สัปดาห์แห่งพรีเมียร์ลีก

สัปดาห์แห่งพรีเมียร์ลีก

สัปดาห์แห่งพรีเมียร์ลีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พรีเมียร์ลีก สัปดาห์นี้ถือว่าสุดๆ ไปเลยอย่างแท้จริง

หลังจากมีข่าวการประมูลลิขสิทธิ์ฟุตบอล ที่ว่ากันว่าเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลก ตั้งแต่ซีซั่น 2013-2016 ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ปรากฏว่า เกิดการพลิกล็อกเมื่อ "ซีทีเอช" หรือ CABLE THAI HOLDING : CTH หยิบชิ้นปลามันคว้าลิขสิทธิ์นี้ไปครอง

ด้วยมูลค่ามหาศาลคาดว่าอาจจะทะลุถึง 20,000 ล้านบาทเลยทีเดียวตลอดสัญญา 3 ปี

ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญต่อประเทศไทย ที่พันผูกและผูกพันกับฟุตบอลอังกฤษมาอย่างยาวนาน

ว่าแล้วเกมในสนามก็เลยใส่กันซะสะใจพระคุณพระเดช

มีเหตุการณ์ต่างๆ ที่พลิกผันตามสนามต่างๆ ที่สำคัญก็คือ การยิงประตูกันอย่างถล่มทลาย เป็นเครื่องหมายการค้าของลูกหนังเมืองผู้ดี ทำให้คนดูได้สำราญอย่างมาก

"นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้" ปฐมบทเกมแรกท่าสร้างความสนุกให้กับผู้ชม แต่เพียงแค่ 45 นาทีแรกเท่านั้น เพราะทุกอย่างมันจบเมื่อ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ สังหารประตูให้ อาร์เซนอล ทะยานนำ 3-1 ขณะที่ สเปอร์ส ที่เหลือ 10 คน เพราะอารมณ์ของ เอ็มมานูแอล อเดบายอร์

หลายคนตั้งคำถามว่า หากว่า 11 ตัวเท่ากัน สกอร์ออกมาจะไม่เละเทะถึงขั้นนี้ และเป็นไปได้ที่ สเปอร์ส อาจจะไม่แพ้

แต่ก็ไม่ใครกลับไปเปลี่ยนมันได้

อาร์แซน เวนเกอร์ อาจจะยกย่องลูกทีมตัวเอง แต่เขาก็รู้อยู่เต็มอกว่า อาร์เซนอล ชุดนี้มีปัญหาอย่างมากในแผงรับ กับการออกสตาร์ตที่แย่ที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี เช่นเดียวกับ อังเดร วิลลาส โบอาส ที่ออกมาชูลูกทีมทุกคนเพื่อลดกระแสการต้านของสาวกคลับไก่

ประเด็นนี้ แฟนสเปอร์ส คงจะด่า โบอาส ไม่ลงแน่นอน เพราะบอล 11 ตัวเท่ากันเล่นดีกว่าเห็นๆ แต่เมื่อเหลือ 10 คน กับฟุตบอลที่มาตรฐานใกล้เคียงกันแบบนี้ ทุกอย่างมันก็ต้องจบอย่างที่เห็น

ทางฝั่งเกมช่วงสี่ทุ่ม การที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าชัยชนะแบบขาดกระจุย ไม่ใช่เรื่องเกินเลย เพราะ แอสตัน วิลล่า ไม่ใช่เรื่องที่จะมาต้านอยู่ ขณะที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี พลาดแพ้ให้กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทำให้ทีมจากถิ่นเดอะ ฮอว์ธอร์นส์ ยึดหัวหาดเป็น "ท็อปโฟร์" แบบหน้าตาเฉย

ส่วน ลิเวอร์พูล ก็กล้ามากที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เปลี่ยนตัวของ ซูโซ่ ที่กำลังจะฉลองวันเกิดครบ 19 ขวบในวันจันทร์นี้ ออกไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก แล้วให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มิดฟิลด์เต้าหู้ยี้ของทีมลงมาเล่น
แต่กลายเป็นการพลิกเกมหน้าตาเฉย

แถมการเลือก โฆเซ่ เอ็นริเก้ มาเดินเกมรุก กลายเป็นของดีไปซะงั้น

รวมไปถึง หลุยส์ ซัวเรซ ที่ทำประตูได้ต่อเนื่อง นาทีนี้ยิงได้ถือว่าไม่แปลก แต่หากเขายิงไม่ได้ขึ้นมาล่ะก็ นอกจากแปลกแล้ว ยังยุ่งแน่นอน เพราะปีนี้ 18 ประตู ที่ ลิเวอร์พูล ทำได้ ดาวยิงอุรุกวัยมีส่วนถึง 12 ประตู

นานมากแล้วครับที่ไม่เห็น ลิเวอร์พูล ชนะใครได้ขาดๆ 3 เม็ดแบบนี้ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

อารมณ์เดียวกับแฟนของ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช ซิตี้ ที่ไม่ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มานานมาก สุดท้ายพวกเขาทำได้จาก แอนโธนี่ย์ พิลคิงตัน อดีตเด็กเยาวชนของพวกเขาที่ออกจากรั้วผีเมื่อ 7 ปีก่อน และต้องระเห็จไปอยู่ดิวิชั่นต่ำๆ แทนที่สวรรค์แห่งโอลด์ แทรฟฟอร์ด

พิลคิงตัน เคยยิงแฮตทริกใส่ เอฟซี ยูไนเต็ด ออฟ แมนเชสเตอร์ ทีมที่สาวกผีจัดตั้งขึ้นเนื่องจากเกลียด มัลคอล์ม เกลเซอร์ เจ้าของทีมชาวมะกัน และไม่มีใครอยากเชื่อว่า มาในวันนี้ พิลคิงตัน จะมาทุบ ยูไนเต็ด ได้ในพรีเมียร์ลีก

ที่เหลือนั้นก็คือเรื่องแสบสันสุดขั้วไม่แพ้กันเมื่อ เอฟเวอร์ตัน ที่แกร่งมากดันบุกไปแพ้ เรดดิ้ง ที่คว้าชัยเป็นครั้งแรกได้สำเร็จ, นิวคาสเซิล ไล่ยำข้างเดียวแต่แพ้ สวอนซี คาบ้าน รวมไปถึง ควีนส์ปาร์ค ที่ยังหาคำว่า "ชนะ" ไม่เจอ หลังจากโดน เซาแธมป์ตัน บุกมากะซวกไส้ขาดคาบ้านถึง 3-1 จนทำให้ โทนี่ เฟอร์นานเดซ เจ้าของทีมต้องออกมาขอโทษแฟนบอล และน่าจะตัดสินอนาคตของ มาร์ค ฮิวจ์ส ในเร็ววันนี้ซะที

บทสรุปสำหรับวีกนี้ก็คือ ฟุตบอลอังกฤษ ดังมากทั้งในและนอกสนาม มีเหตุการณ์พลิกผันต่างๆ มากมาย ทั้งเจ้าของลิขสิทธิ์ในเมืองไทย, จ่าฝูงเปลี่ยนมือ และสารพัดเหตุการณ์ที่น่าทึ่ง

เป็นสัปดาห์แห่ง "พรีเมียร์ลีก" อย่างแท้จริง

เรื่องโดย "บี แหลมสิงห์"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook