สปิริต เบลลามี่...???

สปิริต เบลลามี่...???

สปิริต เบลลามี่...???
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ว่าคาร์ลิ่ง คัพ จะเป็นประเด็นรองของทีมใหญ่ๆทั้งหลาย แต่ลิเวอร์พูลก็พยายามตะเกียกตะกายจนผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้สำเร็จ นั่นอาจเพราะว่าไม่รู้จะไปมองหาความสำเร็จใหญ่กว่านี้ได้ตรงไหน อะไรที่อยู่ใกล้ตัวคว้าเอาไว้ก่อน เพราะเบื้องหลังของถ้วยใบนี้คือขวัญและกำลังใจ

อาร์เซนอลเคยพลาดให้กับเบอร์มิงแฮมและสร้างความกังวลพร้อมข้อกังขาเอาไว้จนเนิ่นนานมาถึงนาทีนี้ หงส์แดงเห็นตัวอย่างมาแล้วไม่ควรปล่อยผ่านเหตุการณ์แบบนั้นให้เกิดขึ้น

การสร้างโอกาสยิงประตูแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-3 ครั้ง ใน 12 นาทีแรกถือว่านักเตะหงส์แดงตอบสนองต่อฟอร์มอันย่ำแย่ในนัดที่พ่ายให้กับโบลตัน พร้อมกับเสียงบ่นเสียงโวยวายดังๆผ่านสื่อของ เคนนี่ ดัลกลิช ที่ว่า ทำได้แค่นี้ก็ไม่คู่ควรกับสโมสร

ถ้าจะสร้างเรื่องราวที่ดีๆ สร้างประวัติศาสตร์ให้กับตัวเองและสโมสรต้องลงมือ ไม่ใช่แค่ฝันแล้วทำตัวตามสบายไม่ทะเยอทะยานที่มากพอ

นักเตะทุกคนกระตือรือร้นขึ้นมาทันตาเห็น...

เล่นกันอย่างมีวินัยและทุ่มเท ถ้าไม่แลกมันมาย่อมไม่มีทางได้รับความนับถือ...

เคร็ก เบลลามี่ เป็นตัวอย่างให้กับเพื่อนร่วมทีมและเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับการตำหนิติติงจากกุนซือในแมตช์ที่พ่ายให้โบลตันแบบหมดราศี

ในขณะที่เคนนี่ ดัลกลิช มีปัญหาเรื่องความทุ่มเทของนักเตะ โรแบร์โต้ มันชินี่ ก็มีปัญหาเรื่องพฤติกรรมของลูกทีม เอเยนต์ของมาริโอ บาโลเตลลี่ ออกมาพูดว่าถ้าบาโลเตลลี่โดนเอฟเอแบนกรณีที่ไปย่ำใส่สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ มิดฟิลด์ของสเปอร์สจะมองหาลู่ทางย้ายออกไปจากพรีเมียร์ ลีกซะเลย

โดยไม่มีความคิดที่จะให้คำปรึกษาในรายละเอียดที่คู่ควร การตัดสินใจลงโทษแบนบาโลเตลลี่ 4 นัดและเรือใบไม่อุทธรณ์ให้มีผลจบๆกันไปเลย

ทว่านั่นก็ทำให้ตัวเลือกในแดนหน้าเริ่มมีปัญหาให้เห็น แม้สกอร์ของทีมนี้สามารถคาดหวังได้จากนักเตะหลายคนก็ตาม ทว่าบาโลเตลลี่เป็นตัวเลือกที่ดีและสมควรโดนด่าถ้ายังคงสร้างเรื่องราวที่มีผลกระทบมาสู่ทีม

สถานการณ์ของเรือใบกำลังต้องการความเป็นปึกแผ่นเพื่อเป้าหมายใหญ่อย่างพรีเมียร์ ลีก มีนักเตะเจ็บบ้าง ไปรับใช้ชาติบ้าง พวกที่เหลืออยู่ต้องตอบสนองและต้องร่วมกันทำงานเพื่อความสำเร็จอย่างเต็มที่

ไม่มีการสร้างความผิดพลาดหรือสร้างโอกาสที่จะมีผลกระทบในด้านลบมาสู่ทีม ให้มันนิ่งๆเข้าไว้จะดีกว่ามีปัญหาตรงนั้น มีปัญหาตรงนี้เข้ามากวนใจกันอยู่ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตามทีการสตาร์ตของเรือใบด้วยการให้กุน อาเกโร่ หัวหอกที่ดีที่สุดของทีมไว้ข้างสนาม เหมือนจะตอกย้ำว่าถ้วยนี้สำหรับเรือใบต่อให้เข้ามาถึงนัดตัดเชือกก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากมายเล่นของใหญ่อย่างพรีเมียร์ ลีก ดีกว่า

ทว่าของเล็กๆน้อยๆอย่างคาร์ลิ่ง คัพ มันอาจจะเป็นตัวขับเคลื่อนเป็นอีกมุมมองของการกระตุ้นตัวเองในการไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ ลีก

พูดง่ายๆคาร์ลิ่ง คัพ คือรางวัลปลอบใจของทุกทีมนั่นเอง...

และถ้าเรือใบจะตั้งใจหรือเน้นให้ชัดเจนกว่าเดิมก็ไม่เสียหาย คาดหวังของใหญ่ เรื่องใหญ่ เกิดพลาดพลั้งขึ้นมาน้ำตาท่วมเมืองแน่นอน

มันชินี่ไม่มีโอกาสใช้งานบาโลเตลลี่ เลือกที่จะใส่ชื่อเอดิน เชโก้ ลงไปในสนามก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเชโก้กับการตามล่าหาสกอร์ในฤดูกาลนี้ทำได้ดีมากๆ ผิดแผกแตกต่างไปจากช่วงครึ่งหลังในฤดูกาลที่ผ่านมา ตอนนั้นแทบจะมองหาอนาคตไม่เจอ

มันชีนี่ต้องใช้บริการของอาเกโร่อยู่ดี ส่งลงสนามหลังจากพักครึ่งกันเลย ทว่านั่นก็เพื่อเป็นการพยายามแก้ไขความผิดพลาดในการตัดสินใจของตัวเอง

นอกจากสตาร์ตด้วยการวางตัวอาเกโร่ไว้ข้างสนามแล้ว มันโช่ยังวางตัว 3 เซ็นเตอร์แบ็กในแนวรับของตัวเองอีกด้วย โดยให้สเตฟาน ซาวิช เป็นแกนกลางของเกมรับ

ซาวิชเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างต่อเนื่อง ความมั่นใจหล่นหายไปเยอะ เขายังคงต้องการเวลาที่จะปรับตัวและพัฒนาตัวเองเพื่อพรีเมียร์ ลีก แต่สถานการณ์และการตัดสินใจของกุนซือ จำเป็นต้องทำหน้าที่ตรงแนวรับให้ดีที่สุด ช่วงเวลานี้ดีแค่ไหนของ ซาวิช คงได้เห็นกันแล้ว

ข้างสนามของเกมนัดนี้เราอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นโรแบร์โต้ มันชินี่ ทำท่าทางชูใบเหลืองหรือแดงให้กับนักเตะคู่แข่ง เป็นการเรียกร้องเป็นการกดดันผู้ตัดสินจนโดนเอฟเอ ออกมาเตือน

ทว่าการทำหน้าที่ของฟิล ดาวน์ ก็ยังคงเป็นปัญหาของมันชินี่ต่อไป แม้ไม่กดดันด้วยท่าชักใบแดง แต่ก็ไม่พอใจกับการตัดสินใจของฟิล ดาวน์ อยู่ดี โดยเฉพาะจังหวะปัญหาแฮนด์บอลหรือเปล่า หรืออะไรกันแน่ แต่ที่เกิดขึ้นคือลิเวอร์พูลได้จุดโทษและสตีเว่น เจอร์ราร์ด จัดการเรียบร้อย

นี่คือจุดเปลี่ยนจุดหนึ่งในเกม เพราะหลังจากนั้นลิเวอร์พูลกลับสู่โมเมนตั้มของตัวเองได้อีกครั้งหนึ่ง ไมกาห์ ริชาร์ดส์ พยายามถามข้อข้องใจกับฟิล ดาวน์ ประมาณว่าถ้าเข้าบอลแบบนั้นแล้วจะให้ทำอย่างไรเก็บไม้เก็บมือไว้ข้างลำตัวโดยฝืนธรรมชาติได้หรือเปล่า ทำให้ดูหน่อยซิ...

หลังจากบางคนไปเล่นแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ บางคนติดโทษแบนโดยเฉพาะแว็งซ็องต์ กอมปานีและมาริโอ บาโลเตลลี่ ดูเหมือนว่าเส้นทางของเรือใบไม่ค่อยจะตรงสักเท่าไหร่ เรื่องอะไรจะตามมาอีก นั่นคือสิ่งที่แฟนบอลอดคิดไม่ได้...

ในขณะที่การเข้าไปชิงชนะเลิศของหงส์แดงก็ยังคงสามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า นักเตะที่ซื้อหาเข้ามาด้วยราคาแพงที่สุดจะมีส่วนสำคัญอะไรมากมาย สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, ชาร์ลี อดัม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ โฆเซ่ เอ็นริเก้ ทั้งหมดออกสตาร์ต ทว่าแอนดี้ คาร์โรลล์ ยังคงถูกตรึงเอาไว้ข้างสนาม

แต่กลายเป็นว่าตัวที่ได้มาฟรีอย่างเคร็ก เบลลามี่ ที่แสดงนำ  และปั้นสปิริตของทีมให้เป็นรูปเป็นร่างตลอด 90 นาที แฟนบอลตบมือชื่นชมเป็นระยะ

และจบเกมต่างลุกขึ้นยืนชื่นชมเบลลามี่เป็นการส่วนตัวอีกครั้ง

เรื่องโดย "ดามัน"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook