สกู๊ป : ตัวเลือกที่ไม่มี ของนายใหญ่ "สิงโตคำราม" คนต่อไป

ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวใหญ่ในแวดวงฟุตบอลคงหนีไม่พ้นเรื่องของ “แซม อัลลาร์ไดซ์” ที่กลายเป็นอดีตกุนซือ “ทีมชาติอังกฤษ” ที่มีผลงานการคุมทีมดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ชนะ 100 เปอร์เซนต์ จากผลงาน 1 นัดในการบุกเฉือน “ทีมชาติสโลวาเกีย” เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

แน่นอนว่าสาเหตุคือ การที่เจ้าตัวถูกสื่อตัวแสบปลอบตัวเป็นนักธุรกิจเพื่อมาขอคำปรึกษาพูดคุยในเรื่อง “ธุรกิจการซื้อขายนักเตะ” แต่ในประเด็นที่ส่อในทางทุจริตคือ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลี่ยงกฏเกี่ยวกับการซื้อขายผู้เล่น แถมเจ้าตัวยังตอบรับในการดำเนินเรื่องนี้ พร้อมกับค่าตอบแทนจำนวน 400,000 ปอนด์

ที่สำคัญยังนินทาบุคคลอื่นในวงการฟุตบอลอังกฤษแบบสนุกปาก ไม่ว่าจะระดับราชวงศ์อย่างเจ้าชายวิลเลี่ยม เจ้าชายแฮร์รี่ หรือคนในวงการฟุตบอลด้วยกันเอง “รอย ฮ็อดจ์สัน” อดีตกุนซืออังกฤษคนก่อน รวมทั้งวิพากย์วิจารณ์การทำงานของปู่รอยที่ให้ “แกรี่ เนวิลล์” เข้ามามีอิทธิพลในการทำทีมมากเกินไป

แม้ว่าจะเป็นการพูดคุย ขอคำปรึกษาธรรมดา หรือพูดคุยกันเองนอกรอบกับเพื่อนแบบไม่เป็นทางการที่ร้านอาหาร แต่ในฐานะ “ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษคนปัจจุบัน” ก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำและรับไม่ได้เป็นอันขาด ดังนั้นไม่แปลกที่เจ้าตัวจะ “ชะตาขาด” ด้วยเวลาอันรวดเร็วด้วยอายุงานเพียง 67 วันเท่านั้น และคงต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อหาที่ยืนในสังคมฟุตบอลอังกฤษ หรืออาจจะไม่มีที่ยืนเลยด้วยซ้ำ

มาถึงตอนนี้ ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษหรือเอฟเอ คงไม่มีเวลามานั่งสรรหานายใหญ่คนใหม่ของทีมให้ทันก่อนเกมในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกโซนยุโรปในสุดสัปดาห์หน้า กับ “ทีมชาติมอลตา” และ “ทีมชาติสโลวีเนีย” รวมทั้งเดือนพฤศจิกายนกับ “ทีมชาติสก็อตแลนด์” และ “ทีมชาติสเปน”

ทำให้ “แกเร็ธ เซาท์เกธ” ที่ทำงานอยู่กับเอฟเอ คุมทีมขัดตาทัพไปก่อน เพราะมีประสบการณ์ในการคุมทีมชาติชุด ยู 20 และ ยู 21 มาแล้ว รวมทั้งระดับสโมสรกับ “มิดเดิ้ลสโบรช์” แต่คำถามคือใครจะเป็นนายใหญ่คนต่อไปของทีม?

โดยเฉพาะบรรดาตัวเต็งที่สื่อคาดไว้อย่าง “อลัน พาร์ดิว” ที่คุม “คริสตัล พาเลซ” อยู่ กับ “สตีฟ บรูซ” ที่คุม “ฮัลล์ ซิตี้” ในส่วนของ “เอ็ดดี้ ฮาว” นายใหญ่ของ “บอร์นมัธ” ตอบปฏิเสธไปแล้ว

ทางด้านเอฟเอก็ยังไม่ให้ข่าวอะไรมาก เพราะการหากุนซือมาคุมทีมช่วงนี้เป็นเรื่องยากมาก ฟุตบอลลีกก็เปิดแล้ว โค้ชที่มีชื่อชั้นและบารมีก็คุมทีมอื่นหมดแล้ว ถ้าจะเลือกชื่อแคนดิเดตชาวอังกฤษที่ถูกสื่อยกขึ้นมาอย่าง “แกรี่ เนวิลล์” “อลัน เชียเรอร์” หรือ “เกล็น ฮอดเดิ้ล” เชื่อว่าทุกคนส่ายหน้า

รายแรกทำ “บาเลนเซีย” วิบัติคามือตัวเองมาแล้วในเวลาเพียงแค่ 2 เดือน รายที่สองเป็นตำนานของฟุตบอลอังกฤษก็จริงแต่พกดีกรีพา “นิวคาสเซิล” ตีตั๋วไปเล่นลีกแชมเปี้ยนชิพ และรายสุดท้ายนิยามสั้นว่า “ตกยุค”

 

ส่วนกุนซือต่างชาติที่ถูกยกขึ้นมาก็มี “อาร์แซน เวงเกอร์” ของอาร์เซน่อล กับ “เจอร์เก้น คลินท์มันน์” ที่คุม “ทีมชาติสหรัฐอเมริกา” อยู่ รายแรกอาจจะเป็นไปได้ถ้าเอฟเอยอม “รอ” เจ้าตัวลงจากตำแหน่งนายใหญ่ปืนใหญ่หลังจบฤดูกาลนี้ แต่มันก็จะ “เสี่ยง” เกินไปที่เจ้าตัวอาจจะอยู่กับทีมต่อ ตารายหลังคงไม่มีคนอังกฤษอยากเห็นคนเยอรมันมาคุมทีมชาติของพวกเค้าแน่

ดูแล้วช่วงมืดมนเสียเหลือเกิน กับตำแหน่งโค้ชที่ชาวอังกฤษทุกคนใฝ่ฝัน แต่ไม่มีใครตอนนี้ที่ “เหมาะสม” กับตำแหน่งนี้

สุดท้ายจะเป็น “พาร์ดิว” หรือ “บรูซ” หรือคนอื่นที่คาดไม่ถึง บางทีนี้คงเป็นยุคตกต่ำของ “ทีมชาติอังกฤษ” ที่ไม่รู้จะเอาใครมาเป็นโค้ชดีเพราะมันไม่มีตัวเลือกแล้วจริงๆ

โดย แบงค์ พิพัช