นาสรี่ตัวสุดท้ายของเรือใบ???โดย..ดามัน

บอร์ดแมนเชสเตอร์ ซิตี้ต้องการทีมที่สมบูรณ์แบบ โรแบร์โต้ มันชินี่ ก็ต้องการลูกทีมที่ลงตัวสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น นั่นเพราะอำนาจเงินอยู่ในมือสามารถมองหาความเป็นไปได้ในเรื่องดังกล่าวได้ง่ายขึ้น เป็นใครก็ต้องการความสมบูรณ์แบบทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามที

เพราะฉะนั้น ขุมกำลังของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงยังคงไม่เป็นที่พอใจของฝ่ายบริหาร รวมทั้งตัวมันชินี่เอง เรื่องหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะได้รับการแก้ไขในระดับหนึ่งแล้วก็คือมันชินี่ยอมเปลี่ยนแนวคิดเดิมที่ฝังหัวมาตลอด

การเล่นแบบเซฟเอาไว้ก่อน ออกนอกบ้านขอแค่ไม่แพ้ก็โอเค ในบ้านไม่จำเป็นต้องดันเกมเดินหน้าตลอด แค่ประตูเดียวก็น่าพอใจ ดูเหมือนว่าจะใช่ในระดับหนึ่ง แต่เรือใบสีฟ้าเสียแต้มเพราะแนวคิดนี้มากมายทีเดียวในฤดูกาลที่ผ่านมาขอแค่เจ๊าก็พอกลายเป็นเจ๊งไปเลย ในขณะที่ประตูเดียวเกินพอกลายเป็นเจ๊าไปซะงั้น แต้มหล่นแบบไม่น่าจะเกิดขึ้น

มันชินี่เปลี่ยนแปลงสไตล์อิตาเลี่ยนของตัวเองให้เข้ากับยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในพรีเมียร์ ลีก ต้องเปิดเกมรุกมากยิ่งขึ้น ยิงได้ก็ยิงไปเรื่อยๆเดินหน้าไปเรื่อยเพื่อความชัวร์

เกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะเฉือนชนะโบลตัน 3-2 แต่เกมของเรือใบได้พิสูจน์กันในระดับหนึ่งว่ามีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น มีความทะเยอทะยานมากยิ่งขึ้น แปลกหูแปลกตาไปจากเดิม

แน่นอนว่าเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะผลงานตระการตาของดาวิด ซิลบา ต้องยอมรับว่าเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างสรรค์เกมของทีมเรือใบ และซิลบาให้มากกว่านั้นคือสกอร์

อย่างไรก็ตาม เราเห็นชัดเจนว่าแม้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเน้นเกมรุกมากขึ้น แต่ยังมีความฟุ่มเฟือยในการใช้โอกาส ยังคงอับจนกับบางจังหวะ รวมทั้งเกมรับที่ยังคงสับสนวุ่นวายให้เห็น

นั่นทำให้โรแบร์โต้ มันชินี่ ยังคงเน้นหลังเกมทันที ต้องมีนักเตะเข้ามาเพิ่มอีกแน่นอน แม้ว่าจะได้ประตูถึง 7 ประตู จาก 2 นัด เรียกว่ายังต้องการเติมทั้งรุกทั้งรับเข้ามาเพิ่ม หนึ่งในนั้นเดินหน้ากันเต็มตัวแล้วก็คือซาเมียร์ นาสรี่ ที่เดินทางไปตรวจร่างกายเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

เห็นซาเมียร์ นาสรี่ เล่นให้กับอาร์เซนอลนัดเจอลิเวอร์พูล ไม่เซอร์ไพรส์เลยว่าทำใมมันชินี่ถึงต้องการตัวมากๆ และบ่งบอกชัดเจน อยากได้ตัวเข้ามาร่วมทีมตั้งแต่ตลาดเปิดวันแรก

แม้ว่าจะหวาดหวั่นกับการตัดสินใจของอาร์แซน เวนเกอร์ ที่อาจจะยอมหักด้วยการส่งนาสรี่ลงเล่นในถ้วยยุโรปจนติดคัพไท ทว่าก่อนเกมกับอูดิเนเซ่เวนเกอร์ให้สัมภาษณ์นาสรี่จะย้ายทีมและจะไม่มีชื่อในนัดเยือนอูดิเนเซ่

เวนเกอร์ย้ำว่าคิดถึงแค่เกมในสนามอย่างเดียวคงไม่ได้ ธุรกิจต้องมาควบคู่กันด้วย นักเตะที่เหลือสัญญาแค่ปีเดียว จบฤดูกาลนี้ก็ย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัว แต่ขายตอนนี้ได้ราคามหาศาลมันคงต้องเลือกที่จะขายเอาไว้ก่อน

บางคนถึงกับออกมาโวยวายว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โง่และบ้าเกินไปกับการทุ่มเงินขนาดนั้น รออีกนิดไปทำสัญญาใจเอาไว้ก่อน แล้วดึงตัวมาร่วมทีมฤดูกาลหน้าคุ้มค่ากว่าเยอะ

แต่มันชินี่ไม่อยากรอ และบอร์ดของเรือใบก็ไม่ต้องการ เพราะถึงช่วงเวลานั้นไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แค่ยอดที่ยอมทุ่มเงินนักเตะใกล้หมดสัญญาอย่างนาสรี่ก็ยังมีข่าวผีแดงพร้อมที่จะตัดหน้าแบบปล้นกันกลางวันแสกๆด้วยการฉกตัวนาสรี่ไปจากเรือใบ

ทว่าทำใมถึงยืดเยื้อมาจนนาทีนี้ เป็นเรื่องที่ถกเถียงกัน อาร์แซน เวนเกอร์ ในความคิดของแฟนบอลตกเป็นจำเลยมาตั้งแต่ต้น เพราะรู้ดีว่าทีมต้องเสียนาสรี่ตั้งแต่จบฤดูกาลที่มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสปฏิเสธข้อเสนอของสโมสรที่จะขึ้นค่าเหนื่อยให้เป็น 90,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ในสัญญาฉบับใหม่

แต่ที่นอกเหนือการตัดสินใจของเวนเกอร์และหลายคนเชื่อว่ามีส่วนสำคัญนั่นก็คือบรรดาเอเยนต์นักเตะ ที่ต้องการเปอร์เซ็นต์จากการย้ายทีมครั้งนี้มากยิ่งขึ้น ทำให้เรื่องราวยืดเยื้อจนวุ่นวาย

ถ้าหากว่านาสรี่ได้ดูเกมของแมนเชสเตอร์ ซิตี้จาก 2 นัดที่ผ่านมา คงเห็นแล้วว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปในเรื่องของเกมรุก นักเตะกระหายกันมากขึ้น สภาพร่างกายฟิตมากขึ้น เล่นแบบช่วยเหลือเหมือนรีดสปิริตออกมาได้อีกครั้ง

ความรู้สึกของมันชินี่ต่อการพยายามดึงนาสรี่เข้ามาร่วมทีมก็คือ เรือใบต้องพึ่งพาอาศัยดาวิด ซิลบามากเกินไปซะแล้ว ถ้าวันไหนเกิดเจ็บขึ้นมาหรือว่าต้องหายหน้าหายตาไปจากทีมเพราะอะไรก็แล้วแต่ คุณภาพโดยรวมจะตกลงทันที

แต่ถ้ามีนาสรี่เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระ กระจายการเล่นออกไป นั่นยิ่งเพิ่มออพชั่นให้กับทีม ระบบ 4-2-3-1 ถูกจัดเอาไว้เรียบร้อยแล้วเข้ามาเสียบได้เลย

หัวหอกคนเดียวเป็นหน้าที่ของเอดิน เซโก้ ที่ฟอร์มกำลังดี หลังจากก่อนหน้านี้ไม่มีความมั่นใจเอาซะเลย 3 ตัวรุกที่ยืนอยู่หลังเซโก้ ใส่ชื่อลงไปนาสรี่-อาเกโร่-ซิลบา

มิดฟิลด์ตัวรับคือยาย่า ตูเร่กับไนเจล เดอ ยอง ดูหรูหราทีเดียว ยิ่งถ้าเหลือบดูอะไหล่ข้างสนามยิ่งเห็นความแข็งแกร่งชัดเจน เพราะมีทั้งคาร์ลอส เตเบซ,มาริโอ บาโลเตลลี่,อดัม จอห์นสัน,แกเร็ธ แบร์รี่,เจมส์ มิลเนอร์

ถ้าเกมรับเหนียวได้ใจกว่านี้อีกหน่อยเรือใบสีฟ้าเป็นทีมที่ดูไม่จืดแน่นอน นาสรี่ใกล้เคียงกับซิลบา ที่มีทั้งการสร้างสรรค์เกม การพาบอลลุยไปเองรวมทั้งการยิงประตูคู่แข่ง

เพราะฉะนั้น นี่คือการปลดปล่อยของมันชินี่อย่างแท้จริง นอกจากนี้นาสรี่สามารถที่จะเล่นได้ทั้งแนวไม่ว่าจะซ้าย,ขวาหรือว่าตรงกลางซึ่งอยู่หลังหอกเดี่ยวของทีม

ถ้าเป็นแบบนี้จริง แกเร็ธ แบร์รี่,เจมส์ มิลเนอร์และอดัม จอห์นสัน จะมีเกมให้เล่นน้อยลงไปกว่าเดิมอีกเยอะ แบร์รี่กับจอห์นสัน อาจจะยังมีสิ่งที่ทีมต้องการ แต่กับมิลเนอร์อาจจะยากมากกว่าทั้ง 2 คน

สำหรับคาร์ลอส เตเบซ นาทีนี้คงต้องบอกว่าน่าจะเก็บตัวเอาไว้ต่อไป แล้วไปหาโอกาสปล่อยตัวอีกทีในเดือนมกราคม แต่ถ้าถึงตอนนั้นมีโอกาสลุ้นหลายแชมป์จริงๆจังๆก็อาจจะเก็บตัวเอาไว้แล้วขายซัมเมอร์หน้า มีเงินจ่ายค่าเหนื่อยซะอย่างใครจะทำไม

อีกเพียงก้าวเดียวคือเกมรับที่มันชินี่พร้อมขยับในช่วงท้ายนี้ ถ้าทุกอย่างเป็นไปเหมือนที่คาดหวังเอาไว้คือให้เกมรับเหนียวได้ใจไม่สับสนเหมือนที่ผ่านมาน่าจะได้ลุ้นแบบมีความหวังแจ่มชัดขึ้น

เรื่องโดย "ดามัน"

ขอบคุณเนื้อหาจากคอลัมน์ ทดเจ็บ3นาที