ซัลซ์บวร์ก 0-2 ลิเวอร์พูล: ไฮไลท์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2019-20

หงส์ฟอร์มเฉียบ บุกอัด ซัลซ์บวร์ก 2-0 ลิ่ว 16 ทีม แชมเปี้ยนส์ ลีก (คลิป)

หงส์ฟอร์มเฉียบ บุกอัด ซัลซ์บวร์ก 2-0 ลิ่ว 16 ทีม แชมเปี้ยนส์ ลีก (คลิป)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การเเข่งขันฟุตบอล ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2019-2020 รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย เป็นการพบกันในสายอีระหว่าง เรดบูลส์ ซัลซ์บวร์ก เปิดรังเหย้า เรดบูลส์ อารีนา ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล

เจสซี มาร์ช กุนซือเจ้าบ้าน ซึ่งต้องคว้าชัยให้ได้เท่านั้น หากหวังจะเข้ารอบ 16 ทีม เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-1-2 โดยใช้ ทาคุมิ มินามิโนะ เล่นหน้าต่ำคอยทำเกมรุกร่วมกับคู่กองหน้าอย่าง ฮวาง ฮี-ชาน และ เออร์ลิง เบราท์ ฮาลันด์

ด้านทีมเยือนของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ขอเพียงแค่ไม่พลาดท่าแพ้ ก็จะกรุยทางสู่รอบน็อคเอาต์ทันที โดยวางหมากมาในแผน 4-3-3 นำทัพด้วยสามแนวรุก SMF อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน

ผลปรากฏว่า ครึ่งแรก เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ยังเสมอ ลิเวอร์พูล 0-0

ครึ่งหลัง ในนาทีที่ 57 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 เริ่มจาก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดบอลข้ามฟากจากขวามาซ้ายให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จ่ายขึ้นหน้าให้ ซาดิโอ มาเน กระชากเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วเปิดเข้ากลาง นาบี เกอิตา โหม่งเข้าไป

แค่นั้นยังไม่พอ นาทีที่ 58 ลิเวอร์พูล หนีเป็น 2-0 จากจังหวะเปิดบอลยาวขึ้นหน้า กองหลังซัลซ์บวร์กโหม่งสกัดไม่ดีมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาบอลไปแตะหนีผู้รักษาประตูแล้วยิงมุมแคบเข้าไปอย่างเทพ

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาชนะ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 13 คะแนน ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่มอี ส่วนรองแชมป์กลุ่มได้แก่ นาโปลี ที่เปิดบ้านถล่ม เกงค์ ไป 4-0 ขณะที่ ซัลซ์บวร์ก ได้อันดับ 3 หล่นไปเล่นถ้วยยูโรปาลีก

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามตัวจริง


ซัลซ์บวร์ก   : ซิซาน สตานโควิช - ราสมุส นิสเซ่น คริสเตนเซ่น, เฌอโรม อ็องเกเน่, มักซิมิเลียน วือเบอร์, อันเดรียส อูลเมอร์ - เอน็อค เอ็มเวปู, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช (แพ็ตสัน ดาก้า น.68), โดมินิค โซบอสซ์ไล (มาจีด อชิเมรุ  น.89) - ทาคูมิ มินามิโนะ - ฮวาง ฮี-ชาน, เออร์ลิง เบราท์ ฮาลันด์ (มาซายะ โอะกุกาวะ น.75)
 
ลิเวอร์พูล  : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน (โจ โกเมซ น.53), เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, นาบี เกอิต้า (ดิว็อค โอริกี้ น.87) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (เจมส์ มิลเนอร์ น.75), ซาดิโอ มาเน่   

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook