"เกมระดับ 5 ดาว"

"เกมระดับ 5 ดาว"

"เกมระดับ 5 ดาว"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จบลงไปด้วยความลุ้นระทึกพร้อมสุดแสนจะดราม่า ไม่ว่าเกมรับอันหละหลวมจะก่อความผิดพลาดมากขนาดไหนทว่าในสายตาของผู้พบเห็นแล้ว แมตช์ระหว่าง ฮังการี และ โปรตุเกส

นี่คือเกมระดับห้าดาว!

มันเป็นเกมที่ครบทุกอรรถรส และ รสชาติ นี่คือเกมระดับคุณภาพชนิดเข้าขั้นแมตช์ ออฟ เดอะ เยียร์ หรืออาจติดหนึ่งในทำเนียบเกมสุดสะเด่าของยูโรในรอบสองครั้งหลังสุดได้เลย

หลังจากที่โดนพายุมหึมาถาโถมเข้าใส่ตลอดสัปดาห์ แล้วเมฆหมอกอันแสนหม่นหมองก็ล่องลอยผ่านพ้นเนิ่นฟ้าแคมป์ฝอยทองแล้วเรียบร้อย ภารกิจ “Mission Impossible”

ที่ทำท่าว่าจะเป็นไปไม่ได้ บัดนี้ แฟร์นานโด ซานโต๊ส และ ลูกทีมทำสิ่งที่สุดเหลือเชื่อได้สำเร็จพร้อมกับกรุยทางสู่รอบถัดไป

“ผมคงไม่มีอะไรจะพูดนอกจากบอกว่านี่คือเกมชีวิตแห่ง คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เขาคือผู้ชนะ และ เป็นจอมถล่มประตูเสมอ ฟอร์มในวันนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า นิยามของคำว่า คริสติอาโน่ โรนัลโด้ นั้นเป็นเช่นไร”

ซานโต๊สกล่าวด้วยน้ำเสียงอันแสนปลื้มปิติหลังเกมทั้งๆที่ช่วงก่อนเกมเริ่มเพียงไม่กี่ชั่วโมงเศษเจ้าตัวยังถูกตราหน้าว่าเป็นคนร้ายแท้ๆจากการเฟี้ยงไมค์นักข่าวลงแม่น้ำทะเลสาบ 

ทว่าให้หลังจากนั้น “CR7” สามารถพลิกผันชะตาชีวิต จาก “ซาตาน” ที่แฟนบอลสุดรังเกียจ กลับคืนสู่สภาพ “พระเอกของงาน” ได้ในพริบตา!

ตลอดทั้งเกมผมเชื่อครับว่า กว่าหนึ่งล้านคนที่เป็นสักขีพยานในเกมค่ำคืนวันพุธที่ผ่านมาย่อมสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาลที่มีอยู่ในตัวสตาร์ของเรอัล มาดริด ผู้นี้

ช็อตที่เจ้าตัวหัวฟัดหัวเหวี่ยง เมื่อครั้งที่ทีมพลาดท่าโดนยิง 1-2 ทำเอาเพื่อนร่วมทีมถึงกับผวาดผวา 

อย่างไรก็ดีเป็นอีกครั้งที่ โรนัลโด้ ตอกหน้าบรรดานักวิจารณ์จนเงิบหน้าหงาย ในวันที่ความกดดันถาโถมเข้าใส่ก็เป็นอีกหนที่เจ้าตัวระเบิดฟอร์มได้ถูกที่ถูกเวลา

ลูกตอกส้นประตูไล่เจ๊า 2-2 มันช่างงามหยด และ สุดเพอร์เฟค แม้บางจังหวะเจ้าตัวอาจดูมุทะลุ และ มุ่งมั่นมากเกินไปบ้างจนบ้างครั้งนำมาซึ่งการเสียจังหวะ

ทว่าจากฟอร์มการเล่นโดยรวมเช่นเดียวกับแพสชั่นก็ทำให้ทัพฝอยทองสามารถโกงความตายคัมแบ็คกลับมาได้

ผลพวงจากการฉายฟอร์มเยี่ยมพร้อมมีชื่อบนสกอร์บอร์ดในเกมนี้ทำให้ท้ายที่สุด แข้งวัย 31 ปีทำประวัติศาสตร์ที่ชั่วชีวิตพ่อค้าแข้งอาชีพคนหนึ่งยากที่จะลบล้างด้วยการซัลโวในยูโรได้ 4 ครั้งติดต่อกัน

เช่นเดียวกับทำสถิติเป็นนักเตะที่ลงสนามในยูโรรอบสุดท้ายได้มากที่สุด 17 นัด

สุดท้ายแล้ว "โรนัลโด้" ก็ยังเป็น "โรนัลโด้" ในวันที่อุปสรรคถาโถมก็เป็นเจ้าตัวนั่นแหละที่นำพาประเทศชาติสู่ "แสงสว่างปลายอุโมงค์"

อย่างไรก็ตามเกมนัดนี้ไม่เพียงแต่โปรตุเกสครับที่เล่นสุดเร้าใจ ทางฮังการีเองก็ทำให้เราหลายคนต้องอ้าปากค้างเช่นเดียวกัน

ในอดีตนี่คือชาติที่ครองความเกรียงไกรในแวดวงลูกหนัง ช่วงยุค 1950 พวกเขาเคยเป็น "รองแชมป์โลก" ถึงสองหน ทว่าราวกับโดนมนตราแห่งคำสาป นับตั้งแต่ปี 1976 เป็นต้น

มาจากวันนั้นสู่วันนี้เป็นเวลากว่า 32 ปี

พวกเขาไม่เคยทะลุเข้าสู่รอบสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ใหญ่อีกเลย!

กับปี 2016 นี้หลังรอคอยมาเนิ่นนาน อดีตชนชาติยุคบุกเบิกฟุตบอลได้กลับมาสู่สังเวียนใหญ่อีกครั้ง แม้ในรอบคัดเลือกทุกอย่างจะเป็นไปอย่างทุลักทุเลทว่าสุดท้ายด้วยแท็คติกที่ลุ้นกันนัดต่อนัด

ของ แบรนด์ ชต็อร์ค รวมถึงโชคชะตาก็นำพาพวกเขาจบอันดับ 3 ก่อนจะผ่านนอร์เวย์ในรอบเพลย์ออฟได้แบบฉิวเฉียด

นิยายเลสเตอร์อาจทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจ แต่การทะลุเข้าสู่รอบสุดท้ายหนนี้ของฮังการีก็ทำให้หลายฝ่ายต้องยักคิ้ว อาจจะใช่ที่พวกเขานั้นสุดเฮง

หากไม่มีการเพิ่มจำนวนจาก 16 เป็น 24 ทีมบางที ศึกทัวร์นาเมนต์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ก็คงไม่ปรากฏชื่อของ "ฮังการี" อยู่

แต่แล้วท้ายที่สุดทัพ “แม็กยาร์” กลับเริ่มต้นสงครามรบราวกับความฝัน ชัยชนะ 2-1 ต่อออสเตรียในเกมแรกปลุกพลังแห่งความเชื่อให้ฮึกเหิม

ก่อนจะนำมาซึ่งผลเสมอพร้อมสไตล์การเล่นโต้กลับอันสุดเร้าใจในอีกสองเกมต่อมา

จากเดิมที่ถูกมองว่าแค่ตัวประกอบ จากเดิมที่ถูกมองว่า เป็นแค่ชาตินอกสายตา บัดนี้ขุนพลฮังการีชุดนี้กลับสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มพร้อมกับทะลุเข้าสู่รอบต่อไปได้อย่างยิ่งใหญ่

ไม่ต้องมองสถิติให้มาก ใช้เพียงแค่ใจล้วนๆ ตามความรู้สึกของผม ..นี่คือทีม “ม้ามืด” ประจำทัวร์นาเมนต์นี้อย่างแท้จริง !

ยิ่งกว่าเวลส์ที่ว่ากันว่า แกเร็ธ เบล นั้นแบกทีม, ยิ่งกว่าโครแอตที่คว่ำสเปนได้อย่างเซอร์ไพร์ส ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนก่อนใครกันครับที่จะคาดคิดว่า

ทีมที่บ่อนทุกสำนักยกให้เป็น “เต็งบ๊วย” ในการคว้าแชมป์ปีนี้จะทะลุเข้าสู่รอบต่อไปได้

สิ้นสุดเกมรอบแรกนี้ ทั้ง โปรตุเกส และ ฮังการี จะแยกย้ายกันไปคนละทิศ - คนละทาง ทีมฝอยทองรอดพ้นจากสายล่างที่ต้องฟัดทีมอย่างอังกฤษ, ฝรั่งเศส

โดยจะต้องดวลกับพลพรรคโครแอต ส่วนฮังการีมีคิวรับศึกหนักอย่างเบลเยี่ยม

มองจากความเป็นไปได้ มีโอกาสสูงครับที่ทั้งสองจะกอดคอกันปิ๋วสูง ทว่าขึ้นชื่อว่าลูกกลมกลมในทางปฏิบัติแล้วย่อมไม่มีอะไรแน่นอนบนโลกลูกหนัง

ในเมื่อพวกเขายังทำเหล่าคนที่เคยสบประมาทเงิบกันทั้งบางได้ แล้วทำไมกับเส้นทางที่เหลือจะไม่มีหวัง ต่อให้แสงไฟข้างหน้าจะริบหรี่แค่ไหน ทุกอย่างก็มีสิทธิ์เกิด

บางทีอาจเป็นอย่างที่ แบรนด์ สต็อท นายใหญ่ทัพแม็กยาร์ว่าเอาไว้หลังเกมครับ

ขอบคุณที่สร้างสรรค์เกมนี้ให้มีคุณภาพนะฝอยทอง หากโชควาสนานำพาไป

"ไว้เราไปฟัดกันอีกทีในรอบรองฯ"!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook