เบลเยียมแชมป์ยูโร 2016?

หลังจากเบลเยียมเอาชนะฮังการีไปอย่างสวยงาม นัดเตะ,กุนซือ,แฟนบอล ล้วนคิดและมองเห็นภาพรำไรในการผ่านเข้าไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศยูโร 2016

เป็นไปได้ครับ และไม่ใช่ว่าเบลเยียมจะฝันลมๆแล้งๆ เหตุผลสำคัญที่สุดก็คือบรรดาทีมเต็งทั้งหลายลงไปกองอยู่สายเดียวกันต้องห้ำหั่นกันเองจนเหลือเพียงทีมเดียวที่เข้าสู่นัดสุดท้ายคือการชิงเจ้ายุโรป

เส้นทางของเบลเยียม ดูดีและมีความเป็นไปได้มาก เวลส์และโปแลนด์หรือโปรตุเกสคือทีมที่ขวางทางเบลเยียมอยู่ในตอนนี้ ซึ่งดูแล้วไม่ใช่สิ่งที่เกินเลยที่จะคาดหวัง

ออกสตาร์ท

เกมแรกในยูโรครั้งนี้ของเบลเยียม เปิดตัวด้วยการพ่ายให้กับอิตาลี ซึ่งเป็นเกมที่ลูกทีมของ มาร์ค วิลม็อตส์ สร้างความผิดหวังให้กับทุกคน

เบลเยียมเป็นทีมที่จะทำผลงานได้ดีในยูโร นั่นคือเบื้องต้นที่ทุกคนคาดหวังเอาไว้ พอเปิดหัวด้วยเกมที่พ่ายแพ้ อาการส่ายหน้าเกิดขึ้นทันทีพร้อมกับความคิดว่า สงสัยจะไม่รอด

นอกจากความพ่ายแพ้แล้ว ยังมีความแตกแยกทางความคิดเกิดขึ้นภายในทีม กุนซือกับนักเตะเห็นต่างกัน ทุ่มเถียงกัน โชคดีที่ทุกคนต่างเป็นมืออาชีพมากพอ

มีความเห็นต่างในเรื่องของวิธีการเล่น ในเรื่องของการเลือกตัวผู้เล่นลงสนาม พูดจากันได้เต็มที่ เสร็จแล้วเลิกกันไปร่วมแรงร่วมใจกันใหม่ทำงานที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด

ยกระดับการเล่น

หลังจากเปิดหัวด้วยความผิดหวัง วิลม็อตส์ และลุกทีมพยายามเรียกศรัทธากลับคืนมาสู่ทีม และต้องการตอบคำถามที่เกิดขึ้นว่าเบลเยียมทีมแตกไปแล้วจริงหรือไม่

เบลเยียมยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมาด้วยการถล่มไอร์แลนด์ไป 3 ประตู จากนั้นตามด้วยการเฉือนชนะสวีเดน 1-0 เข้าไปเจอกับฮังการีในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ฮังการีคือด่านที่ขวางกั้นในรอบนี้ เดากันไปอีกว่าน่าจะเป็นการสู้กันที่สูสี ที่ไหนได้ เบลเยียมเอาชนะไปแบบสบายๆถึง 4 ประตู

แน่นอนว่านอกจากรักษาระดับการเล่นให้ต่อเนื่องเข้าไว้ กัปตัน เอด็อง อาซาร์ และลูกทีม สามารถที่จะยกระดับการเล่นให้สูงขึ้นไปอีก

ถึงขนาดที่ อาซาร์ กล้าพูดเลยว่าฟอร์มที่เบลเยียมแสดงออกมานั้นแทบจะไม่ต้องปรับปรุงแก้ไขตรงไหน ทุกอย่างออกมาเกือบจะสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว

ไม่ว่ากันครับกับความรู้สึกของแต่ละคน ทว่าฟอร์มขนาดนี้ สกอร์ขนาดนี้ คงต้องมีดีไม่น้อย เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใจเลยที่นักเตะเบลเยียมจะมองไกลไปถึงนัดสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์

รอบแปดทีมสุดท้ายเจอกับเวลส์ คงไม่ต้องวิจารณ์อะไรกันในพื้นที่ตรงนี้ ปล่อยให้ทั้ง 2 ทีมฟาดฟันกันไป ทว่าถ้าผ่านเวลส์ได้ ในรอบรองชนะเลิศเบลเยียมจะเจอกับผู้ชนะระหว่างโปแลนด์กับโปรตุเกส

กระดูกสันหลังของชาติ

ธิโบว์ กูร์กตัวส์ : ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ยิงผ่านมือ กูร์กตัวส์ ยาก เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับหลังบ้านได้เป็นอย่างดี หากมีการปกป้องที่ครอบคุลมมากพอจากแนวรับยิ่งมั่นใจได้มากขึ้น

เกมกับฮังการีเก็บคลีนชีตได้สำเร็จอีกครั้งหลังจากเสียประตูให้อิตาลีในนัดแรก กูร์กตัวส์ ก็เนื้อตัวสะอาดหมดจดมาตลอด

งานหนักเบาแค่ไหนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เก็บคลีนชีตได้ นั่นหมายถึงความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น

โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ : ขยับพื้นที่ขึ้นมาอยู่กับแนวรับของทีม หลังจาก แวงซ็องต์ กอมปานี บาดเจ็บ สร้างความหวั่นไหวให้กับทีมไม่น้อย

หลังจากเสียรูปมวยในเกมแรก เกมรับของเบลเยียมเริ่มขยับฟอร์มการเล่นได้เหนียวแน่นมากขึ้น โธมัส แฟร์มาเล่น อาจจะได้ประสบการณ์และผลงานออกมาดี

แต่ถ้าทีมต้องการตัวบี้ ตัวชน ที่ถึงอกถึงใจต้องมอบความไว้ใจให้กับ อัลเดอร์ไวเรลด์ ล่าสุดเพิ่งโหม่งได้หนึ่งประตูจากเกมเจอฮังการี ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

เควิน เดอ บรอยน์ : มิดฟิลด์คนนี้คือทุกอย่างของเบลเยียม เกมรับก็สามารถช่วยงานได้ เกมรุกอันเป็นงานหลัดแจกจ่ายบอลได้ทุกรูปแบบสมความคาดหวัง

เดอ บรอยน์ เป็นคนหนึ่งของเบลเยียมที่มั่นใจว่าทีมน่าจะเข้าไปถึงนัดชิงชนะเลิศหากยังคงรักษามาตรฐานแบบนี้เอาไว้ได้

ปัญหาอย่างหนึ่งของ เดอ บรอยน์ ในตอนนี้คือการปิดสกอร์ โอกาสส่องประตูคู่แข่งมีเยอะมาก ค่าเฉลี่ยแต่ละนัดเกือบ 5 ครั้ง ถือว่าสูงมาก

ถ้าหาก เดอ บรอยน์ เปลี่ยนโอกาสดังกล่าวให้เป็นสกอร์ได้บ้างจะสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

เอด็อง อาซาร์ : บทบาทในยูโร 2016 ไม่ธรรมดา พกตำแหน่งกัปตันทีมลงสนามไปด้วยทุกครั้งหลังจากการขาดหายไปของ แวงซ็องต์ กอมปานี

ความสำคัญของอาซาร์ที่มีต่อทีมสังเกตได้ง่ายๆ ในจังหวะที่เพื่อนร่วมทีมรู้สึกตื้อๆตันๆคิดอะไรไม่ออก ก็จะผ่านบอลให้กับ อาซาร์ รู้อยู่เต็มอกว่าเดี๋ยวกัปตันทีมตัวเล็กจะเปลี่ยนเป็นโอกาสหรือเอาตัวรอดได้

วันไหนที่สามารถงัดฟอร์มอันจัดจ้านออกมาได้ รับประกันว่าวันนั้นสนุกสนานเต็มที่กับลีลาของกัปตันเบลเยียมทีมคนนี้

หลายเรื่องเป็นใจให้กับเบลเยียมกับเป้าหมายไปให้ถึงนัดชิงชนะเลิศ ทว่าหลักๆเลยก็คือประเด็นที่ทราบกันบรรดาทีมเต็งต้องเจอกันเองทั้งหมด กว่าจะหลงเหลือถึงนัดชิงได้ฆ่ากันเองจนเลือดสาด

ในขณะที่เส้นทางของเบลเยียม มีความราบรื่นไม่น้อย หากยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานของฟอร์มการเล่น เบลเยียมกับการเข้าชิงหรือถึงขั้นแชมป์ยูโร 2016 ไม่ใช่เรื่องเกินเลยจริงๆ

คอลัมน์ ทดเจ็บ3นาที
by ดามัน