‘ดร.เซียะ’ ยังเป็นสาวก “เดอะ วิลเลี่ยนส์” ตัวยง!

แม้จะเติบโตในฐานะหนุ่มที่เต็มไปด้วยหัวการค้า แต่กระนั้นเมื่อครั้งสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เจ้าสัวหน้าตี๋รายนี้เคยเป็นหัวหอกคนสำคัญของทีมโรงเรียนมาแล้ว อีกทั้งก็บ่อยครั้งที่เจ้าตัวมักรับชม ‘แอสตัน วิลล่า’ ทางทีวีบ่อยๆ

ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับที่จะหาใครซักคนจากแดนไกลเบิ่งตารับชมทีมดังจากมิดแลนด์ผ่านทางหน้าจอทีวี ต่อให้ไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่า เรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง หรือ แค่คำหยอด

ทว่าอย่างน้อยสำหรับเด็กหนุ่มซักรายที่เคยมีความฝันอยากไล่ล่าลงหวดลูกกลมกลมกับทีมโรงเรียน

ผมเชื่อครับว่า เจ้าตัวย่อมมีดีเอ็นเอแห่งความคลั่งไคล้ลูกหนังเป็นอย่างดี

นับจากนี้ แอสตัน วิลล่า จะต้องลงไปตั้งต้นใหม่ในชปช. ที่ไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนาน นี่อาจเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดพร้อมแลดูหดหู่ซักหน่อยสำหรับใครที่เป็นแฟนคลับ “เดอะ วิลเลี่ยนส์” อย่างไรก็ดีในความมืดมิดที่ปรากฏบนเบื้องหน้า
 
การแปรเปลี่ยนเจ้าของสโมสรในครั้งนี้อย่างน้อยไม่ต่างกับ “แสงสว่างบนปลายอุโมงค์” เล็กๆ

การถ่ายยุคครั้งนี้ทำให้สาวกวิลล่าได้มีความหวัง งานแรกของ โทนี่ เซียะ นับจากนี้คือ ‘ควานหากุนซือ’ แว่วๆมาครับว่า นายใหญ่คนต่อไปที่เตรียมก้าวขึ้นมากุมบังเหียนทีมมีสิทธิ์เป็น “โรแบร์โต้ ดิ มัตติโอ” บุรุษซึ่งเคยพา “เชลซี” ซิวถ้วยชปล.มาแล้ว

ส่วนสเตปต่อไปของ “สิงห์ผงาด” ในร่างมังกรจะดำเนินต่อไปเช่นไร หรือจะเข้าขั้นอีหรอบเดิม คงต้องปล่อยให้เวลาเปลี่ยนเครื่องพิสูจน์  เพราะ อย่างน้อยมันก็ดีกว่าการจมปลักอยู่กับมะกันอันตรายอย่าง เลอร์เนอร์ เป็นไหนๆ

ที่เพียงแค่ขยิบตาก็แทบรู้ชะตากรรมอันแสนเศร้าแล้วครับว่า ‘หายนะ’ กำลังจะบังเกิดกับทีม!

by มาสเตอร์ ริท