โค้ชเชสั่งปิดปากจอมเตะอลป.งดสื่อสัมภาษณ์

โค้ชเชสั่งปิดปากจอมเตะอลป.งดสื่อสัมภาษณ์

โค้ชเชสั่งปิดปากจอมเตะอลป.งดสื่อสัมภาษณ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โค้ชเช ยอง ซอก วอนสื่อมวลชน อย่าสัมภาษณ์นักกีฬาเทควันโดชุดลุยโอลิมปิก เพื่อต้องการให้มีสมาธิและความมุ่งมั่นกับเกมสำคัญวันที่ 8-9 ส.ค.นี้ โดยจะให้ "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมฯ เป็นผู้ให้ข้อมูลนักกีฬาแต่เพียงผู้เดียว เพื่อสร้าง

ความเคลื่อนไหวนักเทควันโดทีมชาติไทย ชุดไล่ล่าเหรียญทองประวัติศาสตร์แรกกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2012 หลังจาก "เจ้าไอ" เป็นเอก การะเกตุ รุ่น 58 กก.ชาย, "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ รุ่น 49 กก.หญิง และ "น้องจูน" รังสิญา นิสัยสม รุ่น 57 กก.หญิง

พร้อมด้วย โค้เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ ได้เดินทางถึงหมู่บ้านพักนักกีฬา ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้พานักกีฬาไปฝึกซ้อมและทบทวนเทคนิคที่สังเวียนชิงชัยตามที่เจ้าภาพได้ จัดเตรียมให้ไว้
 
ล่าสุด เช ยอง ซอก โค้ชจอมเฮี้ยบทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ช่วงนี้ตนอยากขอความเห็นใจไปยังสื่อมวลชนแขนงต่างๆทั้ง หนังสือพิมพ์, โทรทัศน์ และ วิทยุ ไม่อยากให้เข้ามารบกวนสมาธิและการฝึกซ้อมของนักกีฬาในแต่ละวัน เพราะก่อนหน้านี้สมาคมได้เปิดโอกาสให้กับสื่อมวลชนได้สัมภาษณ์นักกีฬาและตัว เองแบบเจาะลึกทุกแง่มุมไปถึง 2 ครั้งแล้ว และคำถามทุกอย่างที่ผู้สื่อข่าวอยากได้ตัวเองตอบไปหมดแล้ว

ดังนั้นจึงอยากโฟกัสไปที่เกมการแข่งขันในวันที่ 8-9 สิงหาคมนี้มากกว่า ยิ่งเวลานี้นักกีฬาทุกคนต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่แปลกใหม่ไม่ เหมือนเมืองไทยบ้านเรา อีกทั้งเวลาและอากาศที่หนาวเย็นแถมมีฝนตกลงมาตลอดเวลาว่า ทำอย่างไรอย่าได้เป็นหวัด หรือ ไม่สบายเหมือนนักกีฬาคนอื่นๆ
 
จากนั้นอีก 1-2 วันข้างหน้านี้ หากสื่อมวลชนต้องการติดตามความเคลื่อนไหวทัพนักเทควันโดไทยในแต่ละวันว่า ทำอะไรบ้าง ตนจะให้เบอร์โทรศัพท์ของ "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคม ในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทย ที่จะเดินทางไปถึงประเทศอังกฤษ เป็นผู้เปิดใจให้สัมภาษณ์แต่เพียงผู้เดียว

ส่วนตัวเองนั้นคงไม่มีเวลามาให้สัมภาษร์อะไรมากนัก เพราะต้องติดตามดูรายชื่อนักกีฬาแต่ละชาติว่า เป็นเช่นไร ใครมีผลงานดีเด่นอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นการบ้านสำคัญไว้คอยแก้ไขหากนักกีฬาไทยต้องเจอกับชาติตัวเต็งสำคัญ เหล่านี้
 
นอกจากนี้ โค้ชเช กล่าวต่อด้วยว่า ส่วนตัวยังมีความเชื่อมั่นว่า นักกีฬาทั้ง 3 คน ทุกคนมีสิทธิ์ไม่น้อยไปกว่ากันที่จะคว้าเหรียญรางวัลในครั้งนี้ เพราะทุกคนฝึกซ้อมมาหนักมากเป็นแรมปี แถมความฟิตก็มีมากเกิน 100 เปอร์เซ็นต์

แต่อย่างว่า กีฬาที่ใช้สายตาในการตัดสินให้คะแนน ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างทั้งโชคดวงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นอกเหนือจากความสามารถที่ดีของนักกีฬาที่มีอยู่แล้ว ถึงจะนำไปสู่ความสำเร็จได้

ล่าสุดตนได้กำชับนักกีฬาทุกคนอย่าเกร็งหรือเครียดจนเกินไป ขอให้ทำใจสบายๆเหมือนฝึกซ้อมที่อยู่เมืองไทย เพื่อนำความสำเร็จมาสู่ประเทศไทยเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook