เช็กบิลแมนเชสเตอร์...???

เช็กบิลแมนเชสเตอร์...???

เช็กบิลแมนเชสเตอร์...???
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บอลคู่ใหญ่ปัญหาเยอะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นประจำจนกลายเป็นเรื่องปกติ แมนเชสเตอร์ ซิตี้เจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดย่อมมีประเด็นมากมายทั้งในระหว่างการแข่งขันและหลังเกมการแข่งขัน รอบต่อไปที่ผีแดงจะต้องไปเยือนถิ่นแอนฟิลด์ของลิเวอร์พูลก็คงต้องมีหลากหลายประเด็นอีกเช่นกัน

อย่างน้อยๆเรื่องราวระหว่างปาทริซ เอฟร่า กับ หลุยส์ ซัวเรซ อาจจะถูกแฟนบอลหยิบยกเอามาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้งก็ได้ นี่ยังไม่รวมเรื่องราวที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างเกม เอาเถอะจะอย่างไรก็ตามทีนี่คือเรื่องราวคือเหตุการณ์ที่สามารถสร้างสีสันสร้างความน่าสนใจให้เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นเสน่ห์ของฟุตบอลก็แล้วกัน

คริส ฟอย...

คงต้องเริ่มเปิดประเด็นกันด้วยการทำหน้าที่ตัดสินเกมของคริส ฟอย ในแมตช์ที่ซิตี้ดวลกับผีแดง โดยปกติแล้วผู้ตัดสินจะพยายามหลีกเลี่ยงการตัดสินที่เป็นปัญหาคาบลูกคาบดอก ก่อให้เกิดการโต้เถียงกัน ตัดสินแบบไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งตามมา

ทว่านั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไหร่ จำเป็นต้องใช้ผู้ตัดสินที่นิ่งพอและมีประสบการณ์มากพอต่อเกมใหญ่ๆ
               
การไล่แวงซ็องต์ กอมปานี กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกจากสนามตั้งแต่ช่วงต้นๆของการแข่งขันทำให้สถานการณ์ต่างๆของทั้ง 2 ทีมเปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่ว่าจะไล่ใครออกจากสนามในช่วงต้นเกมไม่ได้

แต่เกมแบบนี้ต้องละเอียดถี่ถ้วนอย่าตัดสินใจแบบตกอกตกใจหรือตัดสินไปตามกระแส ตัดสินใจไปตามการกดดันของนักเตะในสนาม

แน่นอนว่าการเข้าบอลของแวงซ็องต์ กอมปานีไม่ได้พุ่งเข้าไปแบบต้องการขย้ำนานี่ให้แข้งขาหักกันไปเลย แต่เข้าบอลแบบควบคุมจังหวะของตัวเองได้ ตั้งใจเล่นบอลเพียงอย่างเดียว

ถ้าจะเปรียบเทียบการเข้าบอลของแฟรงค์ แลมพาร์ด ในนัดเจอวูล์ฟส์คนละเรื่องกันเลยซึ่งถือว่าแลมพ์โชคดีทีเดียวที่ยังคงรอดตัวไปได้ ทว่านั่นก็ทำให้เห็นถึงมาตรฐานที่แตกต่างกันไปของผู้ตัดสินแต่ละคนที่น่าจะอยู่บนมาตรฐานเดียวกัน
               
ใบเหลืองเป็นเรื่องที่น่าจะชักออกมาแจก แต่ก็เป็นใบแดงที่คริส ฟอย ตัดสินใจดึงออกมา ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเพียงเสี้ยววินาทีเหมือนกับยังลังเล สิ่งที่กระตุ้นการตัดสินใจของคริส ฟอย ก็คือเวย์น รูนี่ย์กับไมเคิล คาร์ริค ที่ยืนอยู่ใกล้ๆเข้าไปรุมกดดัน
               
นั่นทำให้โรแบร์โต้ มันชินี่ รู้สึกเดือดดาลทีเดียว ออกมาต่อว่าต่อขานรูนี่ย์ที่เข้าไปกดดันคริส ฟอย ให้แจกใบแดงกอมปานี และถือเป็นเรื่องที่พอจะพูดได้ว่าเป็นอีกแมตช์หนึ่งที่ผู้ตัดสินมีจังหวะการตัดสินใจที่ไม่คลีนมากพอถ้ารวมเอาจังหวะแฮนด์บอลของฟิล โจนส์เข้าไปด้วย

ริโอ เฟอร์ดินานด์...

ผลงานของอดีตท่านผู้นำดูจะเป็นเพียงการเอาตัวรอดไปแต่ละแมตช์เท่านั้น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าแท้ที่จริงแล้วริโอยังคงมีอาการบาดเจ็บซ่อนเร้นอยู่หรือเปล่า การเคลื่อนไหวจึงไม่ค่อยจะเป็นไปตามธรรมชาติสักเท่าไหร่ หรือว่าอายุอานามที่มากขึ้นทุกวันอย่าไปคาดฝันอะไรให้มากนัก
               
ริโอ พยายามที่จะกระตุ้นหรือตะโกนสั่งให้นักเตะกองหลังที่อยู่รอบข้างเข้ามาปกป้องตัวเอง เข้ามาช่วยเหลือตัวเอง เข้ามาช่วยแบ่งเบางานอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าริโอคือเป้าโจมตีของคู่แข่ง นั่นทำให้ต้องโวยวายมากหน่อย เรียกเพื่อนร่วมทีมเข้ามาช่วยตลอดเวลา

พอล สโคลส์...

การคัมแบ็กกลับมาของพอล สโคลส์ เรียกความสนใจได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เลิกเล่นไปพักใหญ่ เฟอร์กี้รู้ดีว่าปัญหาของทีมอยู่ตรงไหน และไม่สามารถหานักเตะได้อย่างใจในช่วงเวลาสั้นๆ นั่นทำให้ต้องหันกลับไปหานักเตะที่ทิ้งช่องว่างเอาไว้ให้กับทีมกลับมาเล่นอีกครั้ง เป็นการแสดงให้เห็นว่าเฟอร์กี้เชื่อมั่นในตัวสโคลส์มากแค่ไหน
               
ทว่าอย่าไปคาดหวังกันยาวเด็ดขาด สโคลส์ไม่สามารถอยู่ในสนามได้ตลอดรอดฝั่งทั้งเกมแน่นอน ประมาณว่าใจคิดได้แต่ขามันก้าวไปไม่ทัน และปัญหาใหญ่ของทีมขนาดนี้การคัมแบ็กกลับมาของสโคลส์ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ยิ่งระยะยาวยิ่งไม่ต้องคิด
               
อีกหน่อยเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คงเรียกตัวเอริค คันโตน่า,ไบรอัน ร็อบสันหรือรอย คีน กลับมาช่วยแก้ปัญหาให้กับทีม

ลินเดอการ์ด หรือ เด เกอา...

เชื่อได้เลยว่าปัญหานี้ยังคงคาใจไปอีกพักใหญ่ ไม่ว่าจะเลือกใครลงมาทำหน้าที่ เฟอร์กี้ก็ยังไม่ไว้ใจเหมือนเดิม และจะต้องเปลี่ยนกลับไปกลับมาแบบนี้อีกพักใหญ่อย่างแน่นอน
               
ลินเดอการ์ดยังคงออกอาการไม่นิ่งให้เห็นชัดเจน เซฟแต่ละจังหวะเหมือนยกภูเขาออกจากอกโล่งใจอย่างไรชอบกล ประมาณว่าเกือบไปแล้วตูอะไรแบบนั้น
               
นัดต่อไปของผีแดงต้องตามดูกันต่อจะเป็นคิวของเด เกอา อีกหรือเปล่า...

ไมกาห์ ริชาร์ดส์...

แข็งแกร่ง มุ่งมั่น กำลังวังชาเหลือเฟือ หลังจากกอมปานีโดนไล่ออกจากสนาม ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ต้องหุบเข้าไปยืนเป็นเซ็นเตอร์ 3 คนร่วมกับ สเตฟาน ซาวิช และ โจลีออน เลสค็อตต์
               
ริชาร์ดส์ทำหน้าที่ได้ดีเหลือเชื่อ แถมยังมีโอกาสมีจังหวะลุยขึ้นหน้าอีกต่างหาก ไม่รู้ว่าไปเอาเรี่ยวแรงขนาดนั้นมาจากไหน ถือเป็นออพชั่นที่ดีของโรแบร์โต้ มันชินี่ ที่นาทีนี้มีปัญหาเรื่องเซ็นเตอร์แบ็ก โคโล่ ตูเร่ ไปเล่นให้ทีมชาติ แวงซ็องต์ กอมปานี ติดโทษแบนเหลือเพียงซาวิชและเลสค็อตต์เท่านั้น

ริชาร์ดส์จึงน่าจะเป็นอีกออพชั่นหนึ่งของมันชินี่ หรือไม่อนาคตอาจจะเล่นคู่กับกอมปานีไปเลยก็เป็นได้

เซร์คิโอ อาเกโร่...

เวย์น รูนี่ย์ อาจจะเป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ทว่าอาเกโร่ของเรือใบก็มีฟอร์มที่จัดจ้านไม่แพ้กัน อาเกโร่เล่นเหมือนกับซิตี้มี 2 หัวหอกในเกมนี้ วิ่งไล่บอลในทุกจังหวะเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเล่นเพื่อทีม

เมื่อรวมกับผลงานของไมกาห์ ริชาร์ดส์และเจมส์ มิลเนอร์ ถือว่าพาซิตี้กลับมาไม่ให้อายกันเกินไปหลุดพ้นจากการโดนผีแดงถล่มอย่างสวยงาม

อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ...

เห็นลีลาการยิงฟรีคิกของโคลารอฟแล้วต้องถือว่านาทีนี้แทบจะเป็นนักเตะที่ยิงได้ดีที่สุดในพรีเมียร์ ลีก เลยทีเดียว ถ้าจุดยิงอยู่ในพิสัยได้ลุ้นทันที ในนัดนี้อาจจะเป็นคนทำเสียจุดโทษ

ทว่าด้วยลีลาของการยิงฟรีคิกลบร่องรอยของความผิดพลาดได้เป็นอย่างดี และการลุ้นแต่ละจังหวะสร้างความหนักอกหนักใจให้กับลินเดอการ์ดมากเหลือเกิน สังเกตจากสีหน้าและท่าทางของผู้รักษาประตูผีแดงได้ชัดเจน

               

โรแบร์โต้ มันชินี่...

คงต้องบอกว่ากุนซือเรือใบสีฟ้าคงมีอาการหวาดระแวงมากขึ้นตามลำดับ กับสถานการณ์ของทีม ยาย่า ตูเร่ และโคโล่ ตูเร่ ไม่อยู่ให้เลือกใช้งาน และถ้าอุทธรณ์ใบแดงของกอมปานีไม่สำเร็จ

อาจจะส่งผลต่อการทำงานของมันชินี่ไม่น้อย ไอ้ประเภทที่จะทุ่มเงินซื้อใครต่อใครเป็นว่าเล่นก็ใช่ว่าจะทำกันง่ายๆ ยูฟ่าเพ่งเล็งเรื่องการใช้เงินแบบไม่วางตา คงต้องเทขายกันหลายคนกว่าจะซื้อเข้ามาใหม่อีกครั้ง

เรื่องโดย "ดามัน"

คอลัมน์ ทดเจ็บ 3 นาที นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook