สกู๊ป : "เอาใจช่วยจิ้งจอก" by ลูกแม่กิ่ง

สกู๊ป : "เอาใจช่วยจิ้งจอก" by ลูกแม่กิ่ง

สกู๊ป : "เอาใจช่วยจิ้งจอก" by ลูกแม่กิ่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในขณะที่ เลสเตอร์ ซิตี้ น่าจะมีโอกาสเสีย เอ็นโกโล ก็องเต้ ไปให้กับ เชลซี ภายในเร็วๆนี้ การออกมาประกาศยืนยันของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ว่า ริยาด มาห์เรซ หนึ่งในซูเปอร์สตาร์ของทีมจะไม่ย้ายออกจากถิ่น คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ก็นับว่าเป็นข่าวดีที่น่าชื่นใจ

ถ้าเป็นจริง อย่างน้อยเลสเตอร์ ก็รักษาแกนหลักของทีมเอาไว้ได้เกือบครบ ไม่ว่าจะเป็น มาห์เรซ, เจมี่ วาร์ดี้ และอาจจะรวมถึงแดนนี่ ดริงก์วอเตอร์

นับว่าไม่เลวนักสำหรับทีมที่ถูกจับตามองว่าจะ “แตก” เมื่อไหร่ และน่าจะทำให้ เลสเตอร์ มีกำลังใจที่ดีมากขึ้นสำหรับการสู้ศึกในฤดูกาลหน้า ที่ยังมีงานมหาหินรอคอยพวกเขาอยู่อีกมาก

รวมถึง เคลาดิโอ รานิเอรี่ ที่ยังดูผ่อนคลายเหมือนเก่า โดยเฉพาะเมื่อจับจากสุ้มเสียงที่เปิดเผยต่อ เลสเตอร์ เมอร์คิวเรียล สื่อท้องถิ่นว่ายังมั่นใจว่าสตาร์ชาวแอลจีเรียน จะไม่ย้ายออกจากทีมอย่างแน่นอน

ความจริงในรายของ มาห์เรซ แม้รานิเอรี่ จะออกมากล่าวเช่นนั้น แต่สิ่งที่ทำให้ไม่มีข่าวการย้ายทีมเกิดขึ้นนั้นน่าจะมาจากการที่บรรดาทีมใหญ่ซึ่งควรจะเป็น “สเต็ปขั้นต่อไป” ของ มาห์เรซ ไม่มีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้

มองจาก 3 ทีมที่เคยมีข่าว ไม่ว่าจะกับบาร์เซโลน่า, ปารีส แซงต์-แชร์แมง และอาร์เซนอล โอกาสที่ 1 ใน 3 ทีมนี้จะเคลื่อนไหวในช่วงปิดฤดูกาลนี้มีไม่มากนัก

เพียงแต่หากทีมเหล่านี้ หรือทีมในระดับใกล้เคียงกันเคลื่อนไหว ถึงจุดนั้นจะเป็นจุดวัดใจอีกครั้งว่า มาห์เรซ จะยัง “ภักดี” ต่อเลสเตอร์ เหมือนอย่างที่ รานิเอรี่ กล่าวชื่นชมลูกน้องหรือไม่

แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น สิ่งที่กุนซือชาวอิตาเลียนทำได้ดีที่สุดคือการเตรียมความพร้อมของลูกทีมให้ดีที่สุด ซึ่งเวลานี้พวกเขาไม่ได้เดินทางมาเก็บตัวที่เมืองไทย แต่ไปเก็บตัวอยู่อย่างสงบอยู่ที่ สเตแกร์สบัค ในเมืองกราซ ประเทศออสเตรีย

ก่อนจะเดินทางกลับมาอังกฤษ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้เพื่ออุ่นเครื่องนัดแรกกับ อ๊อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ในคืนวันอังคาร และเตรียมลุยศึก อินเตอร์เนชันนอล แชมเปี้ยนส์ คัพ กับ กลาสโกว์ เซลติก, เปแอสเช และบาร์เซโลน่า

โดยส่วนตัวแล้ว เลสเตอร์ เป็นทีมที่ยังน่าจับตาและน่าให้กำลังใจอยู่เหมือนเดิมครับ

เพราะแม้จะเป็นแชมป์เก่า แต่ในฤดูกาลใหม่พวกเขาเป็นทีมที่อยู่นอกสายตาทุกคนเหมือนเดิม เนื่องจากทุกคนเชื่อว่าในฤดูกาลนี้ทีมยักษ์หลับในฤดูกาลที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, อาร์เซนอล รวมถึง ลิเวอร์พูล เองน่าจะเตรียมตัวมาดีขึ้นสำหรับฤดูกาลนี้

ไม่มีใครเชื่อว่าจะมี “เทพนิยายจิ้งจอก” ตอนที่ 2 อีก

เหตุผลนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่เลสเตอร์ยังน่าจับตามองครับในเรื่องของความรู้สึก

แต่หากจะมองหาเหตุผล ผมเองก็อยากรู้ว่า เลสเตอร์ ของรานิเอรี่ ในฤดูกาลใหม่จะมีหน้าตาแบบไหน พวกเขาจะเล่นแบบใด และจะมีพัฒนาการในการเล่นไปถึงไหน

อย่าลืมว่าในฤดูกาลนี้พวกเขามีเกมเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 6 นัดในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน และในอดีตที่ผ่านมามีทีมระดับกลางหรือระดับเล็กจำนวนไม่น้อยที่ตกม้าตายเพราะไม่สามารถรับมือกับแรงกดดัน และเกมที่หนักหน่วงระดับนี้ไหว

สำหรับ รานิเอรี่ ผมเองเชื่อในประสบการณ์ว่าเขาเอาอยู่ แต่สำหรับนักเตะในทีมนั้นผมไม่มั่นใจมากนัก

นักเตะใหม่อย่าง อาห์เหม็ด มูซา, นัมปาลิส เมนดี้ (ที่จะถูกจับตามองมากเป็นพิเศษแน่นอนหาก ก็องเต้ ย้ายออกจริง), รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ และหลุยส์ เฮอร์นันเดส เองสำหรับผมไม่ใช่นักเตะประสบการณ์จัดจ้านที่จะประคับประคองทีมหรือทำให้ทีมดีขึ้นได้ในทันที

สิ่งสำคัญคือในเกมระดับนี้ ไม่สามารถอาศัยคำว่า #Fearless อย่างเดียวเหมือนเดิมได้ เพราะคุณภาพของเกมการเล่นนั้นแตกต่างจากในพรีเมียร์ลีกมาก

ตรงนี้จะเป็นบททดสอบที่ เลสเตอร์ ต้องผ่านไปให้ได้หากปรารถนาจะเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน

แต่ไม่ว่าจะได้หรือไม่ได้นั้น ผมเองยังอยากเห็น เลสเตอร์ ในฐานะทีมที่เล่นฟุตบอลกันด้วยหัวใจเหมือนเก่า

เพราะสิ่งที่งดงามกว่าถ้วยรางวัล คือความมหัศจรรย์ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของผู้เล่น 11 คนในสนาม

ผมยังอยากจะรักเลสเตอร์ ในฐานะ “ทีมรักที่สอง” เหมือนเดิมครับ

หวังว่าจะไม่โดน “หักอก” นะ


"นิทานลูกหนัง" by ลูกแม่กิ่ง
(lookmaeking@hotmail.com)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook