"ความบันเทิงที่เอติฮัด"

"ความบันเทิงที่เอติฮัด"

"ความบันเทิงที่เอติฮัด"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ โมนาโก เป็นการเจอกันของ 2 ทีม ที่มีเกมรุกน่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ในอันดับต้นๆของยุโรป

คาดเดาได้เลยว่า ทั้งคู่จะต้องเปิดเกมรุกบุกแหลกแหกด่าน ตามสไตล์ถนัด แบบไม่กลัวใครทั้งนั้น และผลลัพธ์ที่ออกมา กลายเป็น 8 ประตู ที่คุ้มค่ากับการนั่งชมตลอด 90 นาที

ทีมสีฟ้าแห่งแมนเชสเตอร์ ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า วางระบบ 4-1-4-1 ยาย่า ตูเร่ เป็นมิดฟิลด์ตัวรับ ส่วนเกมรุก เมื่อไม่มีกาเบรียล เฮซุส ก็เลยใช้ เซร์คิโอ อเกวโร่ เป็นหน้าเป้า

ฟากผู้มาเยือน เลอันโดร จาร์ดิม เทรนเนอร์ทีมจ่าฝูงลีกเอิง เจ้าของสถิติเกมรุกยิงเกินร้อยตุงรวมทุกรายการในซีซั่นนี้ ใช้บริการ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าจอมพลิ้ววัยแค่ 18 ปี ลงล่าตาข่ายเป็นตัวจริง

 643664568.jpg

เกมในครึ่งแรก เป็นโมนาโก ที่เปิดฉากใช้การเพรสซิ่งกดดันคู่แข่ง และมีโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่า กระนั้นแนวรับก็เปิดช่องว่างให้ซิตี้ ลุ้นยิงประตูพอๆกัน

ผ่านไป 25 นาที โอกาสบุกของซิตี้ เลรอย ซาเน่ ปีกซ้าย โชว์ความพลิ้ว ล็อกหลบผู้เล่นโมนาโก 2-3 คน ทำชิ่งกับซิลบา 1 จังหวะ ก่อนที่ซาเน่ จะแอสซิสต์ให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่งยิงเข้าไป ซึ่งดูเหมือนว่าจังหวะนี้อาจจะล้ำหน้าด้วยซ้ำ

แต่ดีใจได้ไม่นาน วิลลี่ กาบาเยโร่ ที่อุตส่าห์แย่งตัวจริงจาก เคลาดิโอ บราโว่ พยายามจะเซ็ตบอลเพื่อเปิดเกม แต่พลาด กลายเป็นโมนาโกได้บุก ฟาบินโญ่ เปิดบอลไปให้ราดาเมล ฟัลเกา โหม่งเต็มๆเป็นประตู

อีกไม่กี่นาทีต่อมา มีจังหวะปัญหา เมื่อกุน อเกวโร่ ล้มลงในเขตโทษ นักเตะเรือใบพยายามฟ้องเอาจุดโทษ แต่กลายเป็นว่า ศูนย์หน้าฟ้า-ขาว รับใบเหลืองข้อหาพุ่งล้มซะงั้น

 643523688.jpg

ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที ฟาบินโญ่ ก็แอสซิสต์ครั้งที่สอง ให้เอ็มบัปเป้ โชว์ความพลิ้ว หลุดเข้าไปยิงประตูแบบสุดสวย ลูกนี้จอห์น สโตนส์ และ นิโคลัส โอตาเมนดี้ แนวรับซิตี้ รับผิดชอบร่วมกัน

และครึ่งหลัง ความหฤหรรษ์ก็เริ่มขึ้น เมื่อโมนาโกได้จุดโทษ แต่นายทวารเรือใบก็แก้ตัว เซฟลูกโทษของฟัลเกาได้สำเร็จ จากนั้นไม่นาน ซิตี้ ตีเสมอเป็น 2-2 ความผิดพลาดของ ดานิเยล ซูบาซิช ที่ทำซองแตก บอลลอดเข้าประตู

ทว่า โมนาโก กลับขึ้นนำ 3-2 ผู้เล่นแมนฯ ซิตี้ เปิดช่องว่างมากเกินไป เลยโดนโต้กลับ สโตนส์ กับ โอตาเมนดี้ พลาดอีกแล้ว เลยโดนดาวยิงโคลัมเบียแก้ตัว กระดกบอลข้ามหัวกาบาเยโร่ ตุงตาข่าย

643781546.jpg

และในช่วง 20 นาทีสุดท้าย กลายเป็นว่า แมนฯ ซิตี้ ครองเกมเหนือกว่า และมาได้เพิ่มอีก 3 ประตู โดยใช้เวลาแค่ 12 นาที

ลูกที่ 3 และ 4 จากจังหวะเตะมุม ส่วนประตูปิดท้าย กุน อเกวโร่ ใจกว้างเป็นแม่น้ำ ไม่เลือกที่จะยิงเอง ตัดสินใจแอสซิสต์ให้ เลรอย ซาเน่ สังหารเข้าไป

ช่วงเวลาที่เหลือ จาร์ดิม จัดการเปลี่ยนตัวแก้เกม เพื่อบุกหวังทำประตูเพิ่ม เอ็มบัปเป้ ที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมในนัดนี้ ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วง 10 นาทีสุดท้าย

จบเกม สกอร์บอร์ดหยุดอยู่ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-3 โมนาโก พร้อมกับใบเหลืองกระจุยกระจายถึง 10 ใบ มีสิทธิ์เข้าทำเนียบสุดยอดเกมลูกหนังแห่งปี 2017 ได้อย่างแน่นอน

643532426.jpg

ซึ่งถ้าใครไม่ได้ชมเกมเมื่อคืนวันอังคาร ถือว่า “พลาด” อย่างแรง แต่ก็ขอแนะนำว่า ลองไปหาดูไฮไลท์ย้อนหลังแบบเต็มเกมอีกครั้ง ก็แล้วกัน

แน่นอนครับ 8 ลูกในเกมนี้ คนดูอย่างเราๆ ท่านๆ มีความสุข แต่คนที่จะอยู่ไม่สุขคือ กวาร์ดิโอล่า และจาร์ดิม ที่ต้องแก้ไขปัญหาความผิดพลาดในเกมรับโดยด่วน

ทั้งสองทีม มีเกมรุกระดับเวิลด์คลาส แต่ถ้าเกมรับยังระดับเด็กอนุบาล เต็มไปด้วยความผิดพลาดแบบนี้ เห็นทีจะต้องรอแชมป์ยุโรปต่อไป ซะละมั้ง ???

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook