แมตช์ที่ยากที่สุดใน “ยูโร 2016”

แมตช์ที่ยากที่สุดใน “ยูโร 2016”

แมตช์ที่ยากที่สุดใน “ยูโร 2016”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากจะให้เลือกแมตช์ที่ “สูสี” ที่สุดตลอด 51 นัด “ยูโร 2016” โดยมองข้ามไปรวมทุกออฟชั่นที่จะเกิดคู่ชิงชนะเลิศเข้าไปด้วย ผมรับรองได้เลยว่า เยอรมัน - ฝรั่งเศส ในนัดตัดเชือกวันนี้ ยังไงก็เป็นเกมอันดับ 1 ในใจคุณ

ครับ “แชมป์โลก 2014” ที่ปราบอิตาลีมาในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ปะทะเจ้าภาพ ฝรั่งเศส ที่มีผลงานในทัวร์นาเมนท์ระดับนานาชาติในบ้านเป็นเลิศ

ฉะนั้น อย่าว่าแต่แฟนบอลเลยครับ, เกจิ หรือกระทั่งบริษัทรับพนันถูกกฎหมายเองก็ “ปวดเฮด” รักพี่เสียดายน้อง

ออกราคามาแทบเสียไม่ได้ เช่น BetVictor ให้ฝรั่งเศส ชนะ 19-10 (แทง 10 ได้ 19 ไม่รวมทุน) ขณะที่ให้เยอรมันไว้ดีกว่าแค่นิดเดียว 9-5 (แทง 5 จ่าย 9 ไม่รวมทุน - เทียบเท่ากับ 18-10 ซึ่งใกล้เคียงมาก ๆ กับราคาของฝรั่งเศส)

พูดได้เลยครับว่า นี่น่าจะเป็น “ครั้งแรก” และครั้งสุดท้ายที่ “ราคาต่อรอง” ออกมาประมาณนี้ในทัวร์นาเมนท์นี้ที่ไม่ว่าใครเข้าชิงชนะเลิศกับผู้ชนะระหว่าง เวลส์ กับโปรตุเกส (ที่คงทราบผลกันแล้ว) ก็คงจะเป็นต่ออยู่พอประมาณราวๆ ครึ่งช่วงตัว

ทั้งนี้ มันน่าคิดตรงที่ ฝรั่งเศสในฐานะเจ้าถิ่น และจะได้ตัวผู้เล่นกลับมาครบครันรวมถึง เอนโกโล่ ก็องเต้ กับอดิล รามี่ ซึ่งติดแบนในนัดถล่ม ไอซ์แลนด 5-2 “พร้อมกว่า” เยอรมันทุกด้าน เฉพาะอย่างยิ่งบรรยากาศกับเสียงเชียร์

ขณะที่โยอาคิม เลิฟ จะไม่สามารถใช้งาน แซมี เคห์ดิร่า และมาริโอ โกเมซ ที่เจ็บได้รวมถึง บาสเตียน ชไวสไตเกอร์ ที่ลงมาแทนเคห์ดิร่า ตั้งแต่ต้นเกมกับอิตาลีก็เจ็บรวมกับ แมตส์ ฮุมเมิ่ล ติดแบน

ฉะนั้น “ตัวหลัก” 3 ตำแหน่ง 4 คนของเยอรมันจะชวดลงสนามนัดนี้ และจะมีงาน “ปรับแก้” ให้เลิฟได้โชว์กึ๋นให้ประจักษ์อีกครั้ง

ผมเขียนแบบนี้เพราะ เยอรมัน มีความน่าสนใจพิเศษมาก ๆ ในบอลทัวร์นาเมนท์ และการเตรียมตัวที่ไม่เหมือนชาติอื่น

เล็ก ๆ น้อย ๆ ถูกรวมผสมผสานมาต่อยอดเต็มไปหมด เช่น การเลือกใช้นักเตะตั้งแต่รอบคัดเลือกที่ได้ทดลองผสมตัวรองกับ “ตัวหลัก” และมีการลองระบบการเล่น

จนน่าจะกล่าวได้ว่า เยอรมัน เป็นทีมเดียวที่กล้าคิด และกล้าเปลี่ยนระบบการเล่น “กลางทาง” จาก 4-2-3-1 เป็น 3-5-2 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

เพราะหากเป็นทีมอื่นคง “ไม่กล้า” แม้แต่จะคิด ทว่านี่คือ เยอรมันที่เป็นบอลระบบ และแกร่งทั่วแผ่น

การปรับนักเตะ และระบบการเล่นจึงถือว่าเป็นไปได้ ภายในกรอบความชอบธรรมที่ทีมได้เคยถูกทดสอบมาแล้ว หาใช่จู่ๆ วันดีคืนดีก็จะมาเล่นแบบนั้น แบบนี้

เช่น เอมเร่ ชาน ที่น่าจะได้สิทธิ์แทน ชไวนี่ และเคห์ดิร่า ก็เคยเล่นแดนกลางกับ โทนี่ โครส มาแล้วเช่นกันในทีมชาติ

หรือแดนหน้าจะใช้เหมือนนัดแรกที่เอา มาริโอ เกิร์ตเซ่ ลงไป หรือจะใช้โธมัส มุลเลอร์ ดันมาเป็น “หน้าเป้า” ก็ไม่ได้มีความผิดปกติ หรือน่าตกใจแต่อย่างใด

ทั้งนี้ หากจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ๆ สุดๆ ก็เห็นทีจะเป็น จูเลียน แดร็กซ์เลอร์ โดนดร็อปอีก ทว่าคงเป็นไปไม่ได้ในเกมที่เยอรมันน่าจะกลับมายืน 4-2-3-1 หรือ “แบ็คโฟร์” อีกครั้ง

เพราะฝรั่งเศสก็เล่น “แบ็คโฟร์” ไม่ใช่ “แบ็ค 3” เหมือนอิตาลีในแมตช์ที่น่าสนใจว่า ทีมน้ำหอมของ ดิดิเยร์ เดอชองป์ “พีค” ไปแล้วหรือยังในแมตช์ปราบไอซ์แลนด์ยับ

เกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายเราได้เห็นเกมรุกทุกรูปแบบไม่ว่าจะกลางอากาศ, ด้านข้าง, เจาะทะลุตรงกลาง, ฟรีคิก และตั้งเตะ เป็นประตูทั้งหมด

พวกเค้า จะ “ต่อยอด” ผลงานมาที่แมตช์นี้กับเยอรมันที่ “คุณภาพ” เหนือกว่าไอซ์แลนด์ แบบไม่ได้ “ดูถูก” ได้หรือไม่?

มากกว่านั้นที่แฟนๆ เจ้าถิ่นต้อง “ยอมรับ” และร่วม “ซึมซับ” กับผู้เล่นให้ได้พร้อม ๆ กัน คือ การต้องเป็นทีมรองโดน “คอนโทรล” ด้วยการครองบอลมากกว่าเป็นครั้งแรก

ครับ เลิฟ ชอบจะครองบอล และคอนโทรลเกมอันมีผลให้ทัวร์นาเมนท์นี้ เยอรมันครองบอลได้มากกว่าใคร หรือจะว่าไปแล้ว มากกว่า “พี่เต้ย” สเปน แชมป์ 2 สมัยล่าสุดเสียอีก

ขณะที่ เดอชองป์ ไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของระบบฟุตบอลที่ต้องครองบอล แต่เป็นบอลคิดเร็ว ทำเร็ว มากกว่า

เมื่อเป็นดังนี้ อองตวน กรีซมันน์ จะมีโอกาสไม่มาก ไม่ต่างจาก โอลิวิเยร์ ชิรูด์ หรือดิมิทรี้ ปาเยต เนื่องจาก เยอรมันจะ “ลดทอน” จุดแข็งคู่แข่งเหมือนที่ อิตาลี แทบไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้เลย

เยอรมัน ยังเป็นทีมเดียวที่ยังไม่เสียประตูจาก “Open Play” ตลอด 5 นัดที่ผ่านมาที่เสียแค่ประตูเดียวจากจุดโทษในเวลาที่ ฝรั่งเศสเพิ่งจะเสียสถิติดังกล่าวไปในนัดที่แล้ว แต่เสียไป 4 ประตูรวม

ส่วนตัว หากผมไม่ได้เห็นความสามารถในการปรับตัวของเยอรมันในแมตช์กับอิตาลี ผมก็คงตัดสินใจลำบากที่สุดในการเลือก “ผู้ชนะ” เกมนี้

แต่พอเห็นว่า เยอรมัน เตรียมตัว และพร้อมจริงๆ จะมาคว้าแชมป์ประกอบกับสถิติที่ขี่ฝรั่งเศสในบอลถ้วยเมเจอร์

ผมจึงลำบากใจไม่มากจะ “ฟันธง” ให้เยอรมันผ่านเข้าชิงชนะเลิศแบบสนุกครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook