สกู๊ป "โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก" พักก่อนเริ่ม 10 เมตรสุดท้าย

ไปๆ มาๆ ชักจะไม่สนุกซะแล้วสำหรับสถานการณ์การลุ้นแชมป์โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้

หลังจากกิเลนผยอง “เอสซีจี เมืองทอง” บุกไปแพ้ทหาร “อาร์มี่ ยูไนเต็ด” 1-2 แล้ว "จ่าฝูง" ขุนพลเซราะกราว “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ที่บุกไปอัดพลังเอ็ม “โอสถาสภา” คาบ้าน 6-3

ส่งผลให้ช่องว่างของคะแนนบุรีรัมย์ ฉีกหนีเมืองทองฯ เป็น 5 แต้ม โดยเหลืออีกแค่ 6 เกมเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ทั้งสองทีมทำคะแนนตีคู่มากันตลอดตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล แถมเกมที่เจอกันเองทั้งเหย้า และ เยือน ขุนพลกิเลนผยองอุตส่าห์ยันเสมอได้ทั้งสองนัด ซึ่งถ้าเกิดแต้มเท่ากันก็ต้องมาตัดสินที่ลูกได้เสีย

ต้องยอมรับว่าลูกทีมของนายใหญ่แห่งอีสานใต้ “เนวิน ชิดชอบ” โคตรเก่งเลย!!!

ยิ่งถ้าได้ดูภาพการเล่นจะเห็นได้ว่า เกินทีมระดับไทยลีกไปแล้วหลายเท่า ประมาณว่าถ้าให้เปรียบเทียบก็ไม่ต่างจาก “ปารีส แซงต์ แชร์กแมง” ที่เล่นอยู่ในลีกเอิง ฝรั่งเศส ยังไงยังงั้น

แถมกองหน้าอย่าง “ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้” ที่เพิ่งซื้อเข้ามาช่วงต้นฤดูกาลก็ยิงกระจุย

อย่างนัดล่า สุดทำแฮตทริก ตอนนี้ซัดไปแล้ว 24 ประตู เหลืออีกแค่ 2 ประตู ก็จะแซงเจ้าของสถิติดาวซัลโวสูงสุดฤดูกาลที่แล้วอย่าง “เฮร์แบร์ตี้” ดูยังไงก็แซงแน่

ซึ่งต้องวบอกเลยว่า "จุดนี้" น่าจะเป็นสิ่งที่บุรีรัมย์เหนือกว่าทีมอื่น นั่นคือการมี “ผู้เล่นต่างชาติ” ที่เป็นของจริง ไม่มีของปลอมทำเหมือน

ขนาดกองหน้าเปลี่ยนแทบทุกฤดูกาล จากคู่ “แฟรงค์ อาแชมปง” กับ “ฟรองค์ โอแฮนด์ซ่า” มาเป็น “คาร์เมโล่ กอนซาเลซ” กับ “ฮาเวียร์ ปาติโญ่” จนมาถึงคู่ “ดิโอโก้” กับ “กิลแบร์โต้ มาเคน่า” ในยุคนี้

ยิ่งพวกกองกลางที่ศักยภาพสูงมากและสเปกของนายใหญ่ คือต้องอยู่ในกฎระเบียบที่วางไว้ มีวินัย ตั้งใจฝึกซ้อม ไม่ใช่ “เก่ง” หรือ “พรสวรรค์” อย่างเดียว  

ดังนั้นสถานการณ์ที่น่าจะลุ้นสนุกขึ้นมาคือการลุ้นอันดับ 3 เผื่อได้โควตา “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก” ที่หล่นมาจากถ้วย “เอฟเอคัพ” ถ้า “บุรีรัมย์” ชิงกับ “เมืองทอง”

ซึ่งมีทั้งฉลามชล “ชลบุรี เอฟซี” ที่เพิ่งขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ครั้งแรกของฤดูกาลหลังจากชนะ “ราชนาวี” 2-1 เมื่อวานมี 48 แต้ม รวมทั้ง “บางกอกกล๊าส” ที่คะแนนเท่ากัน

ตามมาด้วย “สุพรรณบุรี เอฟซี” กับ “แบงค็อก ยูไนเต็ด” มี 47 คะแนน และ “ราชบุรี มิตรผล” มี 46 คะแนน

ส่วนประเภททีมหนีตายขอยกให้เป็นไคลแม็กซ์เลย โดยเฉพาะแฟนบอลของ “ทีโอที เอสซี” มี 15 แต้ม “สระบุรี เอฟซี” มี 22 แต้ม และ “การท่าเรือ เอฟซี” มี 23 แต้ม ที่อยู่ในโซนตกชั้น

ตามหลังทีมปลอดภัย อันดับ 15 “ชัยนาท ฮอร์นบิล” และ อันดับ 14 “บีอีซี เทโรศาสน” ที่มี 27 คะแนน เท่ากัน  

แต่จบสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาดันเบรกทีมชาติ “ฟีฟ่า เดย์” พอดี ทำให้แต่ละทีมจะได้หยุดพักหายใจประมาณ 2 สัปดาห์ เรียกว่าจะทำอะไรก็รีบทำ เพราะเป็น “โอกาสสุดท้าย” จริงๆ แล้ว

นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการที่มีหน้าที่ดูแล “ผู้ตัดสิน” ที่ต้องใช้เวลานี้ไปเตรียมตัวบรรดา “อาจารย์” ที่จะลงทำหน้าที่แต่ละสนาม

เนื่องจากเปิดลีกช่วง 10 สุดท้าย “พลาดไม่ได้” และ “สุจริต” จากการที่ทุกทีมที่ลงสนามส่วนใหญ่มีส่วนได้ส่วนเสียกับทุกคะแนนที่จะได้หลังจากนี้

จะว่าไปก็ดีเหมือนกัน ที่ “เบรกทีมชาติ” ตอนนี้ให้ตั้งหลักกัน เพราะเปิดลีกมาอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า จะได้เห็นทุกทีมวิ่ง “สปรินต์” แบบลืมตายแน่นอนครับ