เป็นมากกว่าสโมสร : "บาร์ซ่า" กับเส้นทางสู่ "ซิลิคอน วัลเลย์" แห่งวงการกีฬา

หากจับคู่กีฬากับเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน สิ่งที่ผู้คนนึกถึง ย่อมหนีไม่พ้น สโมสรบาร์เซโลน่า ทีมฟุตบอลระดับหัวแถว ที่มีแฟนบอลมากมายทั่วทุกมุมโลก

ความเป็นสุดยอดบนผืนหญ้า ได้รับการการันตีด้วยถ้วยแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 5 สมัย และแชมป์ลีกสูงสุดประจำประเทศสเปน อีก 26 สมัย

 

ท่ามกลางยุคโลกาภิวัฒน์ สโมสรบาร์เซโลน่า กำลังหาความท้าทายใหม่ และพวกเขาต้องการเป็นเบอร์ 1 ของโลก หากแต่เรื่องที่ว่า ไม่เกี่ยวกับการแข่งขัน ในสนามฟุตบอล แต่เป็นเป้าหมายของการเป็น “ซิลิคอน วัลเลย์” ศูนย์รวมด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านกีฬา มารวบรวมไว้ที่เมืองแห่งสถาปัตยกรรมของเกาดี แต่เพียงผู้เดียว

รู้จักกับซิลิคอน วัลเลย์

ซิลิคอน วัลเลย์ คือชื่อเรียกของพื้นที่ บริเวณทางตอนใต้ ของอ่าวซานฟานซิสโก ครอบคลุมเขตแดนของหลายเมือง ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา อันเป็นสถานที่ตั้งของบริษัทยักษ์ใหญ่ ด้านเทคโนโลยีมากมายหลายเจ้า

 

แอปเปิล, อีเบย์, เฟซบุค, เน็ตฟลิกซ์, ทวิตเตอร์ หรือ กูเกิล (ปัจจุบันชื่อบริษัทอัลฟาเบ็ต) คือตัวอย่างของบริษัทชั้นนำด้านไอทีส่วนหนึ่งจากหลายๆบริษัท ที่ตั้งอยู่ในบริเวณ ซิลิคอนวัลเลย์ 

ด้วยเหตุนี้ทำให้พื้นที่ดังกล่าว ถูกเรียกให้เป็น ศูนย์กลางของโลกไอที เทคโนโลยีทางด้านสารสนเทศ ที่มีบทบาทในโลกอินเทอร์เนตปัจจุบัน ไม่แปลกหากหลายๆ นวัตกรรมของโลกจะถูกคิดค้นจาก ซิลิคอน วัลเลย์  

ไม่เพียงเท่านั้น ภายใน ซิลิคอน วัลเลย์ ยังเป็นสถานที่ตั้งของมหาวิทยาลัย ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเรียนการสอน ด้านเทคโนโลยี เช่น มหาวิทยาลัย คาร์เนกี เมลลอน, มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด, มหาวิทยาลัย โกลเดน เกต, มหาวิทยาลัยซาน โฮเซ่, มหาวิทยาลัยซานตา คลารา 

มหาวิทยาลัยเหล่านี้ คือ แหล่งผลิตพนักงานฝีมือชั้นเลิศ ให้กับบริษัทด้านไอที ในบริเวณของซิลลิคอน วัลเลย์ เปรียบเสมือนว่า กระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้

ซิลิคอน วัลเลย์ จึงเปรียบเสมือนดินแดนขนาดใหญ่ ที่รวบรวมความเป็นสุดยอดด้านไอที ไว้ในพื้นที่แห่งนี้ และกลายเป็นพื้นที่ในฝันของคนที่รักด้านไอที อยากไปทำงานหรือไปเยี่ยมเยือน พื้นที่แห่งนี้...ทำให้ปัจจุบัน ซิลิคอน วัลเลย์ จึงเปรียบเสมือนแหล่งท่องเที่ยว บริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก ไปโดยปริยาย

 

นอกจากนี้ ความรุ่งเรืองของซิลิคอน วัลเลย์ ยังช่วยให้มีการจ้างงานในพื้นที่ มากกว่า 200,000 ตำแหน่ง รวมถึงเพิ่มมูลค่า ในพื้นที่ตอนล่างของอ่าวซานฟรานซิสโก ให้สูงขึ้นหลายเท่าตัว 

จนกลายเป็นดินแดนทองคำที่บริษัทเงินทุนหนาทั่วโลก หันมาลงทุน โดยในปี 2012 เงินลงทุนกว่า 46 เปอร์เซ็นต์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นในพื้นที่ ซิลิคอน วัลเลย์

ดังนั้น ซิลิคอน วัลเลย์ จึงไม่ได้มีคุณค่า ในโลกของวงการไอทีเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งต้นแบบ ของวิธีในการพัฒนา และยกระดับคุณภาพของเมืองเช่นเดียวกัน

ซิลิคอน วัลเลย์ ของวงการกีฬา?

ความสำเร็จของซิลิคอน วัลเลย์ กลายเป็นต้นแบบ ให้หลายพื้นที่ทั่วโลก หวังเปลี่ยนตัวเอง ให้กลายเป็นซิลิคอน วัลเลย์ หมายเลข 2 เพื่อพัฒนาเมืองของตัวเอง หนึ่งในนั้นคือ “บาร์เซโลน่า” เมืองเอกจากแคว้นคาตาลุญญ่า ประเทศสเปน

 

บาร์เซโลน่า ไม่ได้ต้องการลอกเลียนแบบ ซิลิคอน วัลเลย์ ที่เขตซานฟรานซิสโก แต่พวกเขาต้องการสร้าง ซิลิคอน วัลเลย์ ตามแบบฉบับของตัวเอง ด้วยการชูเรื่องกีฬา เป็นจุดขายสำคัญ ภายใต้การนำของสโมสรบาร์เซโลน่า ทีมฟุตบอลชื่อดังของโลก

ย้อนไปในวันที่ สโมสรบาร์เซโลน่า ประกาศเริ่มต้นโปรเจกต์อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2017 ในชื่อโครงการ บาร์ซ่า อินโนเวชั่น ฮับ (Barca Innovation Hub) โดยมีเป้าหมาย ที่จะให้เมืองบาร์เซโลน่า เป็นศูนย์กลางการพัฒนาความรู้ และนวัตกรรมด้านกีฬา

“โครงการของเรา คือ การสานต่อคำว่า ‘เป็นมากกว่าสโมสร’ เราต้องการเปลี่ยนแปลงโลกกีฬา ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยการใช้ความรู้ และนวัตกรรม”

“เราต้องการเป็นศูนย์กลางอันดับหนึ่ง ด้านนวัตกรรมกีฬาของโลก ที่จะสร้างแรงสั่นสะเทือน ให้กับอุตสาหกรรมกีฬา และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ด้วยการสร้างสินค้า และบริการรูปแบบใหม่” โจเซฟ มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรบาร์เซโลน่า กล่าวในงานเปิดตัวโครงการ

 

บาร์เซโลน่า เริ่มต้นโครงการด้วยการจับมือกับ บริษัทเทคโนโลยี ระดับข้ามชาติหลายบริษัท เช่น ออปโป (Oppo) บริษัทมือถือจากประเทศจีน และ อีติซาลัต (Etisalat) บริษัทด้านโทรคมนาคม จาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงการไปดูงาน ณ ซิลิคอน วัลเลย์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

เพื่อให้โครงการในฝันเกิดขึ้นจริง สโมสรบาร์เซโลน่า จึงเป็นหัวเรือใหญ่ ในการให้เงินทุนสนับสนุน ในการก่อตั้งบริษัทที่คลอบคลุมในการพัฒนานวัตกรรม ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ทั้งด้านอาหาร, สุขภาพ ไปจนถึงการพัฒนาคุณภาพ ของตัวกีฬา

“เราสามารถใช้โปรแกรมอย่าง Wimu (เครื่องมือและโปรแกรมเก็บสถิติร่างกายของนักกีฬา) เพื่อให้ข้อมูล ของนักกีฬาได้ทุกประเภท ซึ่งสามารถช่วยให้เราคาดการณ์ อาการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้นกับนักกีฬาได้ ต่อจากนี้จะไม่มีเหตุการณ์ให้เหล่าผู้ฝึกสอน ต้องปวดหัวอีกต่อไป” มาร์ธา โดรเปซ หัวหน้าโครงการ บาร์ซ่า อินโนเวชั่น ฮับ กล่าว

เวลาผ่านไป 2 ปี สโมสรบาร์เซโลน่า ก้าวขึ้นเป็นผู้สนับสนุนบริษัทด้านนวัตกรรมกีฬาในเมือง ร่วม 70 บริษัท การเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้สโมสรกีฬาแห่งนี้ ประกาศถึงเป้าหมาย ที่ยิ่งใหญ่ ด้วยการตั้งเป้าเป็น ซิลิคอน วัลเลย์ แห่งวงการกีฬา 

การสร้างเทคโนโลยี Wimu คือความสำเร็จที่แท้จริง ของสโมสรแห่งนี้ เนื่องจากนวัตกรรมที่สโมสรบาร์เซโลน่า เป็นผู้ร่วมคิดค้นขึ้น ปัจจุบันได้รับการยอมรับจาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า และถูกใช้งาน ในทีมฟุตบอลระดับโลกอย่าง ทีมชาติสเปน, สโมสรบาร์เซโลน่า แม้กระทั่งสโมสรเรอัล มาดริด คู่ปรับตลอดกาล ยังเลือกใช้เทคโนโลยี Wimu ในการเก็บข้อมูลของนักเตะ

 

นอกจากนี้ ปัจจุบันสโมสรบาร์เซโลน่า ยังใช้เทคโนโลยีในการเก็บข้อมูล ของนักกีฬายามหลับ ซึ่งสโมสรร่วมคิดค้นขึ้นมา กับบริษัทพาร์ทเนอร์ เพื่อนำข้อมูลที่ได้ ไปพัฒนาศักยภาพของผู้เล่น รวมไปถึงการคิดค้น ยาที่ช่วยให้นักกีฬา สามารถนอนหลับได้เต็มที่ หรือเครื่องดื่มที่ช่วยฟื้นฟูพลังงาน ให้กับร่างกาย 

ความรู้ด้านกีฬาที่บาร์เซโลน่า สะสมไว้ในตัวสโมสร เป็นเวลายาวนานกว่า 119 ปี เมื่อนำไปบวกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงช่วยให้นวัตกรรมด้านกีฬา สามารถยกระดับและเติบโต ได้อย่างรวดเร็ว

“เราแบ่งปันทุกความรู้ที่เรามี ทั้งภายในสโมสร ให้กับผู้อื่น หรือใครก็ตามที่สนใจในเรื่องพวกนี้” มาร์ธา โดรเปซ กล่าว “เพราะเราเชื่อว่า การแบ่งปันความรู้ จะช่วยให้เราพัฒนา จนกลายเป็นซิลิคอน วัลเลย์ ของวงการกีฬา”

เป้าหมายของการพัฒนา

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญ ของการพัฒนาเมืองบาร์เซโลน่า ให้กลายเป็นศูนย์กลาง ด้านนวัตกรรมกีฬา ก็เพื่อพัฒนาขีดศักยภาพของนักกีฬา ภายใต้สังกัดสโมสรบาร์เซโลน่า โดยปัจจุบันมีผู้เล่นมากกว่า 2,000 คน ที่อยู่ภายใต้สังกัดของทีมสีเลือดหมู-น้ำเงิน จากทั้ง 18 ทีมกีฬา ทั้งอาชีพ และสมัครเล่น

 

“เราต้องการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา ในทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาฟุตบอล เราต้องการจะเป็นทีมที่ดีกว่าเดิม และต้องการแน่ใจว่า นักเตะของเราทำผลงานได้อย่างเต็มที่ ยามลงสู่สนาม”

“เราคือสโมสรฟุตบอลทีมแรก ที่พัฒนานวัตกรรมด้วยตัวเอง ทำวิจัยเกี่ยวกับด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา เพราะทุกคนในสโมสรแห่งนี้ ต้องการจะยกระดับของวงการกีฬา ให้ก้าวไปอีกขั้น” มาร์ธา โดรเปซ หัวหน้าโครงการ บาร์ซ่า อินโนเวชั่น ฮับ ให้สัมภาษณ์กับสื่อในประเทศสหรัฐอเมริกา

ไม่ใช่แค่สโมสรบาร์เซโลน่า ที่จะได้ประโยชน์จากการรวมองค์ความรู้ ไว้ที่เมืองใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน แต่เป็นทั้งวงการฟุตบอล ที่จะได้ประโยชน์ จากการพัฒนานวัตกรรมด้านกีฬา ดังที่หลายทีมฟุตบอล ในแดนกระทิงดุ นำนวัตกรรมที่สโมสรบาร์เซโลน่า ร่วมคิดค้นขึ้น ไปใช้งานเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักเตะ

อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ ของการสร้างซิลิคอน วัลเลย์ ที่บาร์เซโลน่า คือการยกระดับเมืองแห่งนี้ ให้ก้าวไกลมากขึ้นไปกว่าเดิม ผ่านการเป็นศูนย์กลาง ของนวัตกรรมด้านกีฬา

“นี่คือโอกาสสำคัญ ที่บาร์เซโลน่า จะเป็นเมืองที่ดียิ่งขึ้น มีสังคมที่ดียิ่งขึ้น” โตรเปซ เผย “เรารู้ตังแต่ต้นว่า การพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม จะนำมาสู่การพัฒนาสังคมของเรา ในชีวิตประจำวัน”

“เราไม่จำเป็น ต้องจ้างคนจากภายนอกเข้ามาทำงาน ในเมื่อเรามีบุคลากร ที่มีความรู้อยู่ภายในองค์กรตั้งมากมาย เรามีอดีตหมอประจำทีมทีมฟุตบอล หรือทีมบาสเกตบอล เราดึงพวกเขามาทำงานให้กับการคิดค้นนวัตกรรม ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาแทน นี่คือสิ่งที่เราสามารถทำให้สังคมได้ เราให้งานแก่พวกเขา” ฮาเวียร์ ซอบริโน บอร์ดบริหารด้านแผนงาน และนวัตกรรม ของสโมสรบาร์เซโลน่า กล่าว

 

แผนการการเป็นซิลิคอน วัลเลย์ของวงการกีฬา ของสโมสรบาร์เซโลน่า เริ่มต้นได้เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น ในขณะที่ ซิลิคอน วัลเลย์ ที่อ่าวซานฟรานซิสโก กว่าจะรวมตัวเป็นศูนย์กลาง ด้านเทคโนโลยี ได้มีการเริ่มต้นอย่างจริงจัง ตั้งแต่ช่วงปี 1970 หรือประมาณเกือบ 50 ปีก่อนหน้านี้ 

ดังนั้นการคาดหวังความสำเร็จ ของการพัฒนานวัตกรรมด้านกีฬา ที่เมืองบาร์เซโลน่า จึงเป็นเรื่องที่ยาวไกล หากจะคาดการณ์ว่า โปรเจกต์นี้ จะประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลว? แม้แต่ทางสโมสรเอง ยังยอมรับว่า โครงการนี้ กว่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจน ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปีต่อจากนี้

“มันคือความท้าทายของเรา ว่าจะสามารถทำวิจัย พัฒนานวัตกรรมได้มากแค่ไหน ในสถานการณ์แบบนี้ แน่นอนมันไม่ง่าย แต่สิ่งสำคัญคือ เราเข้าใจความจริงที่ว่า ถ้าสโมสรอยากประสบความสำเร็จ เราต้องวิ่งเข้าหาความท้าทายนี้ เพื่อให้เรา เป็นมากกว่าสโมสรกีฬา” ซอบรีโน เปิดเผย

สิ่งหนึ่งที่สโมสรบาร์เซโลน่าเป็นมาตลอด คือ การเป็นมากกว่าสโมสร ให้กับคนในเมืองบาร์เซโลน่า 

ในอีก 10 ข้างหน้า บาร์เซโลน่า อาจกลายเป็นเมืองศูนย์กลางด้านนวัตกรรม ตามที่สโมสรกีฬายักษ์ใหญ่ประจำเมือง วางเป้าหมายเอาไว้ และถึงเวลานั้น โลกกีฬาอาจเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง จากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน