สกู๊ป : รับน้องใหม่

สกู๊ป : รับน้องใหม่

สกู๊ป : รับน้องใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ขณะที่แฟนบอลทั่วโลกกำลังให้ความสนใจอยู่กับชัยชนะของเรอัล มาดริดเหนือแอตเลติโก มาดริดในนัดชิงชนะเลิศของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อคืนวันเสาร์ ศึกแชมเปี้ยนชิพของอังกฤษก็ได้ทีมสุดท้ายที่คว้าตั๋วขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกแล้วเช่นกันนั่นก็คือฮัลล์ ซิตี้

ทีมตราหัวเสือที่จบในอันดับ 4 ของแชมเปี้ยนชิพฤดูกาลนี้ เฉือนชนะทีมอันดับ 6 อย่างเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ไปได้ 1-0 ในเพลย์ออฟนัดชิงชนะเลิศ และนั่นทำให้ฤดูกาลหน้าจะมีน้องใหม่หน้าเก่าถึง 2 ทีมที่ได้กลับมาเล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษอีกครั้ง

อีกหนึ่งทีมที่ว่าก็คือเบิร์นลี่ย์ที่เป็นแชมป์ของลีกแชมเปี้ยนชิพฤดูกาลนี้ หลังจากกอดคอกับฮัลล์ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกไปเมื่อฤดูกาลก่อน ทำให้ปีหน้าจะมีน้องใหม่หน้าใหม่เพียงแค่ทีมเดียวที่ขึ้นมาให้แฟน ๆ ได้ยลฝีเท้ากัน นั่นก็คือมิดเดิลสโบรช์ที่หายหน้าหายตาไปนาน 7 ปี


โบโร่คว้าตั๋วได้ในฐานะรองแชมป์ของลีก หลังจากปีที่แล้วพลาดโอกาสไปด้วยการแพ้ให้กับนอริชในเพลย์ออฟนัดชิงฯ ก่อนจะมาประสบความสำเร็จเอาในปีนี้ที่คว้าอันดับ 2 ไปครองได้ด้วยการเฉือนไบรจ์ตันไปด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่าแค่ 2 ลูกเท่านั้นหลังจากจบด้วยแต้มที่เท่ากัน

นั่นทำให้ไบรจ์ตันยังคงต้องไปลุ้นในการเพลย์ออฟเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ปี แต่ก็ยังคงอกหักเหมือนเดิม และทีมนกนางนวลก็ต้องรอการกลับขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดต่อไปเป็นปีที่ 34 หลังเคยมีช่วงเวลาสั้น ๆ ในลีกระดับท็อปของประเทศเพียงแค่ 4 ปีในประวัติศาสตร์ของสโมสร นั่นคือระหว่างปี 1979-83 เท่านั้น

ส่วนอีกทีมที่ต้องพลาดหวังในรอบเพลย์ออฟร่วมกับเวนส์เดย์และไบรจ์ตันก็คือดาร์บี้ ที่ยังหาทางเลื่อนชั้นกลับขึ้นพรีเมียร์ลีกไม่ได้ หลังอำลามาเมื่อฤดูกาล 2007/08 ด้วยสถิติที่น่าอายสุด ๆ


ในปีนั้นแกะเขาเหล็กที่ได้กลับขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งหลังหายหน้าไป 2 ปี แต่ก็ทำผลงานได้ย่ำแย่สุด ๆ ก่อนจะลงเอยด้วยการชนะแค่นัดเดียวจาก 38 เกม เก็บไปได้แค่ 11 แต้ม ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้ระบบชนะได้ 3 คะแนน

และยังกลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก และทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลลีกอังกฤษนับตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลก ที่การันตีการตกชั้นตั้งแต่เดือนมีนาคมอีกด้วย

ส่วนเชฟฯ เวนส์ฯ นั้นเพิ่งจะมามีโอกาสเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกไป ที่จะได้ลุ้นเลื่อนชั้นกับเขาบ้าง

 เมื่อพาตัวเองขึ้นมาจบในอันดับ 6 ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดที่ทีมนกเค้าแมวทำได้ในลีกแชมเปี้ยนชิพหรือชื่อก่อนหน้านี้คือลีกดิวิชั่น 1 เพราะส่วนใหญ่จะจบในอันดับค่อนไปทางท้ายตาราง และเคยตกลงไปเล่นในลีกวันหรือลีกดิวิชั่น 2 มาแล้วถึง 2 รอบอีกต่างหาก


แต่ก็น่าเสียดายที่อีกหนึ่งทีมที่มีคนไทยเป็นเจ้าของต้องพลาดหวังที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ร่วมลีกกับเลสเตอร์ และเค้าแมวไทยก็คงต้องรอลุ้นต่อไปว่าจะได้มีโอกาสขึ้นมาไฝว้กับจิ้งจอกสยามเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ ๆ ทั้งสองทีมคงหวังว่ามันจะเกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีก ไม่ใช่ในแชมเปี้ยนชิพ

ส่วนในฤดูกาลหน้าก็เป็นอันว่าเบิร์นลี่ย์กับฮัลล์จะได้กลับขึ้นมาแก้มมือในพรีเมียร์ลีอีกครั้ง และคงต้องหวังว่าจะทำได้ดีกว่าครั้งก่อน ซึ่งทั้งคู่จบในอันดับ 19 และ 18 ตามลำดับ

โดยทีมอันดับ 14-16 ที่อยู่เหนือพวกเขาในตอนนั้นคือเลสเตอร์, นิวคาสเซิล, ซันเดอร์แลนด์ และแอสตัน วิลล่า และทีมบ๊วยของปีนั้นคือควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ซึ่งจบเพียงอันดับ 12 ในแชมเปี้ยนชิพปีนี้

ฤดูกาลที่ผ่านมาบอร์นมัธและวัตฟอร์ดที่ได้เลื่อนขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกในฐานะแชมป์และรองแชมป์ของแชมเปี้ยนชิพ สามารถเอาตัวรอดปลอดภัยไปได้แบบไม่ต้องลุ้นจนใจหายใจคว่ำ ปล่อยให้นอริชทีได้สิทธิ์ผ่านการเพลย์ออฟ เป็นน้องใหม่ที่ตกชั้นไปแค่ทีมเดียว

ส่วนฤดูกาลหน้าน้องใหม่ทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าแต่ละทีมจะเผชิญชะตากรรมอะไรบ้าง จะโดนซ่อมมากน้อยแค่ไหน อดใจไว้รออีก 3 เดือนข้างหน้าค่อยว่ากันอีกที

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook