โฉมหน้าผู้ถือตั๋วไปบราซิลทั้ง 10

ฟุตบอล : หลังจากผ่านสัปดาห์ทีมชาติ และบรรยากาศครุกรุ่นของศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือกในทวีปต่างๆ ไปแบบสดๆ ร้อนๆ ทำให้ตั๋วไปลุยฟุตบอลโลกทั้ง 32 ใบเริ่มมีผู้จับจองเป็นหลักเป็นฐานกันมากขึ้น ตอนนี้โดนฉวยไปแน่ๆ แล้ว 10 เราไปดูโฉมหน้าผู้ถือตัวทั้ง 10 ในตอนนี้กันเลย

ใบที่ 1 บราซิล

แน่นอนว่าเจ้าภาพย่อมได้สิทธิ์ผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติ และแม้ไม่ผ่านเกมรอบคัดเลือกให้ลับฝีแข้งเลย และอันดับโลกตอนนี้ก็ตกมาถึงที่ 9 แต่ยังสามารถประกาศความเป็นยอดทีมด้วยการคว้าแชมป์ ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชั่น คัพ 2013 มาได้ ยิ่งทำให้ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความน่ากลัวของพลพรรค "แซมบ้า" แน่นอน

ใบที่ 2 ญี่ปุ่น

ขุนพล "ซามูไร" จากแดนอาทิตย์อุทัย แสดงความเป็นมหาอำนาจลูกหลังของเอเชียอย่างแท้จริงด้วยการคว้าตัวใบแรกไปครองต่อจากเจ้าภาพที่ถือตั๋วไว้อยู่แล้ว แม้ในเวทีโลกบรรดานักเตะเลือดบูชิโดยังดูเป็นรองบรรดาชาติจากยุโรป และอเมริกาใต้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นอีกทีมที่มีความมุ่งมั่นไม่แพ้ใคร

ใบที่ 3 ออสเตรเลีย

อีกหนึ่งตัวแทนจากโซนเอเชีย ที่ย้ายมาจากโซนโอเชเนีย ชัยชนะในบ้านเหนือ จอร์แดน 4-0 เมื่อ 11 มิถุนายนถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้พวกเขาคว้าตั๋ว 1 ในโควต้า 4 ใบครึ่งของโซนเอเชียต่อจากยอดทีมแดนปลาดิบไปครอง ขุนพล "ซอคเกอร์รูส์" ยังคงเป็นทีมที่หน้ากลัวในเวทีโลก แม้ว่าจะเคยเข้าเล่นรายการนี้เพียงแค่ 4 ครั้งก็ตาม

ใบที่ 4 อิหร่าน

อดีตทีมที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งของเอเชีย ยังคงไว้ลายด้วยการคว้าแชมป์กลุ่ม เอ ในรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายของโซน เอเชีย ได้สำเร็จ แซงหน้าทีมเต็งอย่าง เกาหลีใต้ มาได้ โดยเฉพาะผลงานการเก็บ 6 แต้มเต็มแบบไปกลับจาก "โสมขาว" พร้อมกับการเบียดแย่งพื้นที่กันอย่างเอาเป็นเอาตายกับ อุซเบกิสถาน แต่ก็ผ่านมาได้ในฐานะผู้มีชัยในที่สุด

ใบที่ 5 เกาหลีใต้

ว่ากันตามเนื้อผ้า "โสมขาว" สมควรผ่านเข้ารอบคว้าตั๋วไปแบบไม่ยากเย็น แต่กลับกลายเป็นทีมที่หืดจับที่สุดของเอเชีย ที่ผ่านเข้ารอบได้ก็ต้องวัดกันถึงนัดสุดท้าย และชนะ อุซเบกิสถาน ไปด้วยประตูได้เสีย แถมชนะเพียงแค่ลูกเดียว ที่ต้องบอกว่าลุ้นเหนื่อยก็เพราะในนัดสุดท้ายพวกเขาแพ้ อิหร่าน 0-1 ขณะที่ อุซเบฯ ไปถล่ม กาตาร์ ถึง 5-1 น่าเสียดายที่ไม่พอ

ใบที่ 6 ฮอลแลนด์

ราชันไร้บัลลังก์ในฟุตบอลโลกเป็นทีมจากยุโรปทีมแรกที่ตีตั๋วเข้าไปได้ เมื่อวันที่ 10 กันยานยนที่ผ่านมานี้เอง หลังจากบุกไปชนะ อันดอร่า ได้ 2-0 จาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ทั้งสองลูก ทำให้มีแต้มห่าง ฮังการี่ อันดับ 2 ถึง 8 แต้ม หยิบตั๋วใบแรกจากโควต้า 13 ใบไปครองแบบสบายๆ เรียกว่ากลบคำครหาเมื่อครั้งที่ตกรอบแรก ยูโร 2012 ไปแบบหมดจด

ใบที่ 7 อิตาลี

อดีตแชมป์โลกทีมแรกที่สามารถชิงตัวมาครองได้สำเร็จ (ไม่นับเจ้าภาพ) พลพรรค "อัซซูรี่" กลับมาผลงานยอดเยี่ยมอีกครั้งในช่วงหลัง นับตั้งแต่ร่วงรอบแรก ฟุตบอลโลก 2010 ก็ได้รองแชมป์ ยูโร 2012 และอันดับ 3 ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชั่น คัพ ครั้งล่าสุดมาได้ พร้อมด้วยบรรดาแข้งเลือดใหม่ยิ่งทำให้ขุนพล "มะกะโรนี" เป็นอีกหนึ่งทีมเต็งที่มีลุ้นถึงแชมป์

ใบที่ 8 สหรัฐอเมริกา

ทีมแรกจากโซน คอนคาเคฟ ที่ผ่านเข้ามาได้เป็นทีมแรกแบบไม่พลิกความคาดหมายเท่าไหร่ หลังจากเอาชนะ เม็กซิโก อีกทีมที่เป็นคู่แข่งและเป็นตัวเต็งได้แบบเหนือกว่าที่ 2-0 ทำให้ มีแต้มทิ้งห่างอันดับ 4 ถึง 8 แต้ม และเหลือการแข่งอีก 2 นัด ทำให้ได้ตั๋วไปครอง แม้คนในชาติจะไม่ค่อยสนกีฬาซอคเกอร์สักเท่าไหร่ แต่ฝีเท้านักเตะก็ยังไม่ธรรมดาเหมือนเคย

ใบที่ 9 คอสตาริก้า

เรียกว่าตามหลังทีมเมืองลุงแซมไปแบบติดๆ จากการบุกไปเสมอกับ จาเมก้า 1-1 เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 กันยายนตามเวลาประเทศไทย ทำให้มีแต้ม 15แต้ม ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกได้เป็นสมัยที่ 4 ได้สำเร็จ

ใบที่ 10 อาร์เจนติน่า

อีกหนึ่งชาติมหาอำนาจลูกหนังที่คว้าตั๋วไปได้แบบไม่พลิกความคาดหมาย เพื่อไปไล่ล่าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ที่ห่างหายไปมากกว่า 20 ปี (ครั้งสุดท้ายปี 1986) ครั้งนี้ภายใต้ของกัปตัน ลิโอเนล เมสซี่ นักเตะที่เก่งที่สุดในโลก พาลูกทีมไปไล่ยำ ปารากวัย ถึง 5-2 ซิวตั๋วใบแรกของโซน 

ยังเหลือตั๋วอีก 22 ใบ แบ่งเป็น 5 ใบจากแอฟริกาที่ตอนนี้เข้าสู่รอบเพลย์ออฟ 10 ที่เป็นแชมป์กลุ่มจะต้องชนกันคัดเอาผู้ชนะผ่านเข้ารอบไป บรรดาทีมเต็งๆ ก็ยังมากันครบ จะขาดก็แค่ แอฟริกาใต้ เจ้าภาพคราวก่อนที่บ๊ายบายไปแล้วเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมี 11 ใบของโซนยุโรป ที่ทีมอย่าง เบลเยี่ยม, เยอรมัน และ รัสเซีย เอามือจองไว้แล้วข้างหนึ่ง แต่ก็ยังมีหลายกลุ่มที่ต้องลุ้นกันจนวินาทีสุดท้าย รวมถึงการเพลย์ออฟของอันดับ 2 ที่ผลงานดีที่สุด 8 ทีมด้วย

และยังมี 3 ใบจากอเมริกาใต้ 1 ใบจากคอนคาเคฟ ส่วนที่เหลืออีก 2 ใบ ผู้ชนะจากเพลย์ออฟโซนเอเชีย จะดวลกับอันดับ 5 โซนอเมริกาใต้ และ อันดับ 4 โซนคอนคาเคฟ จะดวลกับ แชมป์โซนโอเชเนีย เพื่อชิงตั๋ว 2 ใบสุดท้ายนั้น

เรียกว่าไม่ต้องลุ้นกันอีกยาวเลยเพราะบางโซนเดือนตุลาคมนี้ก็รู้ผลแล้ว

เรื่องโดย "FIATTA"