ส่องอนาคต "มนัส" อีกหน

ปกติ “หลี่หมิง” จะไม่ค่อยได้ร่วมงานแถลงข่าว เพราะส่วนใหญ่งานจะมีขึ้นก่อนเที่ยง ซึ่งคาบเกี่ยวกับจัดรายการ “กีฬาทั่วทิศ” จะหวังพึ่ง “สมชาย สายลม” อุทานสั้นๆ “เจ๊งซิครับ”

ส่วนช่วงบ่าย “หลี่หมิง” จะติดภารกิจรับส่งผู้มีพระคุณ แถมวันจันทร์กับวันพุธมีรายการเคเบิ้ลซ้ำซ้อน โอกาสที่จะไปปรากฏใบหน้าอันหล่อเหลาไม่ค่อยได้

บ่ายเศษๆ วันพุธที่ชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ “บิ๊กหนุ่ม” กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานงานแถลงข่าว เป็นโอกาสดีที่ “หลี่หมิง” แวบขึ้นไปทักทายน้องๆ เพื่อนๆ นักข่าว และผู้บริหารระดับสูงของกกท.ที่สนิทแนบแน่น ในฐานะนักข่าวกีฬา กับแหล่งข่าว

“หลี่หมิง” ถูกสั่งงานให้ติดตามการประท้วงของสหภาพแรงงาน “กกท.” เมี่อขวบปีแรกของการทำงาน  หรือเมื่อ 22 ปีที่ผ่านมาได้เจอกับ “วิวัฒน์ วิกรานตโนรส” สมัยยังเป็นผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ จนไปตันที่ “รองผู้ว่าการ”

“ดร.สมชาย ประเสริฐศิริพันธุ์” สมัยเป็น “รอง” ลูกหม้อ และก้าวข้าม “ดร.ณัฐ อินทรปาณ” รองหนุ่มหล่อ ในฐานะ “แคนดิเดต” แทน “ดร.ไพบูลย์ วัชรพรรณ” ผู้ว่าการตอนนั้น ที่ถูกเด้งจากเก้าอี้ ขึ้นเป็นผู้ว่าการค่ายหัวหมากที่หนุ่มที่สุดในประวัติศาสตร์ เรียนว่า “หลี่หมิง” สนิทเป็นเนื้อเดียว

รวมถึง “รองไก่” เฉลิมชัย บุญรักษ์ และ “รมต.” มนตรี ไชยพันธุ์ หรือแม่แต่ “รองรุจ” พันโทรุจ แสงอุดม ที่ข้ามฟากมาจากบ้านอัมพวัน บรรยากาศการร่วมงานแถลงข่าวจึงอบอุ่นหัวใจ

งานนี้ “หลี่หมิง” ได้เจอกับ “ไอ้บาส” สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์คนแรก ทันทีที่ทักทาย “เจ้าบาส” คุยย้ำถึงเรื่อง “ไอ้เติ้ล”มนัส บุญจำนงค์ ในเรื่องอื้อฉาวถูกไล่ออกจากแคมป์เก็บตัวทีมชาติ

“ไอ้เติ้ล” ถูกเรียกให้มารายงานตัว “หลี่หมิง” พร้อมย้ำถึงสภาพร่างกาย และน้ำหนักที่ต่ำกว่า 80 กิโลกรัม สามารถรีดได้สบายๆ จะนำตัวไปประลองในพิกัดน้ำหนัก 75 กิโลกรัม

“หลี่หมิง” จับเนื้อตัว “ไอ้เติ้ล” ที่หวังจะทิ้งทวนสร้างประวัติศาสตร์ใน “ลอนดอนเกมส์” แม้เนื้อตัว และหน้าตาจะไม่ฉุเหมือนตอนแข่งขันซีเกมส์ แต่ห้วงเวลาแม้ “เสธ.อ้าย” พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคม จะอนุญาตให้ประลองกับนักมวยไทย ซึ่งโอกาสที่ “ไอ้เติ้ล” จะชนะได้ไม่ยาก

อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปแข่งขันคัดเลือกโซนเอเซีย ซึ่งกำหนดในเดือนเมษายนนี้ที่ประเทศคาซัคสถาน โอกาสของ “ไอ้เติ้ล” เหลือไม่มากนัก ประมาณไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์

เงื่อนไขของ “ไอ้เติ้ล” ที่จะได้ไปโอลิมปิกเกมส์ 2012 แบบมีความหวัง ประการแรก ต้องโชคดีสุดๆ ในการจับติ้วการควอลิฟายที่คาซัคสถาน ประการที่ 2 ต้องหักห้ามใจเคร่งในกฎเกณฑ์ยิ่งกว่าพระถือวินัยสงฆ์

“หลี่หมิง” เคยปรามาส “ไอ้เติ้ล” ตอนกลับมาภาค 2 ที่ “ปักกิ่งเกมส์” ยุให้ “ปีเตอร์” คุณศักดิ์ชัย วงศ์มาลาสิทธิ์ ป๊าบุญธรรมในฐานะผู้จัดการทีม ประกาศอัดฉีดเบิ้ลรางวัลเหรียญทองให้ เพราะเชื่อว่าคงทำไม่ได้เนื่องจากมีปัญหาในการฝึกซ้อม ประมาณ ความประพฤติเหลวไหลนิสัยเสริมส่ง

แต่ “ไอ้เติ้ล” ทำเอา “หลี่หมิง” ทั้งเชียร์ และแช่ง ในรอบชิงชนะเลิศ สุดท้ายได้เหรียญเงิน ทำเอาคุณปีเตอร์ประหยัดเงินไป 1.5 ล้านบาท แต่เสียเพิ่มไป 1 ล้านบาท เพราะคำยุ และปรามาสของ “หลี่หมิง” โดยแท้

คราวนี้ “หลี่หมิง” ขอปักธงเอาตัวเองเป็นเดิมพันว่า หาก “ไอ้เติ้ล” ได้ไป “ลอนดอนเกมส์” จะขอกราบเท้า “หมอเมา” แล้วซบดมกลิ่นหอมชื่นใจเหมือนมะนาวปนดอกมะลิ

บ๊ายบาย ปู๊นๆ ฉึกฉักๆๆๆๆ ขอรับเจ้านาย

เรื่องโดย "หลี่หมิง"
คอลัมน์จากหนังสือพิมพ์กีฬา ฮอตสกอร์