สกู๊ป : "ปอล ป็อกบา" กับบทพิสูจน์ครั้งสำคัญในยูโร 2016

สกู๊ป : "ปอล ป็อกบา" กับบทพิสูจน์ครั้งสำคัญในยูโร 2016

สกู๊ป : "ปอล ป็อกบา" กับบทพิสูจน์ครั้งสำคัญในยูโร 2016
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บนวัยเพียง 23 ปี ปอล ป็อกบา กำลังแบกความหวังของคนทั้งชาติ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการนำ ฝรั่งเศส กลับมาคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ครั้งแรกในรอบ 13 ปี

นับตั้งแต่บอกลา เลอ อาฟร์ มาพัฒนาฝีเท้ากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบศพไม่สวยเมื่อช่วงซัมเมอร์ 2009 ฝีเท้าของ ป็อกบา รุดหน้าแบบก้าวกระโดด ทว่ากลับไม่เคยได้รับการเหลียวแลเท่าที่ควร

นั่นนำมาสู่การแตกหักไม่ยอมเจรจาต่อสัญญาฉบับใหม่กับ “ปีศาจแดง” ในปี 2012 พร้อมเก็บข้าวของออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปร่วมทัพยูเวนตุส หนึ่งในสโมสรที่แสดงความสนใจเขาตั้งแต่สมัยยังแบเบาะที่เลอ อาฟร์

โย โมริบา มารดาผู้ให้กำเนิดป็อกบา กล่าวถึงอาการเฉยชาของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด ในเวลานั้น ซึ่งทำให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนถึงกับหลั่งน้ำตาว่า

เฟอร์กูสันไม่ยอมให้โอกาสเขาลงเล่น มันเป็นบทลงโทษที่ร้ายกาจมาก”

“ช่วงเวลานั้นปอลโดดเดี่ยว เขารู้สึกเหมือนตัวคนเดียว เขาเคยแอบร้องไห้ในออฟฟิศของเฟอร์กูสันด้วย มันเป็นน้ำตาแห่งความอดทนอดกลั้นที่รินไหลออกมา แน่นอนว่ามันเกี่ยวกับวิธีการที่เฟอร์กูสันปฏิบัติต่อเขา”

เฟอร์กูสันพยายามรั้งปอลเอาไว้กับทีมต่อนะ เขาเดินทางมาที่บ้านของเราตามลำพัง ตอนนั้นเราอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา และเราตัดสินใจว่าเขาจะไม่เซ็นสัญญาฉบับใหม่”

นั่นคือการตัดสินใจครั้งสำคัญของมิดฟิลด์ดาวรุ่งวัยเพียง 19 ปี ซึ่งแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการย้ายมายูเวนตุส จะเป็นเส้นทางที่สวยงามดั่งที่ตั้งใจไว้ หรือเต็มไปด้วยขวากหนามยิ่งกว่าเก่า

อย่างไรก็ตาม ชีวิตที่ยูเวนตุส สเตเดี้ยม กลับรุ่งโรจน์ชนิดที่เอาช้างมาฉุดก็หยุดไม่อยู่ เมื่อ ป็อกบา สถาปนาตัวเองเป็นกำลังสำคัญของ “ม้าลายตูริน” ร่วมกันคว้าแชมป์มาครองได้อย่างมากมาย จนได้รับความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป และคาดว่าจะกลายเป็นเจ้าของค่าตัวสถิติโลกคนใหม่

กระนั้นแม้สื่อจะพยายามเสนอข่าวเชื่อมโยงเกี่ยวกับการย้ายหนียูเวนตุส ทว่า ป็อกบา กลับไม่เคยสนใจ และยืนยันว่าการอำลาถิ่นยูเวนตุส สเตเดี้ยม ไม่เคยอยู่ในหัวแม้แต่น้อย

ยูเวนตุสช่วยให้ผมประสบความสำเร็จมากมาย และกลายเป็นนักเตะระดับโลก ผมไม่มีทางลืมสิ่งที่พวกเขามอบให้ผมได้หรอก มันไม่มีทางเลยที่ผมจะรีบร้อนย้ายออกจากสโมสรแห่งนี้”

“ผมอาจเคยคิดย้ายทีม แต่แน่นอนว่ามันจะไม่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ ผมมีความสุขมากที่นี่ ทุกเรื่องราวที่พวกคุณได้ยินล้วนเป็นเรื่องที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมา มันไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน”

แม้ได้รับการยกย่องอย่างสูงในฐานะกองกลางที่ครบเครื่องที่สุด ณ เวลานี้ ทว่า ป็อกบา กลับไม่หลงระเริงไปกลับแสงสี อีกทั้งยังยืนยันว่าต้องพัฒนาตัวเองอีกมาก เพราะตั้งเป้าก้าวขึ้นไปเป็นมิดฟิลด์ที่เก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังโลก

“ผมอยากครองบัลลงดอร์ มันเป็นความฝันของผมเสมอมา แต่ผมไม่ได้บอกว่าจะได้มันมาครอง มันเป็นเป้าหมายที่ผมต้องการไปให้ถึง”

“บางคนอาจมองว่าผมบ้า แต่ผมต้องพัฒนามากกว่านี้หากจะไปถึงจุดนั้น แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็เหมือนกัน นั่นเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ผมวางไว้”

แน่นอนว่าคำพูดดังกล่าวของ ป็อกบา ไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใด เพราะแม้เจ้าตัวจะได้รับการยกย่องอย่างสูงที่ยูเวนตุส ทว่าบนความครบเครื่องที่มีนั้น มิดฟิลด์วัย 23 ปี ยังไม่ได้เผยจุดเด่นที่แท้จริงออกมามากมายนัก

ป็อกบาอาจมีรูปร่างที่สูงใหญ่แข็งแรงสมส่วน แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้เจ้าตัวโหม่งทำประตูได้บ่อยๆ หรือเบียดปะทะแย่งบอลจากคู่แข่งได้มากเหมือนมิดฟิลด์ตัวรับรายอื่น รวมไปถึงความสามารถในการสร้างสรรค์เกมที่ยังต้องขัดเกลาอีกเยอะ

แต่ถามว่า ณ เวลานี้ ป็อกบา อยู่ในจุดที่ต้องถูกต่อการก้าวขึ้นไปเป็นซูเปอร์สตาร์ดวงใหม่ของวงการลูกหนังหรือไม่ ข้อนี้ไม่มีใครเถียง แถมยังอยู่ในจุดที่ถูกต้องมากเสียด้วย นั่นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ ป็อกบา จะตกเป็นสนใจของผู้คนในทัวร์นาเมนต์สำคัญอย่างยูโร 2016 เวทีที่คนทั้งโลกต้องการได้เห็นพัฒนาการที่ก้าวสู่ระดับโลกของดาวเตะวัย 23 ปี

อย่างไรก็ตาม ตลอด 2 เกมที่ผ่านมา ป็อกบา ได้รู้ซึ้งอย่างแท้จริงแล้วว่าเขายังเป็นเพียงเด็กน้อยบนทุ่งหญ้าแห่งความฝัน และไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าสุดยอดมิดฟิลด์เฉกเช่นตำนานลูกหนังที่เคยเอาเป็นแบบอย่าง

ตลอด 2 เกมที่ผ่านมา ป็อกบา แทบไร้บทบาทในเกมการเล่นของฝรั่งเศส นั่นทำให้ ดิดิเยร์ เดส์ช็องป์ส ไม่มีทางเลือก จำต้องดร็อปไว้ข้างสนามในแมตช์เบียดชนะแอลเบเนีย 2-0 และไม่ชัดเจนด้วยว่าจะมีที่ว่างในเกมกับสวิตเซอร์แลนด์ หรือไม่

แน่นอนว่า เดส์ช็องป์ส เข้าใจเรื่องดังกล่าวดี และจะเป็นคนที่แบกรับคำวิจารณ์ไว้เต็มสองรูหู หากท้ายที่สุดทัวร์นาเมนต์ยูโร 2016 ไม่ได้เป็นเวทีแจ้งเกิดพระเจ้าองค์ใหม่ของฝรั่งเศส อย่าง ป็อกบา

บางทีการดร็อป ป็อกบา ไว้ข้างสนาม อาจเป็นเพียงวิธีลดความคาดหวังจากแฟนบอลที่มีในตัวมิดฟิลด์ดาวรุ่งรายนี้ เช่นเดียวกับการลดความกดดันให้หมดไปจากตัวนักเตะเอง

ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าตลอดเวลาที่ร่วมงานกันมา 4 ปี เดส์ช็องป์ส จะไม่รู้วิธีใช้งาน ป็อกบา เหมือนที่เหล่านักวิจารณ์ฝีปากดีออกมาคอมเมนต์ ดีไม่ดี “เดเด้” นี่แหละจะเป็นคนที่รู้จักเด็กคนนี้ดีกว่าใครทั้งหมด

อาจใช่ที่ ป็อกบา ยังห่างไกลจากการเป็นนักเตะที่เพอร์เฟ็คท์อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ หรือ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ แต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธเช่นกันว่าตอนนี้เขาคือหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลก

จับตามองยาวๆ ไปที่รอบน็อกเอาท์ให้ดี ผมเชื่อว่าคลาสนักเตะอย่าง ป็อกบา จะโดดเด่นเกินหน้าเกินตาใครในช่วงเวลาที่ ฝรั่งเศส ต้องการผู้เปลี่ยนเกมในสนาม

ยามที่คู่ต่อกรในแดนกลางสมน้ำสมเนื้อสำหรับตัวเขา ผมเชื่อว่าเวลานั้นคือช่วงที่ ป็อกบา จะงัดพรสวรรค์ที่มีทั้งหมดออกมาโชว์ให้ชาวโลกตื่นตะลึง

…เพราะยูโร 2016 คือเวทีที่สร้างมาเพื่อ ป็อกบา และฝรั่งเศส

ผมเชื่อมาตลอด และจะเชื่อเช่นนั้นต่อไป

จูลส์ริเม่ต์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook