6 เหตุผลที่ "เลสเตอร์ ซิตี้" จะตกชั้น!

เลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากสุดๆ ในฤดูกาลนี้

เนื่องจากพวกเขา เสี่ยงต่อการตกชั้นอย่างมาก โดยขณะนี้ ผ่านไปแล้ว 24 นัด มีเพียงแค่ 21 คะแนน มากกว่าโซนตกชั้นแค่คะแนนเดียว และมากกว่าอันดับสุดท้าย 2 แต้ม

และพวกเขา ก็มีโอกาสที่จะเป็น “แชมป์เก่า” ยุคพรีเมียร์ลีก ทีมแรกในประวัติศาสตร์ ที่ต้องหล่นชั้นไปเล่นลีกระดับสอง ในฤดูกาลหน้า

รวมทั้งอาจจะเป็นสโมสรที่สอง ต่อจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เคยตกชั้นในฐานะแชมป์เก่าลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมาแล้ว เมื่อฤดูกาล 1937-38

ล่าสุด Sky Sports สื่อชื่อดังของประเทศอังกฤษ ได้รวบรวม 6 เหตุผล ที่ “เดอะ ฟ็อกซ์” มีโอกาสที่จะสร้างประวัติศาสตร์เลวร้ายเหมือน “เรือใบสีฟ้า” เมื่อ 79 ปีที่แล้ว ดังนี้

1. หลุมดำที่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ทิ้งไว้

 

การเสีย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ไปให้เชลซี คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้พวกเขาต้องพบกับความยากลำบากเช่นนี้ นับตั้งแต่กลับคืนสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งในฤดูกาล 2014-15 "จิ้งจอกสยาม" เก็บได้ 63 แต้ม จาก 63 เกม เมื่อไม่มีก็องเต้ ขณะที่เก็บได้ถึง 80 คะแนน จาก 37 นัด เมื่อมีห้องเครื่องทีมชาติฝรั่งเศสลงสนาม

จุดเด่นของเขาคือ การเข้าเสียบสกัดบอล ที่ทำสถิติมากกว่านักเตะทุกคน ตลอดการค้าแข้ง 2 ฤดูกาลของเขา แต่การที่ปราศจากก็องเต้ในการชะลอเกมคู่แข่ง เลสเตอร์ ทำผลงานได้ไม่ดีนักในระบบ 4-4-2 และไม่สามารถป้องกันเกมบุกของคู่แข่งได้

2. ฮูธ และ มอร์แกน เล่นได้ย่ำแย่

 

เกมล่าสุดที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โรเบิร์ต ฮูธ มีส่วนผิดพลาดในจังหวะเสียประตูแรกให้ "ปีศาจแดง" ขณะที่ คริส มอร์แกน หยุด ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ไม่อยู่ หลัง คริสเตียน ฟุคส์ ตัดลูกเปิดไม่สำเร็จ และฟูลแบ็กชาวออสเตรีย ยังมีส่วนผิดพลาดกับการเสียประตูที่ 3 อีกด้วย

แกรี่ เนวิลล์ นักวิจารณ์ของ Sky Sports ระบุว่า "ถ้านักเตะแต่ละคน เริ่มคิดเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นของตัวเอง มันอาจเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย นักเตะที่มีประสบการณ์ 3 คน ฮูธ, มอร์แกน และ ฟุคส์ มีฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ พวกเขาเล่นเกมรับได้เลวร้ายอย่างยิ่ง"

3. วาร์ดี้ และ มาห์เรซ ฟอร์มตก

 

นับตั้งแต่เปลี่ยนปฏิทินมาเป็นปี 2017 เกมรุกก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ เลสเตอร์ ยังยิงประตูในพรีเมียร์ลีกไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว เจมี่ วาร์ดี้ ยิงแฮตทริกแรกในอาชีพค้าแข้งสำเร็จในเกมชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนธันวาคม แต่ยิงไม่ได้ 23 จาก 24 เกมหลังที่ลงสนามให้ "จิ้งจอกสยาม"

ขณะที่ริยาด มาห์เรซ ไม่อยู่ในฟอร์มสุดยอดเหมือนกับที่เคยทำได้เมื่อซีซั่นที่แล้ว ราวกับว่าบรรดากองหลังคู่แข่งอ่านทางบอลของเขาออกหมดแล้ว โดยสถิติบ่งบอกว่า ซีซั่นนี้แข้งชาวแอลจีเรีย เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งสำเร็จลดลงมากเกินกว่าครึ่ง เมื่อเทียบกับฤดูกาลที่แล้ว

4. ผู้เล่นใหม่ช่วยทีมไม่ได้เลย

 

บรรดาผู้เล่นใหม่ของเลสเตอร์ ต่างช่วยกันสร้างผลงานได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน อิสลาม สลิมานี่ กองหน้าชาวแอลจีเรียรายนี้ สถิติการยิงประตูของเขาช่วยให้ทีมเก็บได้เพียงแค่ 5 คะแนน แต่ดูเหมือนเขาจะได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทัพไม่ดีมากพอ แถมต้องไปรับใช้ชาติช่วงเดือนมกราคมด้วย

คนอื่นๆ อย่างหลุยส์ เอร์นานเดซ ถูกปล่อยให้กับ มาลาก้า ในช่วงตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา, นอมปาลีส เมนดี้ ประสบปัญหาอาหารบาดเจ็บ แต่ถึงแม้ว่าจะฟิต ก็ยังไม่สามารถทดแทนก็องเต้ได้ ส่วนอาเหม็ด มูซ่า ยิงประตูในลีกไม่ได้มา 11 นัดแล้ว

5. นักเตะภายในทีมมีปัญหา?

 

มีรายงานว่านักเตะในทีมเริ่มไม่มีความสุข และหมดความเชื่อมั่นในแท็กติกและการจัดทีมของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ กุนซือชาวอิตาเลียน ขณะที่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นายทวารชาวเดนมาร์ก กล่าวว่า "ซีซั่นนี้เราทำได้ไม่ดีพอ หลายปัจจัยทำให้มันเป็นแบบนั้น"

"แต่ฤดูกาลนี้มันไม่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น มันถึงเวลาสำหรับพวกเราทุกคนในการลุกขึ้นยืนและเริ่มนับหนึ่ง เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเราจะลงท้ายด้วยการตกชั้น"

6. รานิเอรี่ ยังแก้ปัญหาไม่ได้

 

รานิเอรี่ กำลังหาทางแก้ไขปัญหา แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าเขาจะทำได้ อดีตกุนซือเชลซีพยายามเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆจากซีซั่นที่แล้วให้น้อยที่สุด เขาทำให้นักเตะมีความสุข และให้อิสระตราบเท่าที่พวกเขาแสดงออกมา แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างออกมาไม่ดีอย่างที่หวัง

การปรับมาใช้ระบบ 4-5-1 หรือแม้กระทั่งกองหลัง 3 ตัวไม่ประสบความสำเร็จ เขาต้องรีบทำอะไรสักอย่าง เพื่อแสดงให้เห็นว่า เขาคือคนที่เหมาะสมกับสถานการณ์แบบนี้

ต้องรอดูกันว่า เคลาดิโอ รานิเอรี่ และชาวคณะแข้งจิ้งจอกสยาม จะต่อสู้เพื่อฝ่าวิกฤติในการลุ้นหนีตกชั้น อีก 14 นัดที่เหลืออย่างไร

ไม่ใช่ว่าฟอร์มเทพในถ้วยยุโรป แต่ตอนจบฤดูกาลร่วงตกชั้น นะครับ เจ้านายยย...