ESPN วิเคราะห์ : "5 เหตุผลที่ไทยจะได้แชมป์ AFF Suzuki Cup อีกครั้ง"

ESPN วิเคราะห์ : "5 เหตุผลที่ไทยจะได้แชมป์ AFF Suzuki Cup อีกครั้ง"

ESPN วิเคราะห์ : "5 เหตุผลที่ไทยจะได้แชมป์ AFF Suzuki Cup อีกครั้ง"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทีมไทยเป็นทีมที่คาดว่าจะได้แชมป์ AFF Cup ขณะที่ทีมอื่นๆ ทำได้แค่หวังเท่านั้น

ทีมไทยเข้ารอบรองชนะเลิศพบกับทีมเมียนมา และเป็นตัวเต็งที่จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเพื่อที่จะคว้าแชมป์ในทัวร์นาเม้นท์นี้

แชมป์เก่าอย่างทีมไทยเป็นทีมที่ใครๆก็อยากเอาชนะเสมอ แม้ว่าช้างศึกไม่ได้ทำผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขา แต่ก็ยังสามารถเอาชนะได้ทั้ง 2 เกม โดยชนะอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์

นี่คือ 5 เหตุผลที่จะทำให้ทีมไทยสามารถป้องกันแชมป์ปี 2016 ได้

1. แกร่งทั่วแผ่น


6

หลังจากชนะมา 2 เกมในกลุ่ม A ทำให้ทีมไทยเข้ารอบโดยเป็นแชมป์กลุ่มแน่นอนแล้ว ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะพักนักเตะในเกมสุดท้ายที่พบกับฟิลิปปินส์

โค้ชเกียรติศักดิ์เลือกที่จะเปลี่ยนผู้เล่นสำรองลงทั้งชุด ถือเป็นการส่งชุด 2 ลงมาแข่งกับฟิลิปปินส์ ทั้งๆที่เป็นเกมที่จะต้องชนะสำหรับทีมของโทมัส ดูเลย์ แต่ทีมไทยก็เป็นทีมที่ดีกว่า และสมควรได้รับชัยชนะ โดยได้ประตูในช่วงท้ายเกมจากศราวุฒิ มาสุข

ฮีโร่ในปี 2014 อย่างชาริล ชัปปุยส์ กลับมาเป็นหัวใจในแดนกลางอีกครั้ง ขณะที่พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา ก็แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถทำหน้าแทนธีราทร บุญมาทัน ได้อย่างยอดเยี่ยมในการป้องกันทางฝั่งซ้าย

ดูเหมือนว่า ไม่ว่าเกียรติศักดิ์จะเลือกใครมาแข่งขัน นักเตะทีมไทยก็ยังมีคุณภาพเพียงพอที่จะเอาชนะได้ทุกทีม

2. ธีรศิลป์ท็อปฟอร์ม

3(1) 

กัปตันทีมชาติไทยกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มที่ร้อนแรง ประกอบกับเขาต้องการที่จะได้แชมป์ AFF Cup มาครองด้วย

กองหน้าจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ผู้นี้ เพิ่งทำ 2 ประตูในนัดที่ไทยเสมอออสเตรเลีย 2-2 ในบ้าน ในวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากนั้น 4 วันเขาก็ทำแฮตทริกในนัดเปิดสนามช่วยให้ไทยเอาชนะอินโดนีเซียไปได้ 4-2

เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมของเขา แม้จะทำได้เพียงเอาชนะสิงคโปร์แค่ 1-0 แต่พวกเขาก็ได้พักในเกมที่พบกับฟิลิปปินส์ ธีรศิลป์จึงได้รับการคาดหวังว่าจะทำประตูขึ้นนำได้ในเกมที่จะพบกับเมียนมาในกรุงย่างกุ้ง

การได้นักเตะร่างยักษ์อย่าง สิโรจน์ ฉัตรทอง มาติดทีม ถือเป็นประโยชน์กับธีรศิลป์มากเลยทีเดียว ก่อนเกมที่พบกับออสเตรเลีย ธีรศิลป์นั้นเป็นกองหน้าเพียงคนเดียวในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก และไม่สามารถทำประตูได้ใน 4 เกมแรก รูปร่างของสิโรจน์เป็นประโยชน์อย่างมากต่อผลงานของธีรศิลป์ ซึ่งทำให้เขาสามารถเคลื่อนตัวได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้นเมื่อมีพาร์ตเนอร์

เกมรับของเมียนมาต้องทำงานอย่างหนักแน่นอนในการที่จะต้องรับมือกับสองกองหน้าของไทย

3. เกียรติศักดิ์พบความยืดหยุ่นใหม่

3 

การใช้ผู้เล่นชุดเดิมตั้งแต่ต้นทำให้ผลงานของเขาตกต่ำลงในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

เกมที่พบกับยูเออีในเดือนตุลาคมซึ่งมีผลงานที่ย่ำแย่ในครึ่งแรก ก่อนที่จะเปลี่ยนตัวลงไปให้ทำให้เกมดูดีขึ้น แต่ทีมไทยก็ยังแพ้ไป 1-3 ทำให้แฟนๆรู้สึกแปลกใจเมื่อ 5 วันต่อมา เกียรติศักดิ์ก็ยังเลือกที่จะใช้ผู้เล่นชุดเดิมพบกับทีมชาติอิรัก

และผลการแข่งขันก็คือทีมชาติไทยแพ้อิรักไปอย่างขาดลอย 0-4 ด้วยเหตุนี้เองทำให้เกียรติศักดิ์ต้องเปลี่ยนรูปแบบการเล่นเป็น 3-5-2 เมื่อพบกับทีมออสเตรเลีย ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จไม่เบาเลย โดยทีมไทยทำได้ดีกว่าในเวลา 90 นาที แต่โชคร้ายที่ไม่ได้รับชัยชนะ

เกียรติศักดิ์ได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นอีกครั้งในรายการ AFF Cup โดยมีการเปลี่ยนรูปแบบการเล่นให้เหมาะสมในแต่ละเกม และพักตัวผู้เล่นเพื่อให้พร้อมในเกมต่อไป ดูเหมือนว่าจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์อันเจ็บปวดในเกมที่พบกับชาติตะวันออกกลาง และนำมาประยุกต์ใช้ และปรับให้เข้ากับบริบทที่แตกต่างกัน มากกว่าที่จะเล่นในรูปแบบเดียวตลอด

4. ประสบการณ์ในเกมใหญ่ๆ

 599810810

ในโลกของธุรกิจที่เงินเดิมพันสูง ประสบการณ์ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างสำเร็จกับล้มเหลวได้ ผู้เล่นไทยชุดนี้ส่วนใหญ่เคยอยู่ในชุดที่ได้แชมป์เมื่อปี 2014 แต่ตั้งแต่นั้นพวกเขาก็มีคุณค่ามาก แต่ก็มีบางครั้งที่ต้องเจ็บปวดจากประสบการณ์ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ที่พบกับญี่ปุ่นและซาอุฯ

ในรอบรองชนะเลิศครั้งนี้ นักเตะไทยคงจะไม่สะทกสะท้านอะไรนัก ขณะที่นักเตะหนุ่มของเมียนมากำลังตื่นเต้นกับโอกาสที่ไม่คุ้นเคยนัก

ถ้าช้างศึกได้เข้าชิงฯ พวกเขาจะพบกับทีมเวียดนามหรือไม่ก็อินโดนีเซีย แม้ว่าอินโดนีเซียจะกลับมาได้ แต่ไทยก็สามารถเอาชนะพญาครุฑไปได้ 4-2 ในนัดเปิดสนามเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เมื่อปีที่แล้ว ทีมไทยก็สามารถเอาชนะเวียดนามมาได้ทั้งสองครั้ง

ไม่ว่าพวกเขาจะพบกับทีมใด ทีมไทยไม่เคยกลัว

5. การจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม

 11

ไทยลีกถือเป็นลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค และถ้าดูจากการจบสกอร์ที่แข็งแกร่งจากการทำประตูในแต่ละเกม แสดงให้เห็นถึงนักเตะที่มีความฟิตที่สุดอีกด้วย

4 ประตูจาก 6 ประตูของทีมไทยได้มาในช่วง 10 นาทีสุดท้าย เมื่อทีมอินโดนีเซียตามตีเสมอได้ 2 ประตู ลูกทีมของเกียรติศักดิ์ก็ไม่ได้เสียขวัญแต่อย่างใด พวกเขาบุกเข้าใส่ดั่งพายุ ใส่เกียร์เต็มที่และก็ทำได้ 2 ประตูจากธีรศิลป์ ชัยชนะเหนือสิงคโปร์และฟิลิปปินส์เกิดขึ้นในช่วงท้ายเกมจากการยิงของศราวุฒิ มาสุข ในด้านจิตวิทยานี่เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง แม้ว่าคู่ต่อสู้จะเริ่มต้นได้ดี พวกเขาจะรู้เองว่าทีมไทยจะจบได้อย่างแข็งแกร่ง

เมียนมา อินโดนีเซีย และ เวียดนาม มีความหวังที่จะสำเร็จ สำหรับไทยแล้ว มีแต่ความคาดหวังเท่านั้น

วิเคราะห์โดย Paul Murphy, ESPN
เครดิตโดย http://www.thaiwinds.com

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook