สกู๊ป : อัสนีสีแดง

นอกเหนือจากเรื่องราวของ “โปเกม่อน” ที่กลายเป็นปรากฏการณ์ยึดทุกพื้นที่ในชีวิตคนไทยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาหลังจากมีการเปิดตัวเกม Pokemon Go

เกมฮิตระดับโลกที่เดินทางมาถึงไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ก็เป็นวันที่ เดอะ ค็อป ชาวไทย (และทั้งโลก) ได้ยิ้มหน้าบานกันที่สุด

เท่าที่สังเกตหลายคนแทบไม่อยากเชื่อสายตาว่า ลิเวอร์พูล จะต้อนตือโคตรทีมอย่าง บาร์เซโลน่า ได้ถึง 4-0 แม้จะเป็นเพียงเกมอุ่นเครื่องก็ตา

ครับ - ผมเองก็ไม่อยากเชื่อ แต่มันเป็นไปแล้วครับ!

92 นาทีเศษที่เวมบลีย์ หากไม่ใช่ก็ต้องบอกว่าใกล้เคียงกับการเป็นเกมที่ดีที่สุดของลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กับสไตล์ฟุตบอลที่เป็น “ตำรับ” ของเขาแท้ๆ gegenpressing อันทรงพลังและน่าตื่นตาตื่นใจ

เร็ว หนัก แม่น คม คือสิ่งที่นักเตะในชุดแดงเพลิงแสดงให้เห็นในเกมนี้ครับ ไม่ต่างอะไรจาก “สายฟ้าสีแดง” ที่แรงฤทธิ์เสียเหลือเกิน

มันอาจจะดูย้อนแย้งและสับสนอยู่นิดๆครับหากจะบอกว่า ลิเวอร์พูล ใต้ระบบและทรงบอลนี้ถือว่าทำได้ใกล้เคียงกับในฤดูกาล 2013-14 ปีที่พวกเขาภายใต้การคุมทีมของ เบร็นแดน ร็อดเจอร์ส

เกือบจะ Make us dream ได้ สิ่งที่แตกต่างคือครั้งนี้พวกเขาได้ “ต้นตำรับ” อย่าง คล็อปป์ มาสร้างและวางแนวทางทั้งหมด

ระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา คล็อปป์ ไม่ได้ประสบความสำเร็จทุกครั้งไป ล้มเหลว พลาดท่าก็มีครับโดยเฉพาะความผิดหวังจากการพลาดแชมป์ใน 2 ถ้วย

แต่หากมองย้อนกลับไปในฤดูกาลที่แล้ว สภาพของลิเวอร์พูล ในวันนี้ดีขึ้นจากวันเดียวกันเมื่อปีก่อนมาก

ขุมกำลังอาจไม่ดีที่สุด บางจุดต้องปรับปรุง แต่อย่างน้อยเราพอจะพูดได้แล้วครับว่ามันใกล้เคียงกับการเป็น “ทีมของคล็อปป์”

สำหรับชัยชนะเหนือบาร์ซ่า - ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากต่อขวัญกำลังใจ โดยเฉพาะหลังฟอร์มน่าผิดหวังในเกมพ่ายโรม่า ส่งท้ายทัวร์อเมริกา เมื่อหลายวันก่อน - สิ่งที่มีความหมายมากกว่าสกอร์บอร์ด 4-0 มีอยู่ 2-3 เรื่องครับ

ประการแรกคือการที่ไม่เสียประตูให้แก่บาร์ซ่า ในทีมชุดที่มีทั้ง ลิโอเนล เมสซี่ และหลุยส์ ซัวเรซ ลงสนามพร้อมกัน

โดยแม้หลุยส์ เอ็นริเก้ จะจัดทีมเล่นแบบครึ่งๆกลางๆและทีมน่าจะผ่านการซ้อมอย่างหนักมากจนทำให้ดูไม่มีแรงเล่น แต่ทีมชุดนี้ของบาร์ซ่า หากเป็นในฤดูกาลปกติสามารถเก็บชัยชนะในลา ลีกาได้ไม่ยากครับ

การที่ ลิเวอร์พูล สามารถต้านทานพวกเขาเอาไว้ แม้ว่าจะมีอาการทุลักทุเลในบางช่วง นั่นหมายถึง “ระบบ” ในเกมรับในการเจอทีมสไตล์นี้ทำได้ดี well organised ครับ

อย่างน้อย คล็อปป์ พอมี “คำตอบ” ในใจแล้วว่าไลน์แบ็กโฟร์ช่วงแรกของเขาคือ นาธาเนียล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, รักนะ เอ้ย รักนาร์ คลาวาน และเจมส์ มิลเนอร์

เรื่องที่ดีต่อมาคือพัฒนาการในการเล่นเกมสวนกลับของลิเวอร์พูลดีขึ้นมาก ดีขึ้นกว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ด้วยครับ จนทำให้แม้แต่ คล็อปป์ เองยังต้องเอ่ยปากชมการ “ความแม่นยำ” ของลูกทีม

สิ่งนี้สำคัญเพราะที่ผ่านมา คล็อปป์ ใส่โปรแกรมให้นักเตะหงส์แดงไล่บี้บดคู่แข่งจนเป๋ได้ แต่บ่อยครั้งที่เกมสวนกลับขาดประสิทธิภาพเพราะการผ่านบอล และวิธีการเล่นสวนกลับไม่แม่นยำ

ซึ่งในเกมกับบาร์ซ่า ไม่ว่าจะด้วยเพราะะคู่แข่งอ่อนหัดเองอยู่แล้วในเกมรับหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าลิเวอร์พูล สวนกลับได้แม่นมาก

สองเรื่องนี้จะเป็น “ฐาน” ของทีมสำหรับฤดูกาลใหม่ครับ

เรื่องที่ดีต่อมาคือการได้เห็น ซาดิโอ มาเน่ ปักหลักในหัวใจของแฟนบอลอย่างรวดเร็วด้วยฟอร์มที่สยบทุกคำถาม โดยแม้ในเกมอุ่นเครื่องหลายนัดที่ผ่านมาจอมถึกเจ้าของค่าตัว 36 ล้านปอนด์

จะเล่นได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ในเกมกับบาร์ซ่า เขาแสดงให้เห็นแล้วว่า คล็อปป์ ดึงตัวมาทำไม

ความแข็งแกร่ง ความเร็ว การมีส่วนร่วมกับเกม และทำประตูได้ด้วยคือคำตอบ

และดูเหมือน มาเน่ กับไคลน์ จะเข้าคู่กันได้ดีมากครับ ดังนั้นชัดเจนว่าเขาจะยืนทางฝั่งนี้ และจะทำให้เกมทางฝั่งขวาของลิเวอร์พูล ในฤดูกาลหน้า “โหด” ไม่น้อย

ที่กล่าวมาเป็นแค่ตัวอย่างเรื่องสำคัญที่น่าหยิบยกมาพูดถึงครับ ความจริงยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ เช่น ระบบการเล่น 4-3-3 ที่เริ่มลงตัว, ฟอร์มของ ดิวอค โอริกิ และโรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่

ที่ยิ่งเล่นยิ่งดี ขณะที่อีกหลายๆคนทำได้ดีขึ้นตามลำดับ และดูมีใจที่จะ “สู้”

เมื่อคิดถึงภาพอาการหัวใจสลายหลังพ่ายต่อ เซบีญ่า ที่บาเซิล เมื่อเกือบ 3 เดือนก่อน การได้เห็นลิเวอร์พูล กลับมาเล่นได้แบบนี้ด้วยความเร่าร้อนเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ

แน่นอนยังคงมีอีกบางเรื่องหลายประการที่ คล็อปป์ จำเป็นต้องจัดการและตัดสินใจ โดยเฉพาะเกมรับที่ยังคาบลูกคาบดอกเกินไปหากจะฝืนใช้นักเตะเท่าที่มีอยู่

แต่อย่างน้อยที่สุดชัยชนะเหนือบาร์ซ่า จะเป็นกำลังใจให้ทีมได้อย่างมากมายมหาศาล

ลิเวอร์พูล ถือว่าพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่แล้วครับ หากไม่เต็มร้อยก็นับว่าใกล้เคียง

คอลัมน์ นิทานลูกหนัง
by ลูกแม่กิ่ง (lookmaeking@hotmail.com)