มันจะแปลกตาหน่อยๆ! "5 สิ่งที่ได้" จากเกมบุกพ่าย "อุซเบฯ" ?!?

ถึงผลการแข่งขันจะแพ้ แต่ถ้าดูรูปเกมโดยรวมถือว่าทำได้ดีทีเดียว สำหรับนัดแรกของ "ทัพช้างศึก" ภายใต้การนำของ "มิโลวาน ราเยวัช" กุนซือชาวเซอร์เบีย เจ้าของดีกรีพาทีมชาติกานาเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010 มาแล้ว

และนี่คือ 5 สิ่งที่ผมได้เห็นจากทีมชาติไทยยุคใหม่ ในเกมกระชับมิตรที่เราบุกพ่ายทีมชาติอุซเบกิสถาน อีกหนึ่งทีมชั้นนำของทวีปเอเชีย 0-2 เมื่อคืนนี้ครับ

1. ทีมชาติไทยมีการเข้าทำจากด้านข้างมากขึ้น ทั้งลูกเรียดและลูกโด่ง ต่างจากก่อนหน้านี้ที่ผู้เล่นปีก(และแบ็ก) จะทำหน้าที่ดึงตัวประกบให้ออกมาเพื่อเปิดพื้นที่ แล้วสุดท้ายทีเด็ดทีขาดอยู่ที่การเข้าทำตรงกลางมากกว่า

แต่ก็น่าคิดว่า "โค้ชมิโล" แค่ลองแท็กติกเฉพาะนัดนี้หรือเปล่า เพราะถ้าทีมมี "ชนาธิป สรงกระสินธ์" รูปแบบการบุกต้องมีการปรับอีกครั้งแน่ๆ

 

2. คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟหน้าใหม่อย่าง "เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว" และ "พรรษา เหมวิบูลย์" ถือว่าประสานงานกันลงตัวได้ดีเกินคาด คนนึงได้ลูกเก๋าและหนัก อีกคนได้เรื่องทางบอลและรูปร่างสูงใหญ่

แม้จะมีข้อผิดพลาดเรื่องการสื่อสารกันบ้าง แต่โดยรวมแล้วถือว่าเยี่ยม ทำให้ "ธนบูรณ์ เกษารัตน์" ได้ขยับขึ้นไปเล่นกองกลางตัวรับอย่างที่ควรจะเป็น

3. ตำแหน่งที่แท้จริงของ "ปีโป้-สิโรจน์ ฉัตรทอง" ไม่ใช่ศูนย์หน้าตัวเป้า แต่เป็นด้านข้างที่เจ้าตัวแสดงให้เห็นมาตลอดว่าถนัดมากกว่า ทั้งความสามารถในการไปกับบอล, ดึงจังหวะให้เพื่อน รวมไปถึงการเรียกฟาวล์

ซึ่งระดับเราๆยังเห็น เชื่อว่าโค้ชมิโลก็น่าจะไม่พลาดเช่นกัน ต้องดูกันต่อไปว่าเจ้าปีโป้จะได้กลับไปเล่นตรงที่ถนัดหรือไม่ในเกมหน้า

 

4. ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับ "เควิน ดีรมรัมย์" ถือว่าแจ้งเกิดได้เลยในตำแหน่งแบ็กซ้าย ปกติในสีเสื้อราชบุรีก็เด่นเรื่องเกมรุกอยู่แล้ว พอได้โอกาสในทีมชาติก็ไม่ทำให้ผิดหวัง รับผิดชอบพื้นที่ฝั่งซ้ายได้ยอดเยี่ยม

ไม่แปลกใจที่แข้งลูกครึ่งสวีเดนวัย 19 ปีรายนี้ จะเคยโดนแวร์เดอร์ เบรเมน กับ โรม่า ตามจีบมาแล้ว บ่มประสบการณ์หน่อย จะเป็นอะไหล่หรือตัวแทนของ "ธีราทร บุญมาทัน" ในอนาคตได้เลย

5. ดูจากผู้เล่นที่ "ไม่ฟูล" รวมไปถึงบรรดาหน้าใหม่ที่เพิ่งมีโอกาสได้รับใช้ชาติ หากได้ผู้เล่นแกนหลักจากเมืองทอง ยูไนเต็ด กลับมาเสริม ทีมชาติไทยจะแข็งแกร่งกว่านี้แน่นอน

 

โดยเฉพาะ ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน, ทริสตอง โด รวมไปถึง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่อยู่ในช่วงเตรียมบินไปร่วมทัพคอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในเจลีก ญี่ปุ่น ด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งปีครึ่ง

วันที่ 13 มิถุนายนนี้ ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม นัดที่ 8 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถานกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะเป็นบทพิสูจน์อย่าง "เป็นทางการ" จริงๆ ของทีมชาติไทย ยุคมิโลวาน ราเยวัช

แม้โอกาสไปลุยรัสเซียจะปิดตายลงเรียบร้อยแล้ว แต่ทีมชาติไทยของเราต้องก้าวต่อไป อย่าลืมให้กำลังใจกันเหมือนเดิมนะครับ