มหัศจรรย์ "เชลซี" (คอลัมน์สนุกมือ / ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)

ก่อนฤดูกาลจะเริ่มต้นขึ้น สโมสรในกรุงลอนดอน เชลซี อยู่ในสภาพลำบากหนัก เพราะคำสั่งลงโทษแบบสายฟ้าฟาด แบนห้ามหยิบสมุดเช็คซื้อนักเตะใหม่ถึง 2 ช่วง แถมกุนซือคนเดิมอย่าง เมาริซิโอ ซาร์รี ตัดสินใจทิ้งทีมกลับอิตาลีไปอยู่กับยักษ์ใหญ่ ยูเวนตุส สตาร์ดังอย่าง เอแด็น อาซาร์ ก็ตัดสินใจโบกมือลาไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ดูเหมือนจะไม่มีข่าวดีเลยที่แสตมฟอร์ด บริดจ์ ขุมกำลังที่เหลือดูเหมือนจะเต็มไปด้วยนักเตะแก่ๆใกล้หมดสภาพ

"สิงโตน้ำเงินคราม" ตัดสินใจแต่งตั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด ตำนานสโมสรขึ้นเป็นผู้จัดการทีม ท่ามกลางเครื่องหมายคำถามว่า ด้วยประสบการณ์แค่นี้ พี่แลมพ์จะไหวเหรอ? คุม "แกะเขาเหล็ก" ดาร์บี้ เคาน์ตี้มาแค่ซีซั่นเดียว

ไม่น่าเชื่อว่า เอาเข้าจริงบอสหนุ่มผู้นี้ใช้เวลาปั้นทีมอยู่ไม่นาน อาจจะด้วยดีเอ็นเอ คุณพ่อ แฟรงค์ แลมพาร์ด ซีเนียร์ ยอดโค้ช บวกคุณลุง แฮร์รี เร้ดแน็ปป์ ยอดผู้จัดการทีมหรืออย่างไร ตอนนี้เขาเสกให้เชลซี กลายเป็นทีมแห่งอนาคตไปเสียแล้ว

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ จากวิกฤติกลายเป็นโอกาส แลมพาร์ดถือโอกาสโละผู้เล่นเก่าๆอย่าง อาซาร์, ดาวิด ลุยซ์, แกรี เคฮิลล์, ร็อบ กรีน, แดนนี ดริงค์วอเทอร์, เตมูเอ บากาโยโก เปิดโอกาสให้ผู้เล่นอย่าง แทมมี อับราฮัม, คริสเตียน พูลิซิช รวมทั้ง เมสัน เมาท์ ขึ้นมาเล่นตัวจริง

กุนซือหนุ่มผู้นี้จัดแจงผ่าตัดเปลี่ยนโฉมหน้าทีมเปลี่ยนมาใช้การเล่นระบบ 4-2-3-1 แทน 4-3-3 ของเดิม โดยคู่เซ็นเตอร์แบ็คเป็นดาวรุ่งอย่าง ฟิกาโร โทโมริ ยืนคู่กับ เคิร์ต ซูมา มิดฟิลด์คู่กลาง จอร์จินโญ ประสานกับ มัตเตโอ โควาซิช โดยให้ เมสัน เมาท์ เป็นตัวรุกอยู่บนยอดด้านบน ตำแหน่งเดียวกับที่ตัวแลมพ์เองเคยเล่น จนเมาท์โชว์ฟอร์มระเบิดเถิดเทิง และผมว่าน่าจะมีลุ้นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลเลยด้วยซ้ำ

ส่วนแผงกองหน้าใช้วิลเลียนทางขวา พูลิซิชซ้าย หน้าเป้าเป็น แทมมี อับราฮัม ทุกขุมกำลังนั้นผสมผสานหนุ่มกระทงกับนักเตะมีประสบการณ์ได้อย่างสมดุลย์ ไม่มีขาดไม่มีเกิน ฝีมือจริงๆ

ด้วยข้อจำกัดร้อยแปดประการแต่ตอนนี้ "สิงโตน้ำเงินคราม" กลับผงาดคว้าชัยรวดมา 5 นัดในพรีเมียร์ลีกแล้ว คริสเตียน พูลิซิช ที่ย้ายมาจากดอร์ทมุนด์ ก็เริ่มปรับตัวผลิตสกอร์ได้ ส่วนแทมมีไม่ต้องพูดถึง ออกตัวนำร่องไปก่อนแล้ว

นี่ขนาดยังไม่มี เอ็นโกโล ก็องเต, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, อันเดรียส คริสเตนเซน และ เปโดร ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บยังพุ่งแรงได้ขนาดนี้ สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือแลมพาร์ดสามารถลดอายุเฉลี่ยของทีมลงได้อย่างน่าทึ่ง ถ้าผลงานเวิร์คยาวๆแล้วละก็ เขาจะสามารถใช้นักเตะชุดนี้เก็บเกี่ยวความสำเร็จไปได้อีกหลายปีทีเดียว

ลองเปรียบเทียบกับกุนซือ อย่าง โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ซึ่งเน้นดาวรุ่งเหมือนกัน มารับงานก่อนแลมพาร์ดด้วยซ้ำ แต่ยังหาทีมหลักได้ไม่ลงตัวเหมือนทีมเชลซี พอจะตัดสินใจได้ว่าฝีมือผิดกันขนาดไหน

ผลงานออกมาขนาดนี้ ฝ่ายบริหารโดยเฉพาะประธานสโมสรอย่างโรมัน อบราโมวิช จากที่ควรเครียด ตอนนี้เหมือนยกภูเขาออกจากอก ทีมอยู่อันดับที่ 4 ในตารางพรีเมียร์ลีก น่าจะมีลุ้นกลับไปเล่นยูฟา แชมเปียนส์ ลีก อีกครั้งในปีหน้าแบบสวยๆ

พอผู้จัดการทีมมือขึ้น ขุมกำลังก็จะดูอุดมสมบูรณ์มีนักเตะให้เลือกเต็มไปหมดทั้งๆที่ช่วงซัมเมอร์ไม่ได้ซื้อใครเข้ามาใหม่เลย ตอนนี้หยิบใครเล่นก็ได้ บนม้านั่งสำรองก็ยังมีแข้งอย่าง โอลิวิเยร์ ชิรูด์, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, รอสส์ บาร์คลีย์, เอเมอร์สัน, มิชี บาตชูยี

ต้องยกให้ว่า นี่คือความมหัศจรรย์ช่วงเปิดฤดูกาลขนานแท้ของเชลซี และกุนซือหนุ่มที่ชื่อแฟรงค์ แลมพาร์ด!