โปรแกรมบอล Preview Premier League

โปรแกรมบอล Preview Premier League

โปรแกรมบอล Preview Premier League
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook


(1) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เซาแธมป์ตัน (15)

เวลา: 03.00 น.

สนาม: โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ผู้ตัดสิน: ลี เมสัน

ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 2

 

 



ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด
26 ม.ค. 56    ชนะ    ฟูแล่ม           4-1 (เหย้า)    เอฟเอคัพ
20 ม.ค. 56    เสมอ    สเปอร์ส        1-1 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก
16 ม.ค. 56    ชนะ    เวสต์แฮม        1-0 (เหย้า)    เอฟเอคัพ
13 ม.ค. 56    ชนะ    ลิเวอร์พูล        2-1 (เหย้า)    พรีเมียร์ลีก
5 ม.ค. 56    เสมอ    เวสต์แฮม        2-2 (เยือน)    เอฟเอคัพ

เซาแธมป์ตัน
21 ม.ค. 56    เสมอ    เอฟเวอร์ตัน        0-0 (เหย้า)    พรีเมียร์ลีก
16 ม.ค. 56    เสมอ    เชลซี               2-2 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก
12 ม.ค. 56    ชนะ    แอสตัน วิลล่า       1-0 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก
5 ม.ค. 56     แพ้    เชลซี                  1-5 (เหย้า)    เอฟเอคัพ
1 ม.ค. 56    เสมอ    อาร์เซนอล           1-1 (เหย้า)    พรีเมียร์ลีก

ผลการพบกันนัดแรก
2 ก.ย. 55    เซาแธมป์ตัน 2-3 แมนฯ ยูไนเต็ด

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
29 ม.ค. 54    เอฟเอคัพ    เซาแธมป์ตัน 1-2 แมนฯ ยูไนเต็ด
4 ม.ค. 52    เอฟเอคัพ    เซาแธมป์ตัน   0-3 แมนฯ ยูไนเต็ด
15 พ.ค.48    พรีเมียร์ลีก    เซาแมป์ตัน  1-2 แมนฯ ยูไนเต็ด
12 มี.ค. 48    เอฟเอคัพ    เซาแธมป์ตัน 0-4 แมนฯ ยูไนเต็ด
4 ธ.ค. 47    พรีเมียร์ลีก    แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 เซาแธมป์ตัน

ความพร้อม-สภาพทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด
ผีแดงจะปรับทัพกลับมาใช้งานชุดใหญ่อีกครั้ง หลังโรเตชั่นนักเตะไปหลายตำแหน่งในเกมเอฟเอคัพ โดยโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงตัวเก่ง จะกลับมาประจำการในแนวรุกอีกครั้ง
ขณะที่ เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าตัวหลัก ก็น่าจะกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมลีกอีกครั้ง หลังลงเรียกความฟิตมาในเกมเอฟเอคัพ 2 นัด

เนมานย่า วีดิชกับริโอ เฟอร์ดินานด์ สองกองหลังตัวหลัก คงจะกลับมาลงเล่นในแนวรับอีกครั้งเช่นกัน แต่จอนนี่ อีแวนส์ ยังไม่ฟิตกลับมาจากการบาดเจ็บแฮมสตริง
ในแดนกลางยังหมดสิทธิใช้งานแอชลี่ย์ ยัง ปีกทีมชาติอังกฤษ ซึ่งยังไม่สมบูรณ์ดีจากอาการเจ็บเข่าเช่นกัน โดยทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์กับชินจิ คางาวะ น่าจะได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง หลังรายแรกได้พักมาในเกมล่าสุด ส่วนรายหลังเป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น

ผู้ล่นบาดเจ็บ: จอนนี่ อีแวนส์ (แฮมสตริง), แอชลี่ย์ ยัง (เข่า), ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ (ป่วย)

ความพร้อม-สภาพทีม
เซาแธมป์ตัน
นักบุญได้อดัม ลัลลาน่า มิดฟิลด์กัปตันทีม หายเจ็บเข่ากลับมาแล้ว และคงจะลงสนามมาเป็นนัดแรกในรอบสองเดือน
ส่วน ชูลี่ โด ปราโด มิดฟิลด์ชาวบราซิล เจ็บเข่าไปจากเกมลีกนัดที่แล้ว และหมดสิทธิลงสนามในนัดนี้แน่นอน เช่นเดียวกับโจเซ่ ฟอนเต้ กองหลังชาวโปรตุเกส ซึ่งพักยาวไปก่อนแล้วเพราะปัญหาเดียวกัน

เกมนี้เวการ์ด ฟอร์เรน เซ็นเตอร์แบ็กทีมชาตินอร์เวย์ มีลุ้นลงประเดิมสนามเป็นนัดแรก หลังระดับความฟิตได้ที่แล้ว นับตั้งแต่ย้ายมาเสริมทีมในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาว
นอกจากนั้นเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือคนใหม่ที่จะคุมทีมเป็นนัดที่ 2 ก็พร้อมใช้งานนักเตะตัวหลักๆ ชุดเดิมได้อย่างพร้อมหน้าอีกครั้ง

ผู้เล่นบาดเจ็บ: ชูลี่ โด ปาโดร, โจเซ่ ฟอนเต้ (เข่า)

วิเคราะห์รูปเกม
แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมายิงประตูได้ถล่มทลายอีกครั้งในเกมเอฟเอคัพ หลังจากฝืดๆ ไปในหลายนัดหลัง และเกมนี้จะปรับทัพกลับมาใช้งานตัวหลักๆ อย่างพร้อมหน้าตามเดิม ทำให้คงพร้อมเต็มสูบที่จะเดินหน้าหยิบ 3 แต้มสำคัญให้ได้ต่อไป หลังจากสะดุดมาในเกมก่อนหน้านี้

เกมนี้เซาแธมป์ตันได้เปรียบเรื่องความสดเพราะได้พักเต็มๆ จากการไม่มีคิวเตะเอฟเอคัพ แต่ก็ต้องเจอของแข็งที่จะทดสอบฝีมือของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือคนใหม่ ซึ่งนำทีมหยิบได้แต้มเดียวจากเกมในบ้านนัดที่แล้ว นัดนี้นักบุญคงต้องหวังใช้เกมบุกเข้าป่วนแนวรับที่ยังไม่ค่อยนิ่งของผีแดง แต่แผงหลังที่รั่วยิ่งกว่าของทีมเยือนก็คงไม่ไหวจะต้านเกมรุกของเจ้าถิ่นเช่นกัน เกมนี้น่าจะสู้กันสนุกก่อนที่ผีแดงจะคว้าชัยไปได้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1): ดาวิด เด เกอา; ราฟาเอล, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วีดิช, ปาทริซ เอฟร่า; ไมเคิล คาร์ริค, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์; อันโตนิโอ วาเลนเซีย, เวย์น รูนี่ย์, ชินจิ คางาวะ; โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ผู้จัดการทีม: อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

เซาแธมป์ตัน (4-2-3-1): อาร์เทอร์ โบรุก; เนเธเนี่ยน ไคลน์, เวการ์ด ฟอร์เรน, มายะ โยชิดะ, แดนนี่ ฟ็อกซ์; แจ๊ค คอร์ก, มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน; เจสัน พันช์ออน, กาสตอน รามิเรซ, อดัม อัลลาน่า; ริคกี้ แลมเบิร์ต
ผู้จัดการทีม: เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

ฮอตสกอร์: แมนฯ ยูไนเต็ดชนะ 4-2

 

(18) เรดดิ้ง – เชลซี (3)

เวลา: 03.00 น.

สนาม: มาเดจสกี้ สเตเดี้ยม

ผู้ตัดสิน: มาร์ค ฮัลซี่ย์

ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 4

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
เรดดิ้ง
26 ม.ค. 56    ชนะ    เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด   4-0 (เหย้า)    เอฟเอคัพ
19 ม.ค. 56    ชนะ    นิวคาสเซิล           2-1 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก
12 ม.ค. 56    ชนะ    เวสต์บรอมวิช        3-2 (เหย้า)    พรีเมียร์ลีก
5 ม.ค. 56      ชนะ    ครอว์ลี่ย์              3-1 (เยือน)    เอฟเอคัพ
1 ม.ค. 56      แพ้    สเปอร์ส                1-3 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก

เชลซี
27 ม.ค. 56    เสมอ    เบรนท์ฟอร์ด   2-2 (เยือน)    เอฟเอคัพ
23 ม.ค. 56    เสมอ    สวอนซี        0-0 (เยือน)    ลีกคัพ
20 ม.ค. 56    ชนะ    อาร์เซนอล      2-1 (เหย้า)    พรีเมียร์ลีก
16 ม.ค. 56    เสมอ    เซาแธมป์ตัน   2-2 (เหย้า)    พรีเมียร์ลีก
12 ม.ค. 56    ชนะ    สโต๊ค            4-0 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก

ผลการพบกันนัดแรก
22 ส.ค. 55    เชลซี 4-2 เรดดิ้ง

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
30 ม.ค. 51    พรีเมียร์ลีก        เชลซี 1-0 เรดดิ้ง
15 ส.ค. 50    พรีเมียร์ลีก        เรดดิ้ง 1-2 เชลซี
26 ธ.ค. 49    พรีเมียร์ลีก        เชลซี 2-2 เรดดิ้ง
14 ต.ค. 49    พรีเมียร์ลีก        เรดดิ้ง 0-1 เชลซี
3 ธ.ค. 46    ลีกคัพ        เรดดิ้ง 0-1 เชลซี

ความพร้อม-สภาพทีม
เรดดิ้ง
เจสัน โรเบิร์ตส์ หัวหอกตัวเก๋า ยังคงสลัดปัญหาการบาดเจ็บที่สะโพกกลับมาไม่ได้ ขณะที่โนล ฮันท์ ดาวยิงตัวหลักจากฤดูกาลก่อน ก็มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยมาจากเกมเอฟเอคัพ และต้องรอเช็กความฟิตอีกครั้ง
นอกจากนั้นมีเพียง อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ผู้รักษาประตูสำรอง ซึ่งยังคงพักยาวเพราะเจ็บไหล่อยู่เช่นเดิม

เกมนี้เรดดิ้งคงปรับทัพกลับมาใช้งานผู้เล่นตัวหลักอีกครั้ง หลังจากปรับทัพหลายตำแหน่งในบอลถ้วย
พาเวล โพเกร็บเนี้ยค น่าจะกลับมายึดตำแหน่งหัวหอกตัวเป้าอีกครั้ง ทำให้อดัม เลอ ฟอนดรี้คงต้องหลุดไปนั่งสำรองอีก แม้จะทำสองประตูในฐานะตัวสำรองในเกมลีกนัดที่แล้ว จนได้โอกาสลงเล่นในเกมเอฟเอคัพด้วย
ส่วนจิมมี่ เคเบ้กับโจบี้ แม็คคานัฟฟ์ สองมิดฟิลด์ตัวริมเส้น ซึ่งถูกพักไว้เมื่อสุดสัปดาห์ น่าจะกลับมาเป็นตัวหลักในแดนกลางอีกครั้ง

ผู้เล่นบาดเจ็บ: โนล ฮันท์ (น็อก), เจสัน โรเบิร์ตส์ (สะโพก), อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ (ไหล่)

ความพร้อม-สภาพทีม
เชลซี
เอด็อง อาซาร์ ดาวเตะชาวเบลเยียม จะใช้โทษแบบเป็นเกมที่ 2 จาก 3 นัดที่ได้รับมาจากใบแดงฐานสะกิดชายโครงเด็กเก็บบอล
เกมนี้ ปีเตอร์ เช็ก นายประตูมือหนึ่ง ยังชวดเฝ้าเสาเช่นเดียวกับเกมเอฟเอคัพนัดล่าสุด เพราะอาการเจ็บน่องยังไม่หายดี ทำให้รอสส์ เทิร์นบูลล์ จะได้รับหน้าที่แทนต่อไป
ส่วน ดาวิด หลุยซ์ เซ็นเตอร์แบ็กทีมชาติบราซิล ก็ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าต่อไป หลังอาการกำเริบขึ้นมาในการลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมลีกนัดก่อน

ขณะที่ โอริโอล โรเมอู มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวสเปน พักยาวเพราะเจ็บเข่า และจอห์น โอบี มิเกลกับวิคเตอร์ โมเซส สองมิดฟิลด์ทีมชาติไนจีเรีย ยังไม่เสร็จภารกิจในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ
จอห์น เทอร์รี่ กองหลังกัปตันทีม ได้ลงเล่นแบบเต็มเกมเป็นนัดแรกนับตั้งแต่หายเจ็บเข่ากลับมาในเกมล่าสุด และต้องรอดูว่าจะพร้อมลงเล่นติดต่อกันได้หรือไม่

ผู้เล่นบาดเจ็บ: ปีเตอร์ เช็ก (น่อง), ดาวิด หลุยซ์ (ข้อเท้า), โอริโอล โรเมอู (เข่า)
ผู้เล่นโดนแบน: เอด็อง อาซาร์ (2 นัด)

วิเคราะห์รูปเกม
เรดดิ้งชนะสวยมาในเกมเอฟเอคัพ ขณะที่เชลซีเกือบตายในการเจอกับทีมรองบ่อน แต่ก็ยังเอาตัวรอดมาได้หวุดหวิด นัดนี้คงต้องติวเข้มเพื่อจะเค้นฟอร์มเก่งกลับมาให้ได้อีกครั้ง หลังจากผลงานนัดหลังๆ มีแผ่วๆ ให้เห็น แต่เกมนี้ไม่น่าจะใช่งานยากจนเกินไป แม้จะต้องมาเยือนรังของเดอะรอยัลส์ แต่สิงห์บลูส์ยังดูดีกว่า และน่าจะใช้ความแน่นอนกว่าเดินหน้าทำเกมบุกเข้าใส่ได้อย่างต่อเนื่อง แม้เจ้าถิ่นจะมีเกมรุกที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน แต่แนวรับก็ไม่น่าจะต้านไหวและคงถูกเฉือนพ่ายไปอีกครั้ง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:

เรดดิ้ง (4-5-1): อดัม เฟเดริชี่; สตีเฟ่น เคลลี่, อเล็กซ์ เพียร์ซ, อาเดรียน มาเรียปป้า, เอียน ฮาร์ท; จิมมี่ เคเบ้, มิเคเล่ ลีเกิร์ตวู้ด, เจม คาราชาน, แดนนี่ กัทธรี่, โจบี้ แม็คคานัฟฟ์; พาเวล โพเกร็บเนี้ยค
ผู้จัดการทีม: ไบรอัน แม็คเดอร์ม็อตต์

เชลซี (4-2-3-1): รอสส์ เทิร์นบูลล์; บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แกรี่ เคฮิลล์, แอชลี่ย์ โคล; รามิเรส, แฟรงค์ แลมพาร์ด; ฆวน มาตา, ออสการ์, ไรอัน เบอร์ทรานด์; เดมบา บา
ผู้จัดการทีม: ราฟา เบนิเตซ

ฮอตสกอร์: เชลซีชนะ 2-1

 

(5) เอฟเวอร์ตัน – เวสต์บรอมวิช (8)

เวลา: 02.45 น

สนาม: กูดิสัน ปาร์ค

ผู้ตัดสิน: ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 3


ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
เอฟเวอร์ตัน
26 ม.ค. 56    ชนะ    โบลตัน           2-1 (เยือน)    เอฟเอคัพ
21 ม.ค. 56    เสมอ    เซาแธมป์ตัน    0-0 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก
12 ม.ค. 56    เสมอ    สวอนซี          0-0 (เหย้า)    พรีเมียร์ลีก
7 ม.ค. 56    ชนะ     เชลท์แนม        5-1 (เยือน)    เอฟเอคัพ
2 ม.ค. 56    ชนะ    นิวคาสเซิล        2-1 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก

เวสต์บรอมวิช
19 ม.ค. 56    เสมอ    แอสตัน วิลล่า   2-2 (เหย้า)    พรีเมียร์ลีก
15 ม.ค. 56    แพ้    ควีนส์ปาร์ค        0-1 (เหย้า)    เอฟเอคัพ
12 ม.ค. 56    แพ้    เรดดิ้ง             2-3 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก
5 ม.ค. 56     เสมอ    ควีนส์ปาร์ค      1-1 (เยือน)    เอฟเอคัพ
1 ม.ค. 56     แพ้    ฟูแล่ม               1-2 (เหย้า)    พรีเมียร์ลีก

ผลการพบกันนัดแรก
1 ก.ย. 55    เวสต์บรอมวิช 2-0 เอฟเวอร์ตัน

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
31 มี.ค. 55    พรีเมียร์ลีก    เอฟเวอร์ตัน 2-0 เวสต์บรอมวิช
1 ม.ค. 55    พรีเมียร์ลีก    เวสต์บรอมวิช 0-1 เอฟเวอร์ตัน
21 ก.ย. 54    ลีกคัพ    เอฟเวอร์ตัน 2-1 เวสต์บรอมวิช
14 พ.ค. 54    พรีเมียร์ลีก    เวสต์บรอมวิช 1 – 0 เอฟเวอร์ตัน
27 พ.ย. 53    พรีเมียร์ลีก    เอฟเวอร์ตัน 1 – 4 เวสต์บรอมวิช

ความพร้อม-สภาพทีม
เอฟเวอร์ตัน
เควิน มิรัลลาส ปีกทีมชาติเบลเยียม ต้องชวดบู๊อีกครั้ง เพราะปัญหาการบาดเจ็บที่แฮมสตริงยังตามรบกวนไม่เลิก หลังคัมแบ๊กกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกในเกมเอฟเอคัพ แต่ก็ต้องโขยกเขยกออกจากสนามไปตั้งแต่ยังไม่ถึง 20 นาที
ขณะที่เชมัส โคลแมน วิงแบ๊กดาวรุ่ง ก็ยังไม่ฟิตกลับมาจากปัญหาเจ็บต้นขาที่กำเริบขึ้นมาอีกในเกมลีกนัดที่แล้ว

ส่วนโทนี่ ฮิบเบิร์ต แบ๊กขวาตัวเก๋า ก็ยังพักยาวเพราปัญหาที่น่องเช่นเดิม ทำให้ฟิล เนวิลล์ กัปตันทีมตัวเก๋า อาจต้องถูกโยกไปรับหน้าที่แทนอีกนัด
ทางด้านดาร์รอน กิ๊บสัน มิดฟิลด์ตัวเก่ง ยังอยู่ระหว่างการเรียกความฟิตกลับมาจากการพักไปนานเพราะเจ็บต้นขา ทำให้มารูยาน เฟลลายนี่อาจจะถูกถอยจากกองหน้าไปยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางแทน

ผู้เล่นบาดเจ็บ: เควิน มิรัลลาส (แฮมสตริง), เชมัส โคลแมน, ดาร์รอน กิ๊บสัน (ต้นขา), โทนี่ ฮิบเบิร์ต (น่อง)

ความพร้อม-สภาพทีม
เวสต์บรอม
ยุสซูฟ มูลุมบู มิดฟิลด์ตัวตัดเกมของทีม เดินทางกลับจากการทำศึกแอฟริกัน เนชั่นส์คัพกับดีอาร์ คองโกแล้ว หลังจากทีมตกรอบแรกไปหมาด ๆ แต่คงจะยังไม่พร้อมถูกใช้งานในเกมนี้
แบ๊กกี้ส์ต้องรอลุ้นความฟิตของ 4 นักเตะที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ หลังจากทั้งหมดกลับมาลงซ้อมได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเชน ลอง ศูนย์หน้าทีมชาติไอร์แลนด์ ซึ่งถูกอาการเดดเลกรบกวนมาพักใหญ่

ส่วนเคลาดิโอ ยาค็อบ มิดฟิลด์ตัวรับอีกคนของทีม ก็ดันเจ็บไหล่ไปในเกมล่าสุด หลังจากเพิ่งฟิตกลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง หลังถูกอาการบาดเจ็บแฮมสตริงรบกวนอยู่ช่วงหนึ่ง
สตีเว่น รีด แบ๊กขวาตัวหลัก ก็ต้องรอลุ้นว่าขาข้างที่เคยหักจะมีอาการอะไรอีกหรือไม่ ส่วนมาร์ก อองตวน ฟอร์ตูเน่ กองหน้าตัวริมเส้น ก็ต้องรอลุ้นว่าจะพร้อมคัมแบ๊กหรือยัง หลังพักไปหลายนัดเพราะเจ็บแฮมสตริง
ขณะที่โซลทาน เกร่า มิดฟิลด์ตัวเก๋า เป็นนักเตะที่พักยาวทั้งฤดูกาลไปแล้วเพราะเข่าพัง

ผู้เล่นบาดเจ็บ: เชน ลอง, สตีเว่น รีด (ขา), เคลาดิโอ ยาค็อบ, มาร์ก อองตวน ฟอร์ตูเน่ (แฮมสตริง), โซลทาน เกร่า (เข่า)

วิเคราะห์รูปเกม
เอฟเวอร์ตันเป็นรองเรื่องความสด เพราะเวสต์บรอมชิงตกรอบเอฟเอคัพไปก่อนแล้ว ทำให้ไม่มีคิวเตะเมื่สุดสัปดาห์ ขณะที่สถานการณ์นักเตะบาดเจ็บของทั้งสองทีมก็ยังไม่ค่อยดีพอ ๆ กัน แต่แบ๊กกี้ส์น่าจะมีลุ้นได้หลายคนกลับมาเสริมทัพ และคงจะมีลูกฮึดขึ้นมาอีกรอบ หลังจากฟอร์มช่วงหลังแผ่วลงไปเยอะ ส่วนทอฟฟี่เองก็ไม่ค่อยเปรี้ยงเหมือนเคย แต่ก็ยังประคับประคองตัวไปได้เรื่อย ๆ เกมนี้ได้ลงเตะในถิ่นกูดิสัน ปาร์คคงจะลุยเข้าใส่ ทำให้น่าจะเข้าทางทีมเยือนที่จะวางแผนมารับมือได้ง่ายกว่า จนมีลุ้นุบุกมาแบ่งแต้มกลับไปได้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:

เอฟเวอร์ตัน (4-4-2): ทิม ฮาวเวิร์ด; ฟิล เนวิลล์, ฟิล จากีลก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลจ์ตัน เบนส์; สตีเว่น เนสมิธ, ลีออน ออสแมน, มารูยาน เฟลลายนี่, สตีเว่น พีนาร์; วิคเตอร์ อนิเชบี้, นิคิช่า เยลาวิช
ผู้จัดการทีม: เดวิด มอยส์

เวสต์บรอม (4-2-3-1): เบน ฟอสเตอร์, บิลลี่ โจนส์, แกเร็ธ แม็คคอลี่ย์, โยนาส โอลส์สัน, เลียม ริดจ์เวลล์; คริส บรันท์, เคลาดิโอ ยาค็อบ; ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้, เจมส์ มอร์ริสัน, เจอโรม โธมัส; โรเมลู ลูคาคู
ผู้จัดการทีม: สตีฟ คลาร์ก


ฮอตสกอร์: เสมอ 1-1

 

(13) นอริช – สเปอร์ส (4)

เวลา: 02.45 น.

สนาม: แคร์โรว์ โร้ด

ผู้ตัดสิน: นีล ซวอร์บริค

ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 5


ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
นอริช
26 ม.ค. 56    แพ้    ลูตัน             0-1 (เหย้า)    เอฟเอคัพ
19 ม.ค. 56    แพ้    ลิเวอร์พูล        0-5 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก
12 ม.ค. 56    เสมอ    นิวคาสเซิล    0-0 (เหย้า)    พรีเมียร์ลีก
5 ม.ค. 56     ชนะ    ปีเตอร์โบโร่      3-0 (เยือน)    เอฟเอคัพ
1 ม.ค. 56     แพ้    เวสต์แฮม        1-2 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก

สเปอร์ส
27 ม.ค. 56   แพ้    ลีดส์               1-2 (เยือน)    เอฟเอคัพ
20 ม.ค. 56   เสมอ   แมนฯ ยูไนเต็ด   1-1 (เหย้า)    พรีเมียร์ลีก
12 ม.ค. 56   เสมอ   ควีนส์ปาร์ค       0-0 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก
5 ม.ค. 56    ชนะ    โคเวนทรี          3-0 (เหย้า)    เอฟเอคัพ
1 ม.ค. 56    ชนะ    เรดดิ้ง             3-1 (เหย้า)    พรีเมียร์ลีก

ผลการพบกันนัดแรก
1 ก.ย. 55    สเปอร์ส 1-1 นอริช

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
31 ต.ค. 55    ลีกคัพ    นอริช 2-1 สเปอร์ส
9 เม.ย. 55    พรีเมียร์ลีก    สเปอร์ส 1-2 นอริช
27 ธ.ค. 54    พรีเมียร์ลีก    นอริช 0-2 สเปอร์ส
26 ธ.ค. 47    พรีเมียร์ลีก    นอริช 0-2 สเปอร์ส
12 ก.ย. 47    พรีเมียร์ลีก    สเปอร์ส 0-0 นอริช

ความพร้อม-สภาพทีม
นอริช
เซบาสเตียน บาสซง เซ็นเตอร์แบ็กตัวหลัก พร้อมกลับมาลงสนามอีกครั้ง หลังพักไปใน 2 นัดหลังสุดเพราะเจ็บน่อง แต่ก็คืนความฟิตทันลงเจอกับทีมเก่าได้
ส่วนสตีเว่น วิทเทกเกอร์ แบ็กขวาทีมชาติสกอตแลนด์ ก็พร้อมกลับมาเบียดแย่งตำแหน่งในทีมอีกครั้ง หลังหายเจ็บสะโพกกลับมามีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรองได้แล้วในเกมเอฟเอคัพ

เกมนี้ แฮร์รี่ เคน กองหน้าดาวรุ่ง ซึ่งถูกยืมตัวมาจากสเปอร์ส หมดสิทธิลงเตะกับต้นสังกัดแม่ตามกฎ และนกขมิ้นคงจะปรับทัพจากชุดบอลถ้วยกลับมาใช้ชุดใหญ่อีกครั้ง ด้วยการส่งนักเตะตัวหลักๆ กลับมาลงเล่นอย่างพร้อมหน้า
สตีฟ มอริสัน กองหน้าทีมชาติเวลส์ ยังไม่ฟิตสมบูรณ์จากอาการเจ็บต้นขา ส่วนจอห์น รัดดี้ ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ ก็ยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บแบบเดียวกันอยู่ โดยเกมนี้ลี แคมป์ นายทวารคนใหม่ น่าจะถูกใส่ชื่อไว้ในทีมด้วย

ผู้เล่นบาดเจ็บ: สตีฟ มอริสัน, จอห์น รัดดี้ (ต้นขา)

ความพร้อม-สภาพทีม
สเปอร์ส
เจอร์เมน เดโฟ กองหน้าตัวเก่ง น่าจะกลับมาลงสนามได้ตามเดิมในแกมนี้ หลังมีปัญหาเจ็บเชิงกรานรบกวน จนทำให้ไม่พร้อมลงเตะในเกมเอฟเอคัพ ส่วนเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หัวหอกชาวโตโก ยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจในการทำศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ
วิลเลี่ยม กัลลาส กองหลังตัวเก๋า ยังต้องรอเช็กความฟิตอีกครั้งว่าจะพร้อมคัมแบ็กกลับมาสู่ทีมได้หรือยัง หลังพักไปนานเพราะอาการเจ็บน่อง แต่ยูเนส กาบูล เซ็นเตอร์แบ็กตัวหลักอีกคน ยังไม่หายเจ็บเข่าเช่นเดิม

เกมนี้ไก่เดือยทองก็จะปรับทัพการใช้ผู้เล่นชุดใหญ่อีกครั้งเช่นกัน โดยฮูโก้ ญอริส จะลงมาเฝ้าเสาแทนแบร๊ด ฟรีเดล ส่วนไมเคิล ดอว์สันก็น่าจะกลับมายืนในแนวรับ ขณะที่มุสซา เดมเบเล่ก็จะลงมาเป็นจอมทัพในแดนกลางตามเดิม
ลูอิส โฮลท์บาย มิดฟิลด์ตัวใหม่ จะยังไม่มีส่วนร่วมในเกมนี้ เพราะยังไม่ได้เดินทางมาร่วมทีม

ผู้เล่นบาดเจ็บ: วิลเลี่ยม กัลลาส (น่อง), ซานโดร, ยูเนส กาบูล (เข่า)

วิเคราะห์รูปเกม
ทั้งสองทีมถูกเขี่ยตกรอบเอฟเอคัพมาแบบพลิกล็อกด้วยกัน โดยเฉพาะนอริชที่ถูกทีมนอกลีกบุกมาขย่มคาค้างแบบยับเยิน ทำให้เกมนี้ต้องกู้หน้ากลับมาให้ได้ แต่ก็คงไม่ง่ายในการเจอกับสเปอร์สที่ฟอร์มยังถือว่าแกร่งและสม่ำเสมอ แม้จะพลาดท่าเสียทีมาในบอลถ้วยก็ตาม แต่นัดนี้ไก่เดือยทองจะปรับทัพกลับมาใช้ชุดใหญ่อีกครั้ง ซึ่งเหนือกว่าทีมชุดใหญ่ของนกขมิ้นอยู่พอสมควร แต่เกมนี้คริส ฮิวจ์ตันคงต้องเน้นเต็มที่ในการเจอกับทีมเก่า แม้ผลงานช่วงหลังจะย่ำแย่ไม่ชนะเลยในหลายนัดหลัง แต่เกมนี้เจ้าถิ่นที่มีระบบที่ดีและเล่นอย่างมีวินัย น่าจะมีลู้นสู้กับทีมเยือนได้สนุก และไม่น่าจะพลาดท่าเสียทีง่ายๆ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:

นอริช (4-5-1): มาร์ค บันน์; รัสเซลล์ มาร์ติน, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, เซบาสเตียน บาสซง, ฆาเบียร์ การ์ริโด้; โรเบิร์ต สน็อดกราสส์, อเล็กซ์ เท็ตตี้, เวส ฮูลาแฮน, แบรดลี่ย์ จอห์นสัน, แอนโธนี่ พิลคิงตัน; แกรนท์ โฮลท์
ผู้จัดการทีม: คริส ฮิวจ์ตัน

สเปอร์ส (4-2-3-1): ฮูโก้ ญอริส; ไคล์ วอล์คเกอร์, ไมเคิล ดอว์สัน, แยน แฟร์ทองเก้น, เบอนัวต์ อัสซู-เอก๊อตโต้; สก็อตต์ ปาร์คเกอร์, มุสซา เดมเบเล่; อารอน เลนน่อน, คลินท์ เดมพ์ซี่ย์, แกเร็ธ เบล; เจอร์เมน เดโฟ
ผู้จัดการทีม: อังเดร วิลลาส โบอาส

ฮอตสกอร์: เสมอ 1-1

 

(14) ฟูแล่ม – เวสต์แฮม (12)

เวลา: 03.00 น.

สนาม: คราเวน ค็อตเทจ

ผู้ตัดสิน: คริส ฟอย

ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 6


ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ฟูแล่ม
26 ม.ค. 56    แพ้    แมนฯ ยูไนเต็ด        1-4 (เยือน)    เอฟเอคัพ
19 ม.ค. 56    แพ้    แมนฯ ซิตี้        0-2 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก
15 ม.ค. 56    ชนะ    แบล็คพูล        2-1 (เยือน)    เอฟเอคัพ
12 ม.ค. 56    เสมอ    วีแกน        1-1 (เหย้า)    พรีเมียร์ลีก
5 ม.ค. 56    เสมอ    แบล็คพูล        1-1 (เหย้า)    เอฟเอคัพ

เวสต์แฮม
23 ม.ค. 56    แพ้    อาร์เซนอล        1-5 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก
19 ม.ค. 56    เสมอ    ควีนส์ปาร์ค        1-1 (เหย้า)    พรีเมียร์ลีก
16 ม.ค. 56    แพ้    แมนฯ ยูไนเต็ด        0-1 (เยือน)    เอฟเอคัพ
12 ม.ค. 56    แพ้    ซันเดอร์แลนด์        0-3 (เยือน)    พรีเมียร์ลีก
5 ม.ค. 56    เสมอ    แมนฯ ยูไนเต็ด        2-2 (เหย้า)    เอฟเอคัพ

ผลการพบกันนัดแรก
1 ก.ย. 55    เวสต์แฮม 3-0 ฟูแล่ม

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
26 ธ.ค. 53    พรีเมียร์ลีก    ฟูแล่ม 1-3 เวสต์แฮม
2 ต.ค. 53    พรีเมียร์ลีก    เวสต์แฮม 1-1 ฟูแล่ม
2 พ.ค. 53    พรีเมียร์ลีก    ฟูแล่ม 3-2 เวสต์แฮม
4 ต.ค. 52    พรีเมียร์ลีก    เวสต์แฮม 2-2 ฟูแล่ม
18 ม.ค. 52    พรีเมียร์ลีก    เวสต์แฮม 3-1 ฟูแล่ม
27 ก.ย. 51    พรีเมียร์ลีก    ฟูแล่ม 1-2 เวสต์แฮม

ความพร้อม-สภาพทีม
ฟูแล่ม
เอ็มมานูเอล ฟริมปง มิดฟิลด์ดาวรุ่งของอาร์เซนอล ถูกยืมตัวมาเสริมทีมก่อนปิดตลาด และอาจจะได้มีส่วนร่วมในเกมนี้ทันที แต่ต้องลุ้นว่าจะเบียดแย่งตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางกับสตีฟ ซิดเวลล์, คริส แบร์ด และจอร์จอส คารากูนิสได้หรือไม่

ส่วนมาอามาดู ดิยาร์ร่า มิดฟิลด์ชาวมาลี ยังไม่ฟิตสมบูรณ์จากปัญหาเจ็บเข่าเช่นเดิม เช่นเดียวกับเคริม ฟรายและไซม่อน เดวี่ส์ที่หมดสิทธิลงสนามอีกครั้งเช่นกัน
คีแรน ริชาร์ดสัน น่าจะสลัดปัญหาเจ็บน่อง ซึ่งทำให้เขาพลาดเกมเอฟเอคัพมาแล้ว กลับมาเป็นตัวเลือกได้ในตำแหน่งแบ็กซ้าย หลังจากยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ที่ถูกดร็อปไปนาน ได้โอกาสกลับมาลงเล่นในเกมล่าสุด

ผู้เล่นบาดเจ็บ: มาอามาดู ดิยาร์ร่า, ไซม่อน เดวี่ส์ (เข่า), เคริม ฟราย (เชิงกราน)

ความพร้อม-สภาพทีม
เวสต์แฮม
แอนดี้ คาร์โรลล์ หัวหอกทีมชาติอังกฤษ น่าจะกลับมามีชื่ออยู่ในทีมชุดนี้อีกครั้ง หลังจากพักไปนานเพราะเจ็บเข่า แต่ก็กลับมาเรียกความฟิตได้ระยะหนึ่งแล้ว และคงมีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรองได้
ส่วนมารูยาน ชามัค กองหน้าที่ถูกยืมตัวมาจากอาร์เซนอล ก็พร้อมกลับมาเป็นตัวเลือกในนัดนี้ได้ หลังไม่ได้มีส่วนร่วมในเกมที่แล้วที่เจอกับต้นสังกัดแม่

ในแนวรับขุนค้อนได้เอ็มมานูเอล โปกาเตตซ์ กองหลังทีมชาติออสเตรีย มาเสริมทัพเป็นรายล่าสุด และจะมีชื่ออยู่ในทีมชุดนี้ด้วย
วินสตัน รีด กองหลังทีมชาตินิวซีแลนด์ ซึ่งเจ็บโคนขาหนีบมาจากเกมลีกนัดตกค้างเมื่อกลางสัปดาห์ก่อน น่าจะคืนความฟิตกลับมาได้ทันลงเป็นตัวหลักอีกครั้ง แต่เจมส์ คอลลินส์และจอร์จ แม็คคาร์ทนี่ย์เป็นสองนักเตะแนวรับที่ยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่เช่นเดิม
ส่วนแดน พ็อตส์ ฟูลแบ็กดาวรุ่ง อาจต้องพักไปในเกนี้ หลังศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนมาจากเกมล่าสุด

ผู้เล่นบาดเจ็บ: แดเนี่ยล พ็อตส์ (ศีรษะ), เจมส์ คอลลินส์ (แฮมสตริง), จอร์จ แม็คคาร์ทนี่ย์ (เข่า)

วิเคราะห์รูปเกม
ฟูแล่มถูกแมนฯ ยูไนเต็ดอัดยับมาในเกมเอฟเอคัพ ทำให้นัดนี้ต้องเรียกศรัทธาคืนมาจากแฟนๆ ในบ้านให้ได้ โดยเฉพาะเมื่อเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีอย่างเกมลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ซึ่งเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกันของเวสต์แฮมแล้ว โดยขุนค้อนไม่ชนะเลยในสองเกมก่อนหน้านี้ นัดนี้ต้องออกมาเล่นนอกบ้านที่ทำผลงานได้ไม่ค่อยดี คงต้องลุ้นเหนื่อยอีกครั้ง แต่เจ้าสัวน้อยเองฟอร์มในบ้านก็ไม่แกร่งเหมือนเดิม เกมนี้ถือว่าคู่คี่สูสี แต่แผงกลางของทีมเยือนดูจะเหนือกว่านิดๆ แต่แนวรับก็ต้องไม่ประมาทแนวรุกของเจ้าถิ่นที่ดูดีกว่า นัดนี้คงกินกันยาก และขุนค้อนที่ได้เปรียบเรื่องความสด น่าจะมีลุ้นหยิบแต้มสำคัญกลับไปได้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:

ฟูแล่ม (4-4-2): มาร์ค ชวาร์เซอร์; ซาช่า รีเธอร์, อารอน ฮิวจ์ส, เบรเด้ ฮันเกลันด์, คีแรน ริชาร์ดสัน; เดเมี่ยน ดัฟฟ์, เอ็มมานูเอล ฟริมปง, สตีฟ ซิดเวลล์, อัสคาน เดจากาห์; ไบรอัน รุยซ์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ผู้จัดการทีม: มาร์ติน โยล

เวสต์แฮม (4-2-3-1): ยุสซี่ ยัสเคไลเนน; กีย์ เดอเมล, วินสตัน รีด, เจมส์ ทอมกินส์, โจอี้ โอไบรอัน; โมฮาเหม็ด ดิยาเม่, มาร์ค โนเบิ้ล; โจ โคล, เควิน โนแลน, แมทธิว จาร์วิส; มารูยาน ชามัค
ผู้จัดการทีม: แซม อัลลาร์ไดซ์

ฮอตสกอร์: เสมอ 1-1

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook