9 เกมยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่าง อาร์เซนอล และ เชลซี ที่ผ่านมา

 

​เชลซี และ อาร์เซนอล นั้นจะมีคิวที่จะฟาดแข้งกันในรายการ เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ วันเสาร์นี้

 

ฟุตบอลถ้วยในรอบชิงชนะเลิศรายการนี้จะมีความน่าตื่นเต้นเป็นเมื่อทั้งสองทีมจากลอนดอนผ่านเข้ามาสู่รอบสุดท้ายได้สำเร็จ

 

และเมื่อต้องมาแข่งขันกัน ทั้ง อาร์เซนอล และ เชลซี นั้นต่างก็พยายายามที่จะเอาชนะกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาแบบไหน มันต้องเป็นเกมที่สนุกและจะมีจังหวะที่ต้องคอยให้ลุ้นอยู่ตลอดเวลาอย่างแน่นอน

 

โดยก่อนเกมที่จะเริ่มกันวันเสาร์นี้มาดูกันก่อนเลยว่าในอดีตที่ผ่านมามีนัดไหนบ้างใน 9 เกมนี้เป็นการต่อสู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ อาร์เซนอล และ เชลซี ผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไรบ้างและมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

อาร์เซนอล 3-3 เชลซี, กันยายน 1996

90minImage by Hames Lodeegedz

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1996 ก่อนที่ อาร์เซนอล และ เชลซี จะเป็น 2 ทีมที่ยิ่งใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก เหมือนปัจจุบันนี้ ทั้งสองนั้นได้เคยร่วมเล่นเกมที่สนาม ไฮบิวรี นั่นเอง

อาร์เซนอล ได้ลงเล่นสนามเหย้า(เวลานั้น) เชลซี ทำประตูขึ้นนำได้ก่อน 2-0 ในครึ่งเวลาแรกก่อนที่ อาร์เซนอล จะกลับมาได้ในช่วงครึ่งเวลาหลังจาก พอล เมอร์สัน

ปืนใหญ่ กลับมาจากความตายได้สำเร็จ ทำประตูแซง สิงห์บลู ขึ้นไปนำอยู่ที่ 3-2 และเหลือเวลาอีกแค่ 10 นาทีก็จะเอาชนะได้อยู่แล้ว แต่ เชลซี นั้นก็ยังไม่หมดความเป็นนักสู้ โดย เดนิส ไวส์ ทำประตูที่ 2 ของเขาในเกมนี้ช่วยให้ สิงห์บลู มีคะแนนติดมือกลับออกจาก ไฮบิวรี ไป

อาร์เซนอล 5-2 เชลซี, เมษายน 1979 

90minImage by Hames Lodeegedz

ในเกมนี้เกิดขึ้นก่อนที่จะมี พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นทาง อาร์เซนอล เอาชนะ เชลซี ไป 5-2 เมื่อเดือนเมษายน 1979 ความพ่ายแพ้วันนั้นของ สิงห์บลู ทำให้พวกเขาต้องตกชั้นลงไปเล่นในลีกรองของ อังกฤษ เลยทีเดียว โดยก่อนเกมที่ เชลซี จะมาเยือน ปืนใหญ่ ที่ ไฮบิวรี นั้น พวกเขาตั้งเป้าที่จะไม่แพ้ แต่อย่างไรก็ตามกลับโดนทำประตู 2-0 ตั้งแต่ในครึ่งแรก

สิงห์บลู สามารถทำประตูได้ 1 ลูกจากช่วงครึ่งหลัง ซึ่งทำให้พวกเขามีความหวังในการเก็บแต้มเกมนี้อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าสู่งช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม อาร์เซนอล ยิง 3 ประตูรวดทำให้นำห่างออกไปเป็น 5-1 เชลซี กลับมาทำเพิ่มได้อีก 1 ประตู แต่ก็ไม่พอที่จะทำให้พวกเขารอดจากการตกชั้นไปเล่นในดิวิชัน 2 ได้

เชลซี 3-5 อาร์เซนอล, ตุลาคม 2011

90minImage by War for the Planet of the Apes

แฟนบอล ปืนใหญ่ น่าจะจดจำเกมนี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นเกมล่าสุดที่ อาร์เซนอล สามารถเอาชนะได้ที่ สแตมฟอรืด บริดจ์ โดย เชลซี นำในครึ่งแรก 2-1 จาก แฟรงค์ แลมพาร์ด และ จอห์น เทอร์รี แต่ ปืนใหญ่ ก็กลับมาขึ้นนำได้สำเร็จจาก ธีโอ วัลคอตต์ และ อันเดร ซานโตส ตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง

 

ที่ สกอร์ 3-2 ตอนนั้น ฆวน มาต้า ก็มาทำประตูตีเสมอให้ เชลซี อีกครั้ง ซึ่งในเกมนี้ดูเหมือนจะจบลงด้วยการแบ่งแต้มกันไป แต่แล้ว โรบิน ฟาน เพอร์ซี ก็มาทำแฮตทริกซึ่ง 2 ประตูของเขาได้มาจากช่วงท้ายเกมส่งผลให้ อาร์เซนอล ไล่ถล่ม เชลซี คาบ้านในเกมนั้นไปนั่นเอง

เชลซี 2-1 อาร์เซนอล, กุมภาพันธ์ 1991

90minImage by War for the Planet of the Apes

ปืนใหญ่ เคยทำสถิติไม่แพ้ใครใน พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จเมื่อปี 2004 มาแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเมื่อย้อนกลับไป 13 ปี ก่อนหน้านั้นพวกเขาก็เกือบทำได้สำเร็จด้วยเหมือนกัน แต่ดันพลาดท่าแพ้ให้กับ เชลซี ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ 2-1 ซะก่อนเมื่อฤดูกาล 1990/91

 

ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสูสีมาก ๆ แต่ เชลซี ก้ได้ 3 คะแนนจากการทำประตูของ เคอร์รี ดิกซอน และ เกรแฮม สจ๊วร์ต นั่นเอง ส่วนฝั่ง อาร์เซนอล ผู้ทำประตู 1 ลูก ได้คือ อลัน สมิธ ในฤดูกาลนั้น เชลซี เป็นทีมเดียวที่ไม่แพ้ให้กับ ปืนใหญ่ อีกด้วย

อาร์เซนอล 2-2 เชลซี, ธันวาคม 2004

90minImage by War for the Planet of the Apes

เกมนี้ได้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่าง โฆเซ มูรินโญ และ อาร์แซน เวนเกอร์ นั่นเอง โดยช่วงนั้นเป็น อาร์เซนอล ครองความยิ่งใหญ่ของสโมสรใน ลอนดอน อยู่ ขณะที่ มูรินโญ เข้ามาคุมทีมในเมืองหลวงนี้โดยมีภารกิจอย่างเดียวคือการทำให้ เชลซี กลับมาประสบความสำเร็จให้ได้

 

เกมดูสูสีกันมากเลยทีเดียว ปืนใหญ่ มาได้ประตูขึ้นนำก่อนทาง เธียร์รี อองรี และ สิงห์บลู ก็มาได้ประตูตีเสมอจากลูกโหม่งของ จอห์น เทอร์รี จากนั้น อองรี ก็มาเล่นลูกฟรีคิกเร็วให้ อาร์เซนอล ขึ้นนำอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ไอเดอร์ กุ๊ดยอนเซน ยิงให้ เชลซี อีก และแน่นอน การพบกันของ มูรินโญ และ เวนเกอร์ ครั้งแรกจบลงด้วยการแบ่งแต้มไปคนละ 1 คะแนน

เชลซี 2-0 อาร์เซนอล, ตุลาคม 2014

90minImage by War for the Planet of the Apes

โดยปกติแล้วการต่อสู้ของสองสโมสรนี้มักจะเกิดขึ้นในสนาม แต่เมื่อตุลาคม 2014 นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจกว่าเกิดขึ้นที่บริเวณข้างสนาม นี่ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่ทั้งสองสโมสรนี้พบกันตั้งแต่ มูรินโญ กลับไปคุมทีม เชลซี เมื่อปี 2013 ซึ่งยังถือว่าห่างไกลจากความกลมเกลียวกันของเขากับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง อาร์เซน เวนเกอร์

 

เหตุการณ์มันเริ่มจะรุนแรงขึ้นเมื่อ เวนเกอร์ ผลัก มูรินโญ ในพื้นที่เทคนิคข้างสนามหลังจากที่เซ็นเตอร์แบ็คตัวเก่งของ สิงห์บลู แกรี เคฮิลล์ เข้าสกัดบอลรุนแรงใส่ อเล็กซิส ซานเชซ กองหน้า อาร์เซนอล โดยผู้ตัดสินได้เข้ามาตักเตือนผู้จัดการทีมทั้งสองคนต่อจากนั้น แต่ในที่สุด เชลซี เรียกได้ว่าหัวเราะทีหลังดังกว่า เมื่อ ดีเอโก้ คอสต้า และ เอเด็น อาซาร์ ทำคนละประตูให้ สิงห์บลู เอาชนะไปในเกมนั้น 2-0

เชลซี 0-2 อาร์เซนอล, เอฟเอคัพ รอบชิงฯ 2002

90minImage by War for the Planet of the Apes

ฟุตบอลรายการ เอฟเอคัพ ที่จะแข่งกันในวันเสาร์นั้นไม่ได้เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่พบกันในรอบชิงชนะเลิศ ปี 2002 ปืนใหญ่ และ สิงห์บลู เคยพบกันมาแล้วซึ่งเกมเป็นไปอย่างดุเดือดมากซะด้วย และในที่สุด อาร์เซนอล ก็เอาชนะไปได้ 2-0 จากประตูของ เฟรดดี้ ลุงเบิร์ก และ เรย์ พาร์เลอร์

 

ไม่ใช่แค่ได้แชมป์ เอฟเอคัพ สมัยที่ 9 เท่านั้นสำหรับ อาร์เซนอล พวกเขายังทำสถิติคว้าดับเบิลแชมป์ในปีนั้นได้หลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก นั่นเอง โดยในเกมรอบชิงฯ นัดนั้น ลุงเบิร์ก ทำประตูขึ้นนำให้ ปืนใหญ่ ก่อนที่ เรย์ พาเลอร์ จะมาทำประตูตอกฝาโรง เชลซี อีกลูกนั่นเอง

เชลซี 2-0 อาร์เซนอล, กันยายน 2015

90minImage by War for the Planet of the Apes

มีความครุกรุ่นเกิดขึ้นในระหว่างเกมวันนั้นที่ เชลซี เปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ พบกับ อาร์เซนอล ที่ดูเหมือนจะเสียเปรียบในเกมนั้น เมื่อ ปืนใหญ่ ต้องเหลือผู้เล่น 10 คนในจังหวะที่เซ็นเตอร์แบ็คของทีมอย่าง กาเบรียล เปาริสต้า โดนใบแดงหลังมีเรื่องกับ ดีเอโก้ คอสต้า จากจังหวะกองหน้า สเปนิช รายนี้เข้าปะทะกับ โลร็องงต์ กอสเซียลนี ล้มลงไป

 

เชลซี ได้เปรียบเรื่องจำนวนผู้เล่นมาโดยทันที หลังจากนั้นก็ได้ประตูขึ้นนำจาก เคิร์ท ซูมา ต้นครึ่งหลัง ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีดราม่าเกิดขึ้นในเกมนี้ ซานติ กาซอร์ลา ได้ใบเหลืองที่ 2 ไล่ออกไปเหมือนกันหลังจากนั้น และ เอเด็น อาซาร์ ก็มาทำประตูปิดกล่องให้ สิงห์บลู เอาชนะไปในที่สุด

เชลซี 2-1 อาร์เซนอล, คาร์ลิงคัพ รอบชิงฯ 2007

90minImage by War for the Planet of the Apes

ถ้า เอฟเอคัพ ในคืนวันเสาร์นี้เป็นเหมือนเกมที่ทั้งคู่เคยเผชิญหน้ากันเมื่อ 2007 รายการ คาร์ลิงคัพ รอบชิงชนะเลิศ จะเป็นเกมที่ดุเดือดมาก ๆ เลยทีเดียว อาร์เซนอล ได้ประตูขึ้นนำก่อนจาก ธีโอ วัลคอตต์ ก่อนที่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา จะมาทำคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ เชลซี สามาถคว้าแชมป์รายการนี้ไปได้

 

แต่เรื่องมากมายเกิดขึ้นในเกมนั้น อย่างแรกคือ จอห์น เทอร์รี นอนไม่ได้สติหลังจากที่ถูก อาบู ดิยาบี สกัดบอลผิดจังหวะประเคนสตั๊ดเข้าไปที่หน้าจนไม่สามารถเล่นต่อได้ จากนั้นมีเหตุการณ์ที่ดุเดือดเกิดขึ้นอีกโดย โคโล ตูเร, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ จอห์น โอบี มิเกล ถูกไล่ออกจากสนามไปเนื่องจากมีปัญหากระทบกระทั่งกันอย่างวุ่นวายจนทำให้เพื่อนร่วมทีม, ผู้จัดการทีมและสตาร์ฟของทั้งคู่ต้องออกมาห้ามกันอย่างยกใหญ่ ซึ่งในเกมนั้นมีการทดเวลาบาดเจ็บออกไปถึง 11 นาทีด้วยกัน

บทความนี้นำคุณไปสู่ War for the Planet of the Apes (มหาสงครามพิภพวานร) กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ ดูตัวอย่างได้ที่นี่