เปิดสถิติ! "ลิเวอร์พูล" กู้หน้าเปิดรังแอนฟิลด์ต้อนรับจ่าฝูง "เชลซี"

 ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 (คืนวันอังคาร)

เวลา 03.00 น. ลิเวอร์พูล vs เชลซี

สนาม: แอนฟิลด์

ถ่ายทอดสดทาง: beIN SPORTS 1

ผู้ตัดสิน: มาร์ค แคลตเท่นเบิร์ก

​​

ผลงานการเล่น 5 นัดหลังสุดของ ลิเวอร์พูล (L L L W D)

28/01/2017 ลิเวอร์พูล 1-2 วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส

25/01/2017 ลิเวอร์พูล 0-1 เซาธ์แฮมป์ตัน

21/01/2017 ลิเวอร์พูล 2-3 สวอนซี ซิตี้

18/01/2017 พลีมัธ 0-1 ลิเวอร์พูล

15/01/2017 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 ลิเวอร์พูล

 

ผลงานการเล่น 5 นัดหลังสุดของ ลิเวอร์พูล (W W W W L)

28/01/2017 เชลซี 4-0 เบรนท์ฟอร์ด

22/01/2017 เชลซี 2-0 ฮัลล์ ซิตี้

14/01/2017 เลสเตอร์ ซิตี้ 0-3 เชลซี

08/01/2017 เชลซี 4-1 ปีเตอร์โบโร่

04/01/2017 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-0 เชลซี

 

เฮด-ทู-เฮด ผลงานการพบกันของทั้ง 2 ทีม

ลิเวอร์พูล ชนะ 2 / เสมอ 2 / เชลซี ชนะ 1

16/09/2016 เชลซี 1-2 ลิเวอร์พูล

28/07/2016 เชลซี 1-0 ลิเวอร์พูล (รายการ ICC)

11/05/2016 ลิเวอร์พูล 1-1 เชลซี

31/10/2015 เชลซี 1-3 ลิเวอร์พูล

10/05/2015 เชลซี 1-1 ลิเวอร์พูล

สถิติน่าสนใจทั้งหมด

1. การพบกันระหว่าง ลิเวอร์พูล และ เชลซี แมตช์นี้จะเป็นการพบกันครั้งที่ 50 ในการแข่งขันบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลิเวอร์พูล ชนะ 19 เสมอ 11 เชลซี ชนะ 19

2. สถิติการพบกันทั้งหมด 176 ครั้งรวมทุกรายการ ลิเวอร์พูล ชนะ 77 เสมอ 38 เชลซี ชนะ 61

3. หาก ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะได้ในแมตช์นี้จะเป็นการชนะ เชลซี ทั้งในบ้านและนอกบ้าน เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี หลังจากครั้งสุดท้ายที่ทำได้คือ ฤดูกาล 2011-2012

4. สำหรับ 4 นัดหลังสุดที่ เชลซี บุกมาเยือแอนฟิลด์ เชลซี ไม่แพ้ต่อ ลิเวอร์พูล ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 0 แมตช์สุดท้ายที่พวกเขาแพ้ต้องย้อนกลับไป เดือนพฤษภาคม ปี 2012

5. สำหรับ เยอร์เก้น คล็อปป์ และ อันโตนิโอ คอนเต้ พวกเขาเคยพบกันเพียง 1 ครั้ง ในการนำลูกทีมลงแข่งขันพรีเมียร์ลีกต้นฤดูกาล 2016-2017 ที่ผ่านมา โดย เชลซี พ่ายต่อ ลิเวอร์พูล 1 ประตูต่อ 2 ณ สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์

6. มาร์ค แคลตเท่นเบิร์ก ผู้ตัดสินในเกมนี้ ลงตัดสินในเกมที่ ลิเวอร์พูล ลงแข่งมาแล้วทั้งหมด 24 นัด ลิเวอร์พูล ชนะ 12 เสมอ 8 แพ้ 4

GettyImagesLaurence Griffiths/GettyImages

 

สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม

 ลิเวอร์พูล:

เจ้าถิ่นยังคงไม่มี แดนนี่ อิงส์ และ มาร์โก กรูยิช ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ และรอเช็คความฟิตของ นาธาเนียล ไคลน์ แต่จะได้ อดัม ลัลลาน่า ฟิตกลับมาทันเวลา ส่วนในรายของ ซาดิโอ มาเน่ ที่เสร็จภารกิจในศึก แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ คงต้องรอเช็คความพร้อมจนนาทีสุดท้าย คาดว่าหากพร้อมน่าจะออกสตาร์ทบนม้านั่งสำรองไปก่อน แนวรับจะมีใช้ โจเอล มาติป จับคู่กับ เดยัน ลอฟเรน แดนกลางประกอบด้วย เอมเร่ ชาน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ขณะที่สามประสานในแดนหน้ายังคงอยู่ครบ อดัม ลัลลานา, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน และ ฟิลิปป์ คูตินโญ่ ต้องจากนี้ยังมี แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ ดิว็อค โอริกี้ ให้เลือกใช้งานในแนวรุกอีกด้วย

เชลซี:

จ่าฝูง เชลซี อยู่ในสภาพทีมที่สมบูรณ์สุดๆ ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบน ทำให้ยังใช้ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้ต่อเนื่อง แนวรับสามคนมี ดาวิด ลุยซ์, แกรี่ เคฮิลล์ และ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า แดนกลางมี เอ็นโกโล ก็องเต้ จะประสานงานกับ เนมานย่า มาติช แนวรุกใช้ เปโดร โรดริเกซ, เอเด็น อาซาร์ และ ดิเอโก้ คอสต้า ลงล่าตาข่าย