อาดิดาส-พูม่ายุติศึกสายเลือด ยอมคืนดีทำกิจกรรมร่วมกันเป็นครั้งแรกในรอบ60ปี

2บริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬายักษ์ใหญ่แห่งเยอรมนี อาดิดาส กับ พูม่า ยอมทำกิจกรรมร่วมกันเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี หลังผู้ก่อตั้งบริษัทที่เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดมีความขัดแย้งจนตัดสินใจแยกทางกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นที่ทราบกันว่าสองบริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬาชื่อดังระดับโลกจากประเทศเยอรมนีอย่าง อาดิดาส และ พูม่า นั้น ได้มีความพยาบาทอาฆาตแค้นต่อกันมาโดยตลอด ในช่วงระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา ความอาฆาตพยาบาทดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นมาจากความขัดแย้งระหว่างพี่น้องร่วมสายเลือด ได้แก่ อาดิ และ รูดอล์ฟ ดาสสเลอร์ ผู้เคยร่วมกันก่อตั้งกิจการผลิตรองเท้ากีฬาในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1920 แต่แล้วทั้งคู่ก็ทะเลาะเบาะแว้งกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อันเนื่องมาจากความแตกต่างของจุดยืนทางการเมือง ส่งผลให้ต่างฝ่ายต่างแยกทางไปก่อตั้งบริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬาองตนเองคนละฟากฝั่งแม่น้ำของเมืองแฮร์โซเกเนาราค ในแคว้นบาวาเรีย ที่อยู่ทางตอนใต้ของเยอรมนี

โดยอาดิได้ก่อตั้งบริษัทอาดิดาส ส่วนรูดอล์ฟก่อตั้งบริษัทพูม่า

เมื่อสองพี่น้องตระกูลดาสสเลอร์ได้แยกกิจการกันในปี ค.ศ.1948 (พ.ศ.2491) ประชากรส่วนใหญ่ของเมืองแฮร์โซเกเนาราคซึ่งล้วนเป็นแรงงานของทั้งอาดิดาสและพูม่า ทว่าเลือกเลือกภักดีต่อบริษัทใดบริษัทหนึ่งอย่างแตกต่างกัน ก็พลอยมีความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานต่อกันตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 21 กันยายนนี้ พนักงานของบริษัทคู่แค้นทั้งสองบริษัทจะจับมือทักทายและแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรร่วมกัน เพื่อสนับสนุนกิจกรรมขององค์กรที่มีชื่อว่า เดอะ พีซ วัน เดย์ ออร์แกไนเซชั่น ซึ่งประกาศให้วันที่ 21 กันยายนของทุกปีเป็นวันหยุดใช้ความรุนแรง และกิจกรรมการเตะฟุตบอลดังกล่าวจะถือเป็นคร้งแรกที่บริษัทอาดิดาสและพูม่าทำกิจกรรมร่วมกันนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1948 เป็นต้นมา

ปัจจุบัน ทั้งอาดิดาสและพูม่าถูกบริหารกิจการโดยลูกหลานของสองพี่น้องตระกูลดาสสเลอร์ ที่ถูกแบ่งแยกออกเป็นสายเลือดต่างสายและยังคงผูกพยาบาทต่อกันเช่นเดียวกับบรรพบุรุษมีเพียงหลานชายของรูดอล์ฟ คือ แฟรงค์ ดาสสเลอร์ เท่านั้นที่ทำงานให้กับทั้งอาดิดาสและพูม่า

ทั้งนี้ นับแต่ปี ค.ศ.2007 เป็นต้นมา บริษัทพีพีอาร์จากประเทศฝรั่งเศสซึ่งผลิตสินค้าหรูหรา เช่น กุชชี่ ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของพูม่า ขณะที่อาดิดาสจะถูกถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นจำนวนมาก และไม่มีปัจเจกบุคคลรายใดที่ถือหุ้นของอาดิดาสเกิน 5 เปอร์เซ็นต์