ปักกิ่งเกมส์ปิดฉากแล้วอย่างยิ่งใหญ่

ปักกิ่งเกมส์ปิดฉากแล้วอย่างยิ่งใหญ่

ปักกิ่งเกมส์ปิดฉากแล้วอย่างยิ่งใหญ่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การ แข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 "ปักกิ่งเกมส์" ปิดฉากการแข่งขันอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่สนามกีฬาแห่งชาติ หรือ สนามรังนก โดยเริ่มพิธีอย่างเป็นทางการในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ด้วยการเริ่มนับถอยหลังเข้าสู่พิธีการ โดยเริ่มนับจาก 29 อันสื่อความหมายถึงโอลิมปิกครั้งที่ 29 ประกอบการแสดง 66 นาที ก่อนจะมีการจุดพลุรอบสนาม เพื่อเป็นการต้อนรับ หู จินเถา ประธานาธิบดีสาธาณรัฐประชาชนจีน และ ฌักส์ ร็อก ประธานกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี)

เจ้าภาพนำเข้าพิธีปิดปักกิ่งเกมส์ อย่างเป็นทางการ ด้วยเพลงชาติจีน จากคณะนักร้องประสานเสียง 112 คน ซึ่งแต่ละคนมาจากชนเผ่าพื้นเมืองของจีน ตามด้วยขบวนพาเหรดกลองจีนโบราณกว่า 200 คน เป็นห่วงวงโอลิมปิกซ้อนกันสองวง ขณะที่บนฟ้าก็มีการโชว์ตีกลองจีนโบราณ 2 ชุด ด้วยเช่นกัน เพื่อแทนความหมายว่าเป็นเสียงกลองจากสวรรค์ บินมาจากฝั่งเหนือกับใต้ ซึ่งการแต่งตัวใช้จากมณฑลยูนนานเป็นหลัก เพราะเป็นมณฑลที่รวมชนเผ่าพื้นเมืองของจีนมากที่สุด จากนั้นใช้นักแสดงสวงมงกุฎสีเงินจำนวน 1,148 คน เข้ามาเต้นระบำบริเวณกลางสนาม เพื่อแทนความหมายการตีระฆังตอบรับเสียงกลอง

จากนั้นเข้าสู่พิธีการเชิญธงชาติของประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันทั่วโลก 102 ประเทศ โดยลำดับแรกคือ กรีซ เจ้าภาพโอลิมปิกหนแรก ที่เดินเข้ามาจากฝั่งตะวันตก และให้นักกีฬาเดินเข้าสู่สนามโดยไม่แบ่งแยกประเทศและประเภทกีฬา ซึ่งนักกีฬาไทยนำโดย สมจิตร จงจอหอ นักชกเหรียญทองโอลิมปิกของไทย รุ่นฟลายเวท โดยระหว่างขบวนธงและพาเหรดนักกีฬานั้น บริเวณโดยรอบมีสาวจีนใส่เสื้อแขนกุ๊นและกางเกงหนังสีแดงล้วน ตีเพอร์คัสชั่นประกอบตลอด เพื่อให้ความหมายของเกมสปิริตที่มีความสำคัญมากกว่าเหรียญรางวัล

จากนั้นเวลา 19.35 น. เป็นพิธีมอบเหรียญรางวัลวิ่งมาราธอนชาย ภายในสนาม ซึ่ง ซามูเอล คามาอู จากเคนยา สร้างสถิติโอลิมปิกขึ้นมาใหม่ 2.06.32 ชม. คว้าเหรียญทองไปครอง ต่อด้วยขบวนของอาสาสมัคร และคณะกรรมการด้านกีฬาของไอโอซีชุดใหม่เข้าสู่สนาม โดยมีการมอบดอกไม้แสดงความขอบคุณอาสาสมัครในโอกาสนี้ ตามด้วยการเชิญธงชาติกรีซ ต้นกำเนิดกีฬาโอลิมปิก พร้อมด้วยการร้องเพลง "โอลิมปิกฮีมน์" จากเด็กชาวจีนและต่างชาติ 226 คน

ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกของจีน และประธานไอโอซี กล่าวปิดการแข่งขัน พร้อมด้วยการเชิญธงสหราชอณาจักร เจ้าภาพโอลิมปิก ครั้งที่ 30 ขึ้นสู่ยอดเสา พร้อมเพลง "ก็อด เซฟ เดอะ ควีน" เพลงชาติอังกฤษ ประกอบ ตามด้วยการลดธงโอลิมปิกลงจากยอดเสา และมีเด็กนักเรียนจีนจำนวน 226 คน ร้องประสานเสียงเพลงโอลิมปิก เป็นภาษากรีกไปพร้อมกัน เมื่อเพลงจบได้พับธง 5 ห่วง สัญลักษณ์โอลิมปิกเกมส์ เก็บ เพื่อนำส่งมอบให้ นายบอริส จอห์นสัน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน เจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ 2012

สหราชอาณาจักรได้นำ "ลอนดอน บัส" หนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงลอนดอน เข้าสู่สนาม ก่อนแปลงสภาพรถให้เป็นเวทีดนตรี เพื่อให้ จิมมี เพจ มือกีตาร์ของวงร็อก เลด เซพพลิน ตำนานแห่งทศวรรษ 70 ขึ้นโชว์เสียงกีตาร์ พร้อมด้วยเสียงร้องของ ลีโอนา ลูอิส นักร้องสาวแนวริธึม แอนด์ บลูส์ โชว์การร้องโซปราโน ในเพลง "ฟรอม ลอนดอน วิธ อะ โฮลลอตตา เลิฟ!" ต่อจากนั้น เดวิด เบ็คแฮม กองกลางกัปตันทีมชาติอังกฤษ ได้ปรากฏตัว พร้อมเตะบอลเข้าสู่ขบวนนักกีฬา เป็นอันจบการโชว์ของเจ้าภาพครั้งต่อไป

ต่อจากนั้นเจ้าภาพค่อยๆ ดับไฟโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 29 บนกระถางคบเพลิง พร้อมเสียงเพลง "วี อาร์ เดอะ แฟมิลี่" หรือพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ประกอบ หลังจากนั้นเจ้าภาพได้ใช้การแสดงกายกรรมต่อตัวขึ้นเป็นหอคอย โดยมีการเดินบนอากาศเหมือนสภาพไร้นำหนัก ด้วยการใช้ลวดสลิงช่วยโดยตลอด ตามด้วยการใช้ผ้าขนาดใหญ่เป็นรัศมีแผ่รอบ 360 องศา ออกจากตัวหอคอย และปิดชุดการแสดงด้วยเพลง "ไอ เลิฟ ปักกิ่ง"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook