เดือดท้ายเกม! "ผีแดง" 10 คนเอาอยู่บุกยันเจ๊า "เรือใบ" 0-0

เดือดท้ายเกม! "ผีแดง" 10 คนเอาอยู่บุกยันเจ๊า "เรือใบ" 0-0

เดือดท้ายเกม! "ผีแดง" 10 คนเอาอยู่บุกยันเจ๊า "เรือใบ" 0-0
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผลการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

คืนวันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน 2017

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด​

5 นาทีแรก สูสีกันอย่างชัดเจน ต่างมีโอกาสลลุ้นคนละครั้ง แต่ก็ยังไม่เฉียบคมพอทั้งสองทีม

นาทีที่ 8 ทีมเยือนได้ทำเกมรุกได้สวย จากจังหวะลากบอลแหวกแนวรับของมาร์กซิยาล แต่จังหวะผ่านบอลให้แรชฟอร์ด กลายเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน

นาทีที่ 9 เจ้าบ้านตอบโต้น่าได้สุดๆ จากจังหวะเปิดยัดเข้ากลางของเดอ บรอยน์ ให้ อเกวโร่ เข้าฮอสจ่อๆ บอลพุ่งชนเสาแรกหลุดออกหลังไป

นาทีที่ 13 เกมชะงักไปชั่วครู่จากจังหวะเข้าปะทะกันของแรชฟอร์ด และโอตาเมนดี้ จนหัวหอกทีมชาติอังกฤษได้รับบาดเจ็บ แต่ก็กลับมาเล่นต่อได้ไม่มีปัญหา

20 นาทีแรกผ่านไปอย่างรวดเร็ว เป็นเจ้าบ้านที่ครองบอลได้มากกว่า แต่จังหวะสุดท้ายยังหาได้น้อย ทีมเยือนวางเกมรับได้อย่างมีวินัย ตัดเกมได้แทบตลอด บอลส่วนมากอยู่บริเวณกลางสนาม ไม่ก็จบตรงหน้าเขตโทษของทั้งสองฝั่ง

นาทีที่ 21 แมนฯ ซิตี้ พยายามหาโอกาสจบสกอร์ เดอ บรอยน์ ลองยิงด้วยขวานอกเขตโทษ แต่บอลเบาเกินไปไม่ผ่านมือ เด เกอา

นาทีที่ 25 ทีมเยือนเกือบได้ประตูจากจังหวะแหวกแนวรับเจ้าบ้านมาทางซ้ายของมาร์กซิยาลก่อนเปิดเข้ากลาง เหมือนไม่มีอะไร แต่บราโว่ แทนที่จะรับ กลายเป็นปัดบอลมาตกหน้าเขตโทษ เอร์เรร่า ถลำไปนิดหนึ่งได้แค่แตะบอลให้มคิมาร์ยาน ยิงด้วยขวา แต่บราโว่ ยังแก้ตัวเซฟไว้ได้ทัน

นาทีที่ 29 จากลูกเตะมุม “เรือใบสีฟ้า” เล่นสั้น ซาบาเลต้า เปิดบอลเข้ากลางให้อเกวโร่ โหม่งบอลหลุดกรอบออกไป

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เป็นเกมที่มีโอกาสน้อย สู้กันด้วยแท็คติกบีบพื้นที่ให้คู่แข่งทำเกมได้ยากด้วยกันทั้งสองทีม

นาทีที่ 32 อเกวโร่ได้โอกาสยิงไกลเป็นครั้งที่สองในเกมนี้ ยังดีไม่พอจะผ่านมือของเด เกอา

นาทีที่ 34 เจ้าบ้านมาอีกชุด จากการเซตบอลอยู่หลายจังหวะ ก่อนจบด้วยการหาโอกาสกดด้วยขวาของอเกวโร่ แต่บอลไม่เข้ากรอบ

นาทีที่ 36 เกมเริ่มเป็นเจ้าบ้านขึงเกมเกมรุกได้แล้ว จังหวะนี้เป็นโคลารอฟ แบ็คซ้ายเติมขึ้นมายิงหวังให้เข้าเสาแรก แต่เด เกอา ยังพุ่งปัดออกหลังไปได้

นาทีที่ 39 แมนฯ ยูไนเต็ดได้โอกาสเซตเกมรุกขึ้นมาบ้างแต่จนถึงตอนนี้ผ่านมาเกือบจบครึ่งแรก แนวรุกทีมเยือนสร้างโอกาสได้เพียง 1-2 ครั้งเท่านั้นที่ได้ลุ้นประตู

นาทีที่ 43 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้โอกาสยิงครั้งแรกของเกมนี้ แต่จังหวะยิงด้วยขวาบอลก็ยังไม่เข้ากรอบ

นาทีที่ 45 โอกาสที่ดีที่สุดในครึ่งแรกเป็นของแมนฯ ยูไนเต็ด จากจังหวะฟรีคิกระยะ 30 หลาเยื้องไปทางซ้าย แรชฟอร์ด เปิดเข้ากลางบอลลอยไปถึงเสาสอง และเป็นมคิมาร์ยานได้โหม่งโล่งๆ ไม่มีคนประกบแล้วแต่เจ้าตัวโหม่งหลุดกรอบไปแบบน่าเสียดาย

ทดเวลาบาดเจ็บหนึ่งนาที ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0 – 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ครึ่งหลังลงสนามยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นจากใน 45 นาทีแรก

นาทีที่ 47 เจ้าบ้านทักทายก่อนจากจังหวะยิงของสเตอร์ลิง แต่บอลยังเบาเกินไปเข้ามือของเด เกอา

นาทีที่ 49 มาอีกชุดสำหรับเจ้าบ้าน คราวนี้เป็นอเกวโร่ได้แหวกแนวรับทีมเยือนเข้าไปยิง แต่ก็จบลงที่มือของเด เกอา เช่นเดิม

10 นาทีแรกของครึ่งหลังเป็นเจ้าบ้านที่ยังคงพยายามเดินหน้าบุกหวังยิงประตูแรกของเกมนี้ให้จงได้ แต่ก็ยังเจาะแนวรับทีมเยือนไม่เข้า

นาทีที่ 57 ซาเน่ ได้บอลลากเข้าเขตโทษก่อนเจอสกัดล้มลง ก่อนปะทะกับเอร์เรร่า ล้มลงในเขตโทษ แต่กรรมการไม่เป่าให้เป็นจุดโทษ

นาทีที่ 58 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกรอบ คราวนี้เป็นเดอ บรอยน์ ยิงนอกเขตโทษแต่บอลแฉลบแนวรับปีศาจแดงหลุดออกหลังไป

นาทีที่ 60 โอกาสมาเป็นระยะๆ สำหรับเจ้าบ้าน แต่จังหวะสุดท้ายของอเกวโร่ ก็ยังยิงหลุดกรอบออกไปอีกครั้ง

นาทีที่ 67 เรือใบสีฟ้า น่าได้ประตูจากลูกเตะมุม ซาเน่ เปิดบอลไปเสาสองให้โอตาเมนดี้ บอลโดนแนวรับทีมเยือนออกหลังไปอีก และจังหวะต่อเนื่องก็ยังทำไม่ได้

เกมเข้าสู่ 20 นาทีสุดท้าย แทบจะเป็นวันเวย์ของทีมเจ้าบ้านในเกมรุกแต่ประสิทธิภาพก็ยังไม่ได้ดีมากนัก ส่วนทีมเยือนก็มาแบบเกมรับเหนียวแน่นรอจังหวะสวนกลับ

นาทีที่ 79 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวคนแรกส่ง เจสซี่ ลินการ์ด ปีกทีมชาติอังกฤษ ลงมาแทนที่ของ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ในขณะที่เจ้าบ้านเปลี่ยนสองคนรวด โดยเคลาดิโอ บราโว่ นายทวารตัวจริงมีปัญหาอาการบาดเจ็บจากจังหวะกระโดดคว้าบอล และต้องเปลี่ยนตัวทันที ส่ง วิลลี่ กาบาเยโร่ ลงมาเล่นแทน ขณะที่อีกคนส่ง เฆซุส นาบาส ลงมาแทนที่ของ เลอรอย ซาเน่

นาทีที่ 84 จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมเกิดขึ้นทันทีเมื่อ มารูยาน เฟลไลนี่ โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม จากจังหวะทำฟาวล์อเกวโร่ ครั้งแรกเจอใบเหลือง และไม่มีกี่วินาทีต่อมาเฟลไลนี่ก็ทำฟาล์วอเกวโร่อีกครั้ง ซึ่งในจังหวะนี้ทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน ก่อนที่กองกลางทีมชาติเบลเยี่ยม โขกหัวใส่อเกวโร่ ต่อหน้าผู้ตัดสิน

เฟลไลนี่ โดนไล่ออกทันที และมูรินโญ่ ถอดมคิทาร์ยานออกทันที ส่ง ธิโมธี ฟอซู-เมนซาห์ แนวรับดาวรุ่งลงสนามทันที ขณะที่เจ้าบ้านไม่รอให้เสียเวลา ส่ง กาเบรียล เชซุส ลงมาแทนที่ของสเตอร์ลิง เติมเกมรุกหวังปิดเกมนี้ให้ได้

นาทีที่ 89 เกมเดือดท้ายเกม คราวนี้เป็น เชซุส ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ไปเข้าบอลช้าใส่แรชฟอร์ด รับใบเหลืองไป โดยเกมนี้ทดเวลาบาดเจ็บ 6 นาทีจากจังหวะเจ็บของบราโว่ และจังหวะใบแดงของเฟลไลนี่

นาทีที่ 90+1 เจ้าบ้านได้เฮเก้อ จากจังหวะอเกวโร่ เปิดบอลให้เชซุส โหม่งเข้าประตูไป แต่เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด ถอดมาร์คัส แรชฟอร์ด ออกส่งแอชลีย์ ยัง ลงมาแทน

นาทีที่ 90+5 เจ้าบ้านโหมหนักหวิดได้ประตูชัยจากจังหวะชาร์จลูกเปิดจ่อๆ ของอเกวโร่ แต่บอลผ่านหน้าประตูออกไปอย่างน่าเสียดาย

จบเกม “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้” ด้วยผลเสมอ 0-0 แบ่งไปคนละหนึ่งคะแนน ทำให้สถานการณ์อันดับตารางคะแนนไม่มีการเปลี่ยนแปลง เจ้าบ้านรั้งอันดับที่ 4 มีคะแนนมากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 5 อยู่ 1 คะแนน และเหลือเกมในมืออีก 5 เกมด้วยกันทั้งสองทีม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯ ซิตี้: เคลาดิโอ บราโว่ (วิลลี่ กาบาเยโร่ 79), ปาโบล ซาบาเลต้า, แวงซองต์ กอมปานี, นิโคลัส โอตาเมนดี้, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, เฟร์นานดินโญ่, ยาย่า ตูเร่, ราฮีม สเตอร์ลิง (กาเบรียล เชซุส 86), เควิน เดอ บรอยน์, เลอรอย ซาเน่ (เฆซุส นาบาส 79), เซร์คิโอ อเกวโร่

แมนฯ ยูไนเต็ด: ดาบิด เด เกอา, มัตเตโอ ดาร์เมียน, ดาร์ลีย์ บลินด์, เอริค ไบญี่, อันโตนิโอ บาเลนเซีย, มารูยาน เฟลไลนี่ (ใยแดง 84), ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันเดอร์ เอร์เรร่า, อองโตนี่ มาร์กซิยาล (เจสซี่ ลินการ์ด 79), มาร์คัส แรชฟอร์ด (แอชลีย์ ยัง 90+2), เฮนริค มคิทาร์ยาน (ส่ง ธิโมธี ฟอซู-เมนซาห์ 86)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook