เป็นกำลังใจให้ "น้องเมย์ รัชนก" ต่อไป

เป็นกำลังใจให้ "น้องเมย์ รัชนก" ต่อไป

เป็นกำลังใจให้ "น้องเมย์ รัชนก" ต่อไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สัปดาห์ที่แล้วนอกจากเรื่องของฟุตบอลต่างประเทศที่ต้องติดตามแล้ว ยังมี “แบตมินตัน” รายการใหญ่อย่าง “ออล อิงแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ” ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษซึ่งมีนักแบตมินตันไทยเข้าร่วมการแข่งขัน

ไม่ว่าจะประเภท “ชายเดี่ยว” ที่เจ้าสอง “ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข” สามารถปราบนักเทนนิสดีกรีอันดับ 3 ของโลกอย่าง “เฉิน หลง” ได้ในรอบ 16 คนสุดท้าย เพราะที่ผ่านมา 11 ครั้งในการเจอกันเจ้าสองแพ้รวดจึงเป็นการปลดล็อกเอาชนะนักแบตมินตันที่ว่าเป็นรองเพียง “ลี ชอง เว่ย” จากมาเลเซียแชมป์รายการนี้ กับ “หลิน ตัน” จากจีน แม้ว่าจะไปพลาดท่าแพ้ “ซู เทียน เฉิน” จากไต้หวันในรอบ 8 คนสุดท้าย

ขณะที่ประเภท “หญิงเดี่ยว” น้องเมย์ “รัชนก อินทนนท์” นักแบตมินตันของไทยก็กลับมาโชว์ฟอร์มได้สุดยอดสามารถผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้แถมยังล้ม “คาโรลิน่า มาริน” คู่ปรับสำคัญจากสเปนได้อีกด้วย หลังจากก่อนหน้านี้เจอปัญหาต่างๆไม่ว่าจะเรื่องของสภาพร่างกายและสภาพจิตใจมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

ถ้าจำกันได้ก่อนที่ฟอร์ม “น้องเมย์ รัชนก” จะหลุดไปดื้อๆจากอาการบาดเจ็บ หลังจากเจ้าตัวสามารถคว้า 3 แชมป์ระดับซุปเปอร์ซีรีย์ติดที่ “อินเดีย” “มาเลเซีย” และ “สิงค์โปร์” เมื่อปีที่แล้วในช่วงเดือนเมษายนและจากคะแนนสะสมในช่วงนั้นยังกลายเป็นนักแบตมินตันไทยคนแรกที่ขึ้นไปเป็นมือ 1 ของโลก

อย่างไรก็ตามพอมา “โอลิมปิก ที่บราซิล” ช่วงกลางปีก็เจ้าฤทธิ์อาการบาดเจ็บจนต้องตกรอบอย่างรวดเร็ว รวมทั้งต้องถอนตัวในรายการอื่นๆหลังจากนั้นและยังต้องไปรักษาทั้งข้อมือและขา

แน่นอนว่าช่วงนั้น น้องเมย์ เจอความกดดันมหาศาลจาก “คนไทย” ด้วยกันเอง ไม่ว่าจะสื่อมวลชนหรือแฟนกีฬาแบตมินตัน จนทางสมาคมแบตมินตันแห่งประเทศไทยและต้นสังกัดของน้องเมย์ “บ้านทองหยอด” ต้องคอยประคบประหงมตัวน้องทั้งร่างกายที่บาดเจ็บและสภาพจิตใจที่เจอผลกระทบจากความกดดัน

ส่วนตัวติดตามข่าวตคราวและเรื่องของ “น้องเมย์” มาตลอดจึงทำให้อดเป็นห่วงไม่ได้เหมือนกันว่าจะเจ้าตัวจะใช้เวลานานมากน้อยแค่ไหนในการกลับมาอีกครั้ง เพราะเป้าหมายของเจ้าตัวในการเล่นแบตมินตัน สามารถประสบความสำเร็จในการเป็น “แชมป์โลก” กับ “มือ 1 ของโลก” ขาดเพียงแค่ “เหรียญทองโอลิมปิก” เพียงอย่างเดียวซึ่งถึงตรงนี้ต้องรออีก 3 ปีที่ “โตเกียว” ในปี 2020 (โอลิมปิก แข่ง 4 ปีหน)

สำหรับน้องเมย์ สามารถทะลุผ่านเข้าชิงชนะเลิศ “ออลอิงแลนด์” เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ของเจ้าตัว (เคยเข้าชิงในปี 2013 แต่แพ้ “ทิเน่ บัวร์” จากเดนมาร์ก) น่าเสียดายที่ไปเจอ “ไท่ ซื่อ หยิง” จากไต้หวันที่กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มพีคพอดีในฐานะมือ 1 ของโลกคนปัจจุบันแพ้ไป 1-2 เกม (16-21,20-22) ทั้งๆที่คู่นี้เจอกันผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะมาตลอด โดยก่อนเกมนี้ น้องเมย์ชนะ 7 ครั้ง “ไท่ ซื่อ หยิง” ชนะ 6 ครั้ง

มาถึงตรงนี้ “น้องเมย์” ของคนไทยทุกคนคงไม่ใช่ “ดาวรุ่ง” ที่เรารู้จักต่อไปแล้ว เพราะมองว่าเธอคือ “ราชินีแบตมินตันของไทย” ด้วยอายุที่มากขึ้น ประสบการณ์ที่มากกว่าเดิม ความเยือกเย็น ความสุขุมในการเล่นที่ต่างจากตอนเป็นดาวรุ่ง บวกกับการวางแผนของทีมงานน้องเมย์ที่จะจัดโปรแกรมให้เหมาะสมและเอื้อประโยชน์กับสภาพร่างกายเจ้าตัว ไม่ต้องแข่งมากรายการจนเกินไป

เชื่อว่า “น้องเมย์” กลับมาครั้งนี้ “คนไทยทั้งประเทศมีความสุข” บางทีอาจจะมากกว่าการได้แชมป์ซะอีก เพราะความสำเร็จของ “รัชนก อินทนนท์” ที่ผ่านมาในอดีตก็ถือว่าเธอเป็น “อีกหนึ่งตำนานในวงการกีฬาไทย” ไปแล้ว สิ่งเดียวที่แฟนกีฬาไทยจะทำให้เธอได้คือ เป็นกำลังใจให้น้องเมย์ต่อไป ครับ

แบงค์ พิพัช

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook